กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--ก.พ.
ก.พ.ค.ได้ฤกษ์เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ประจำปี พ.ศ. 2552 ระหว่างวันที่ 11- 25 สิงหาคม ศกนี้ โดยยืนยัน ยึดหลักความเสมอภาค โปร่งใส และยุติธรรม
นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ในฐานะโฆษก ก.พ.ค. กล่าวว่า ขณะนี้ ก.พ.ค. ได้ออกประกาศ เรื่อง รับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ประจำปี พ.ศ. 2552 จำนวน 14 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ และเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ และปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมายจาก ก.พ.ค.
โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไป คือมีสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี แต่ไม่เกินเจ็ดสิบปี เป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปหรือเทียบได้ ไม่ต่ำกว่านี้จากสถานศึกษาในประเทศหรือต่างประเทศที่ ก.พ. รับรอง รวมทั้งมีคุณสมบัติอื่นอย่างหนึ่งอย่างใด ประกอบด้วย เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนิติกรระดับ 9 ขึ้นไป หรือนิติกรระดับเชี่ยวชาญ หรือรับราชการหรือเคยรับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่านิติกรระดับ 8 หรือนิติกรระดับชำนาญการพิเศษ หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานของรัฐที่เทียบเท่า รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งอื่นที่ปฏิบัติงาน ด้านกฎหมายไม่ต่ำกว่าระดับ 8 หรือตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่าเจ็ดปี
รับราชการหรือเคยรับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับต้น หรือตำแหน่งอื่นในหน่วยงานของรัฐที่เทียบเท่า รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก หรือตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง หรือตำแหน่งอื่นในหน่วยงานของรัฐที่เทียบเท่า รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่ง รองอธิบดีขึ้นไป หรือประเภทบริหารระดับต้นหรือระดับสูงหรือตำแหน่งที่เทียบเท่า เป็นหรือเคยเป็นผู้สอนในสาขาวิชานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือวิชา ที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในสถาบันอุดมศึกษา และดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ แต่ในกรณีที่ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ต้องดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขากฎหมายมหาชน และรับราชการในหน่วยงานของรัฐนับแต่สำเร็จการศึกษาระดับดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี หรือสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขากฎหมายมหาชน และรับราชการในหน่วยงานของรัฐนับแต่สำเร็จการศึกษาระดับดังกล่าว มาแล้วไม่น้อยกว่าหกปี เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทนายความไม่น้อยกว่าสิบสองปี และ มีประสบการณ์ในการดำเนินคดีปกครองเกี่ยวกับวินัยข้าราชการหรือการบริหารงานบุคคลไม่น้อยกว่าห้าคดี รับราชการหรือเคยรับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี ในตำแหน่งอัยการจังหวัดหรือเทียบเท่า หรือรับราชการหรือเคยรับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ผู้พิพากษาศาลแพ่งหรือศาลอาญาหรือเทียบเท่า หรือตุลาการพระธรรมนูญศาลทหารกลาง
สำหรับผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการคัดเลือก สามารถขอใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 5-25 สิงหาคม 2552 ที่สำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี หรือดูรายละเอียดและพิมพ์ใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ.ที่ www.ocsc.go.th และสามารถยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 11-25 สิงหาคม 2552 ที่สำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี ในวันและเวลาราชการ โดยคณะกรรมการคัดเลือกจะทำการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัคร พร้อมกับประกาศวัน เวลา สถานที่ทดสอบข้อเขียน และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ในวันที่ 17 กันยายน 2552
โฆษก ก.พ.ค. กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการคัดเลือกด้วยความ เสมอภาค โปร่งใส และยุติธรรม เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งฯ จะประกอบด้วย การทดสอบข้อเขียน การประเมินประสบการณ์ในการทำงาน และ/หรือผลงานทางวิชาการ การตรวจสุขภาพ และการสอบสัมภาษณ์ นอกจากนี้ ยังมีการเชิญชวนให้บุคคลในแวดวงกฎหมายและ การบริหาร ราชการแผ่นดินให้ข้อคิดเห็นเพื่อนำไปประกอบการสอบสัมภาษณ์ ดังนั้น หากมีผู้ใดแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้สามารถได้รับคัดเลือก หรือมีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ โปรดอย่าหลงเชื่อ และสามารถแจ้งไปยังประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมเพื่อดำเนินการต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.