7 วิธี สร้างภูมิคุ้มกันห่างไกลหวัด

ข่าวทั่วไป Thursday August 13, 2009 16:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--ดับเบิล อิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ ภูมิคุ้มกันโรคเป็นระบบที่คุณมีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว และคุณสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรคให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันคุณจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009, เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และโรคติดเชื้อต่าง ๆ เกือบทุกชนิด ภูมิคุ้มกันโรคทำงานอย่างไร ? นพ. วิชัย เดชะทัตตานนท์ ผู้อำนวยการด้านสร้างเสริมสุขภาพ ประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 เปิดเผยว่า “ ภูมิคุ้มกันโรค ( Immunity ) คือ ระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกาย คือเซลล์นับล้านล้านตัวจะทำหน้าที่ทำลาย และกำจัดอนุมูลอิสระ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส สารพิษ allergen and debris พบว่า 30 — 60 นาที หลังจากที่สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดขาวจำพวก Neutrophilic granulocyte จะเป็นพวกแรกที่มาถึงบริเวณนี้โดยการลอดตัวผ่านผนังหลอดเลือด ออกมาในเนื้อเยื่อเพื่อจะมากินและทำลายสิ่งแปลกปลอมนั้น ประมาณ 4- 5 ชั่่วโมงหลังจากนั้น เซลล์อีกพวกหนึ่งคือ mono nuclear cells ซึ่ง ได้แก่ lymphocyte และ monocyte จึงจะผ่านผนังเส้นเลือดออกมา แล้ว monocyte จะเปลี่ยนเป็น macrophage ซึ่งกันและทำลายสิ่งแปลกปลอมได้โดยตรง ส่วนเม็ดเลือดขาว lymphocyte จะมาทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทาน antibody ( Specific Immune Response ) ” วิธีกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย 1. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดโดยรวม ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว ( White Blood Cell ) ถูกหมุนเวียนไปยังเซลล์ทั่งร่างกาย และทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว มีความสามารถในการเก็บกินสิ่งแปลกปลอมมากขึ้น ซึ่งฤทธิ์นี้จะอยู่หลังจากการออกกำลังกายประมาณ 2 ชั่วโมง และถ้าออกกำลังกายเป็นประจำพบว่า ระยะเวลาของฤทธิ์ยาวนานขึ้น โดยเลือกเล่นกีฬา เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว ขี่จักรยาน ฯลฯ หรือการออกกำลังกายประเภทไหนก็ได้ที่ทำให้อัตราการเต้นของชีพจร มีค่าเท่ากับ 64 % ~ 74 % โดยใช้สูตรคำณวน 220 — อายุ x 64 % สำหรับคนอายุ 40 ปี = ( 220-อายุ ) x 64% = 115 ครั้ง / นาที และไม่เกิน ( 220- อายุ ) x 74% = 133 ครั้ง / นาที เพื่อให้ผลดีที่สุด ควรออกการออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันใน 1 อาทิตย์ ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป การออกกำลังกาย มีผลทำให้โอกาสป็นโรคหวัดน้อยลง และยังพบว่าทำให้ระยะเวลาเจ็บป่วยสั้นลงด้วย แต่ไม่ควรออกกำลังกายนานเกิน 90 นาที / 1 ครั้ง เพราะอาจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ( Cortisol ) ซึ่งจะไปกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย 2. นอนหลับให้เพียงพอ และควรปิดไฟทุกดวงขณะนอนหลับ ควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-9 ชั่วโมง การนอนหลับทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความเครียด และความกังวลทำให้ร่างกายหลั่งสารอาดรีนาลีน ( Adrenalin ) เมื่อมีสารอาดรีนาลีนปริมาณมากทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง และขณะหลับร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ( Melatonin ) ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ การนอนไม่เพียงพอ หรือการนอนในห้องที่มีไฟ หรือแสงสว่างทำให้รบกวนกระบวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินได้ 3. รับประทานอาหารสดที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง เช่น ถั่ว ผัก และผลไม้ ซึ่งมีวิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ อยู่มากมาย เช่น วิตามินเอ บี ซี และสังกะสี ซีลีเนียม ธาตุเหล็ก ฯลฯ ซึ่งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และวิตามินบีที่อยู่ในเมล็ดถั่ว ยังช่วยบำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง อาหารกระป๋องต่าง ๆ จะถูกปรุงแต่งมาแล้ว ซึ่งจะไม่มีวิตามินตามธรรมชาติหลงเหลืออยู่ และมักปนเปื้อนด้วยสารเคมี และสารกันบูด ( preservation agents ) การรับประทานอาหารเหล่านี้ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกำจัดสารเคมีเหล่านี้ออก 4. หายใจเข้าลึก ๆ ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ทุกวัน เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายต้องใช้ออกซิเจนเป็นอาหาร ถ้าเราขาดออกซิเจนเพียงไม่กี่นาทีเซลล์ก็จะตายได้ จึงควรออกกำลังกายตอนเช้าในสวนสาธารณะ หรือพยายามปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้าน หรือหาต้นไม้ที่คายออกซิเจนในเวลากลางคืนมาปลูกในห้องนอน 5. ควรให้ร่างกายได้โดนแสงแดดยามเช้าทุกวัน เวลาที่เหมาะสมที่จะโดนแดดคือช่วงเวลา 0630 — 0900 น. ร่างกายต้องการรังสีจากแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานของระบบสารเคมีสารเคมีในร่างกายที่จะส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และสร้างวิตามินดี - ที่ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ซึ่งจะทำให้ทำให้ร่างกายแข็งแรงโดยรวม ควรให้ร่างกายถูกแดดวันละ 30 นาทีในช่วงเวลาดังกล่าว 6. ดื่มน้ำกรองสะอาดวันละ 6 — 8 แก้ว ( 1500-2000 CC ) ไม่ควรดื่มน้ำที่ปนเปื้อน และสารที่มักปนเปื้อนมากับน้ำคือคลอรีน ซึ่งเครื่องกรองน้ำจะช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำได้ 7. พยายามทำให้อารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอ อย่าเครียด อารมณ์ และจิตใจส่งผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าคิดว่าจะหายป่วยให้ได้ ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานได้ดีขึ้น แต่ถ้าเครียดก็จะทำให้ระบบทำงานได้น้อยลงกว่าปกติ เพียงแค่นี้คุณก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการติดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ด้วยตัวเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ วรรณภา ประจงศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ดับเบิล อิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โทร 0 2769 2000 ต่อ 5303 แฟกส์ 0-2381-2769

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ