กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--คต.
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกประกาศระเบียบฉบับที่ L 191 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 เกี่ยวกับข้อกำหนดในการปฏิบัติตามคำสั่ง Directive 2005/32/EC (กำหนดกรอบเงื่อนไขการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงาน ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบครบวงจร เพื่อใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ (Ecodesign of Energy-using Products หรือ EuP Directive)) สำหรับสินค้าตู้เย็น ตู้แช่แข็งใช้ในครัวเรือน ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ที่มีความจุไม่เกิน 1,500 ลิตร ยกเว้น สินค้าที่ใช้แหล่งพลังงานหรือมีวัตถุประสงค์อื่น
โดยมีขั้นตอนการประเมินความสอดคล้อง (conformity assessment) และต้องใช้ระบบ internal design control system หรือระบบ management system การจัดทำเอกสารทางเทคนิค และ ผลการคำนวณ รวมทั้งขั้นตอนการตรวจพิสูจน์สำหรับวัตถุประสงค์การเฝ้าระวังตลาด จะต้องดำเนินการตามข้อกำหนด โดยมี benchmark สำหรับ best — performing ของสินค้าในช่วงที่ระเบียบมีผลบังคับใช้ ระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2552 เป็นต้นไป โดยข้อกำหนด generic ecodesign ตามรายละเอียดข้อ 1(1) และ 1(2) ใน Annex II จะนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป ตามลำดับ ส่วนข้อกำหนด specific ecodesign สำหรับ Energy Efficiency Index จะนำมาใช้ตาม กำหนดเวลาที่ระบุในAnnex II สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2009:191:0053:0068:EN:PDF
อย่างไรก็ตาม ภายใน 5 ปี หลังจากระเบียบนี้มีผลบังคับใช้แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปจะทบทวนระเบียบนี้โดยคำนึงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และจะประเมินว่ามีความจำเป็นหรือไม่ในการออกข้อกำหนด ecodesign สำหรับสินค้าตู้แช่ไวท์ ภายในไม่เกิน 2 ปี หลังระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ให้ยกเลิกคำสั่ง Directive 96/57/EC ว่าด้วยข้อกำหนดประสิทธิภาพพลังงานของสินค้าตู้เย็น-ตู้แช่แข็งใช้ไฟฟ้า (ระเบียบเดิม) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่าไทยส่งออกสินค้าตู้เย็น ตู้แช่แข็งไปสหภาพยุโรป มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 2,818 ล้านบาท (ปี 2549-2551) ในปี 2551 ไทยส่งออกมูลค่า 3,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20 และในปี 2552 (มค.- มิย.) ไทยส่งออกมูลค่า 1,236 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26