กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. อยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของทรัสตี เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสำหรับร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552
หลักการและแนวทางที่สำคัญของร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของทรัสตี มีดังนี้
1. หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของทรัสตี เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ ไม่ว่าทรัสตีจะใช้ทรัสต์
ในธุรกรรมสำหรับการบริหารและจัดการลงทุน (Active trust) หรือธุรกรรมทรัสต์สำหรับการถือครองทรัพย์สินหรือเพื่อประโยชน์ในการชำระหนี้ในการออกหลักทรัพย์ (Passive trust) โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมุ่งเน้นในเรื่องดังต่อไปนี้
- ให้ทรัสตีมีระบบงานเพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุน (fiduciary duties)
- มีการจัดทำงบการเงินของกองทรัสต์แยกจากงบการเงินของทรัสตีและต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี
- ในการติดต่อชักชวนให้ผู้ก่อตั้งทรัสต์เข้าทำสัญญาก่อตั้งทรัสต์หรือขายใบทรัสต์ จะต้องเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจให้ครบถ้วนและภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
- ในกรณีที่ทรัสตีมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดการกองทรัสต์ บุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตการจัดการกองทุนส่วนบุคคล หรือการเป็นผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นผู้ที่ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ ผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุน หรือนายทะเบียนหลักทรัพย์ แล้วแต่ธุรกิจที่มอบหมาย
2. รายการในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ เนื่องจากการก่อตั้งทรัสต์เกิดขึ้นโดยผลของสัญญา
ดังนั้น หลักเกณฑ์ในรายละเอียดหลายเรื่อง ก.ล.ต. จึงกำหนดให้เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสตี เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจ
3. หลักเกณฑ์ในรายละเอียดของธุรกรรมแต่ละประเภท สำหรับ Passive trust ยังคงใช้หลักเกณฑ์ของธุรกรรมแต่ละประเภทที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยไม่ต้องออกหลักเกณฑ์ในรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น กรณีการตั้ง Reserve account ในรูปทรัสต์ เพื่อการชำระหนี้ในการออกหุ้นกู้สามารถใช้หลักเกณฑ์ การออกหุ้นกู้ตามปกติ เป็นต้น ส่วน Active trust เนื่องจากธุรกรรมแต่ละประเภทอาจแตกต่างกันในเรื่อง
ของความซับซ้อนในการลงทุน ความกว้างของการระดมทุน และบทบาทของทรัสตี ดังนั้น Active trust แต่ละประเภทจะมีการออกหลักเกณฑ์ในรายละเอียดที่เพิ่มเติมหรือแตกต่างจากหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 ได้
ก.ล.ต. ได้เผยแพร่แนวทางการร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th และขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ดังกล่าว หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2695-9761 หรือทาง e-mail ที่ [email protected] ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552