สภากทม. แนะเพิ่มงบยกระดับมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กฯ ในพื้นที่กทม.

ข่าวทั่วไป Friday August 7, 2009 13:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กทม. สภากทม . แนะสำนักพัฒนาสังคม เพิ่มงบประมาณปรับปรุงศูนย์เด็กเล็กฯ 318 ศูนย์ ยกระดับมาตรฐานและต้องเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ โครงการชุมชนพอเพียง เร่งสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนให้มากขึ้น รวมถึงเฝ้าระวัง กาฬโรค ปอดสายพันธุ์ใหม่ จากประเทศจีน นายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักพัฒนาชุมชน สำนักอนามัย และสำนักโยธา โดยมีนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนักที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 4-6 สภากรุงเทพมหานคร เพิ่มงบประมาณยกระดับมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กฯ กทม. โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯได้ตั้งข้อสังเกต การดำเนินงานของสำนักพัฒนาสังคมในส่วนของศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียนทั้ง 318 ศูนย์ ในพื้นที่ 47 สำนักงานเขตควรยกระดับให้มีความมีมาตรฐานที่สูงขึ้นและเท่าเทียมกัน อีกทั้งการเสนอของบประมาณจำนวน 19 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กตามนโยบายในการยกระดับด้านมาตรฐานยังมีการเสนอขอที่ไม่เพียงพอต่อการใช้พัฒนาและปรับปรุงให้ทั่วถึง เพราะเด็กในช่วงอายุดังกล่าว ถือว่ามีความสำคัญในการพัฒนาให้มีการเจริญเติบโตที่ดีก่อนวัย อีกทั้งอาสาสมัครหรือพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯยังไม่มีประสบการณ์เพียงพอ และยังมีอายุค่อนข้างน้อยไปกับความรับผิดชอบในด้านนี้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในโครงการหรือกิจกรรมของสำนักพัฒนาสังคมยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ อีกทั้งการจัดตั้งชุมชนของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีอัตราขยายตัวค่อนข้างมาก ควรคำนึงถึงความเหมาะสมในด้านต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาในแต่ละชุมชน อีกทั้งโครงการชุมชนพอเพียง กรุงเทพมหานครควรกำหนดนโยบายตามสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งจะต้องคำนึงถึงเหตุและผลในการบริหารจัดการชุมชน ซึ่งจะต้องศึกษาและวางกรอบการดำเนินงานไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการชุมชนพึ่งตนเองที่มีอยู่ก่อนหน้า เห็นควรต้องเร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้กับชุมชนในโครงการนี้อีกด้วย ติดตามงานของสำนักอนามัย สำหรับ “โครงการทำหมันสุนัขจรจัดแล้วทำการปล่อยกลับสถานที่เดิม” ของสำนักอนามัยควรเข้าไปดำเนินการในชุมชนมากกว่าศาสนสถาน เพราะสุนัขส่วนมากเกิดจากแหล่งชุมชนไม่ได้มาจากวัด อีกทั้งควรให้ความสำคัญในการว่าจ้างบุคลากร อัตรา นายสัตวแพทย์ ควรจะต้องว่าจ้างผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าว่าจ้างนายแพทย์ที่จบใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเจ้าของในการนำสุนัขมาทำหมันและฉีดวัคซีน นอกจากนี้ควรจัดสรรเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอกับการฉีดวัคซีนและทำหมันสุนัขจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงโครงการก่อสร้างโรงฆ่าสัตว์ของกทม. เขตหนองแขม ที่ผ่านมาโครงการมีความล่าช้า เนื่องจากผู้รับเหมาทิ้งงานควรเร่งผู้รับเหมามาดำเนินการปรับปรุง รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์มาเพิ่มเติมในส่วนที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพขโมยไป พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมบางส่วนที่ชำรุด อีกทั้งโครงการจัดทำแว่นสายตาฟรีให้กับประชาชน จะต้องปรับปรุงแว่นสายตาให้มีคุณภาพและคงทนต่อการใช้งาน พร้อมทั้งกระจายแว่นตาให้ทันต่อความต้องการของประชาชน และควรเพิ่มมาตรการควบคุมโรคไข้หวัด 2009 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเฝ้าระวังกาฬโรคปอดสายพันธุ์ใหม่จากประเทศจีนอีกด้วย ทั้งนี้ในที่ประชุมได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครกันอย่างกว้างขวาง พร้อมมอบหมายให้ทางหน่วยงานที่ได้รับการพิจารณานำเอกสารเพิ่มเติมมายื่นให้ทางคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมกันนี้คณะกรรมการฯ ได้มีมติแต่งตั้ง นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.เขตบางรัก เป็นโฆษกประจำคณะกรรมการฯ ชุดนี้ด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ