ภาวะตลาดและแนวโน้มราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 19 ส.ค.52 โดยวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 19, 2009 09:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT) - ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสถาบัน ZEW ของยูโรโซนและเยอรมันพุ่งสูงขึ้นมากกว่าตลาดคาดไว้มาก + อัตราการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตของสหรัฐส่งสัญญาณความมีเสถียรภาพ + ผลประกอบการที่สดใสในกลุ่มค้าปลีกและข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามข้อมูลปริมาณสำรองน้ำมันที่จะประกาศโดย EIA ในคืนนี้ หลังเมื่อคืนนี้ API รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบได้ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง -6.1 ล้านบาร์เรล (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป) - กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT) Source : Bisnews (Daily) Source : Bisnews (30 Min) - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นดูเป็นบวก, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวก ทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทำให้ดูราคาเป็นบวก, Fast Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลง ทำให้ราคามีโอกาสจะปรับตัวลง, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 78.918 ถือเป็นระดับ overbought และทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลง, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $933-$941 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.01-฿34.09 - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 45.506 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูราคาเป็นลบ, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และ $912 ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ Source: YLG’s estimations พิจารณาตารางที่ 2 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,200 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,190 หรือที่ $938.55) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 10 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,290 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 100 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFQ09 มีพรีเมี่ยมมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 100-10 = 90 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้ ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน ปัจจัยบวก - ภาวะเศรษฐกิจยุโรป — สถาบัน ZEW เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ระดับ 54.9 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ที่ ระดับ 44 จากระดับ 39.5 ในเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับเยอรมันที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 56.1 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ที่ ระดับ 45 จากระดับ 39.5 ในเดือนก่อนหน้า - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - เมื่อคืนนี้ผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ อาทิ โฮม ดีโปท์ อิงค์, ทาร์เก็ต คอร์ป และแซคส์ อิงค์ ออกมาดีเกินคาด จากการปรับลดต้นทุน แม้การขยายตัวของรายได้จะยังคงชะลอตัว + อัตราการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตของสหรัฐแสดงสัญญาณความมีเสถียรภาพเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคสหรัฐอาจจะไม่ได้อยู่ในภาวะย่ำแย่อย่างที่วิตก แม้ว่าเผชิญกับภาวะลดการจ้างงานและภาคที่อยู่อาศัยตกต่ำ + ABC News เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ -46 ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. จากระดับ -47 ในสัปดาห์ก่อนหน้า - ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0048 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4126 จากที่ปิด $1.4078 เมื่อวันก่อนหน้า หลัง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมันเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกได้บดบังการร่วงลงเกินคาดของตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐในเดือนก.ค. โดยการลดความต้องการซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัยสองสกุลทั้งดอลลาร์และเยน ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงอีก +$0.0027 มาที่ $1.4153 - ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. พุ่งขึ้น +$2.44 มาปิดที่ $69.19 ต่อบาร์เรล หลังผลประกอบการที่ดีเกินคาดจากบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง + การที่ API รายงานว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบได้ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง -6.1 ล้านบาร์เรล มาที่ 342.4 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ส.ค. ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น +1.5 ล้านบาร์เรล มาที่ 161 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินลดลง -8.47 แสนบาร์เรล มาที่ 212.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ย. ขยับขึ้นต่ออีก +$1.18 มาอยู่ที่ $70.37 ต่อบาร์เรล ปัจจัยลบ - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - เมื่อคืนนี้ 1. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างร่วงลงเกินคาด -1% มาที่ 5.81 แสนยูนิตในเดือนก.ค. และการอนุญาตก่อสร้างใหม่ร่วง -1.8% มาที่ 5.6 แสนยูนิต 2. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปลดลงเกินคาด -0.9% ในเดือนก.ค. และลดลง -6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานลดลงเกินคาด -0.1% ในเดือนก.ค. แต่เพิ่มขึ้น +2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี - ธนาคารกลางออสเตเลีย — ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (ปัจจุบันอยู่ที่ 3%) หากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้นตามคาด และระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีเกินคาด - ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -2 สต. มาที่ 34.04 บาท จากที่ปิด 34.06 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงจากดัชนีความเชื่อมั่นที่พุ่งขึ้นของเยอรมัน ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +3 สต. มาที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 34.01 บาทและ 33.97 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.09 บาทและ 34.13 บาท ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ - คืนนี้ 1. สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ส.ค. โดยผลสำรวจคาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น +1.0 ล้านบาร์เรล ปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น +4 แสนบาร์เรลและปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจร่วงลง -1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น +0.1% - กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 18 ส.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,065.49 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.20 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.25 ล้านออนซ์ ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ Source : Bloomberg หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้ ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ