กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--เอาท์ดอร์
มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่2 เตรียมจุดกระแสหนังทะลุมิติ “โรงภาพยนตร์ 4D หรือโรงภาพยนตร์ 4 มิติ” ชูเป็นหนึ่งในสุดยอดไฮไลท์ภายในงาน ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย.52 นี้ ด้านผู้ผลิตหนังแอนิเมชั่นตื่นตัว เชื่อจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นของไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก และส่งผลให้มูลค่าตลาดเพิ่มมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand Entertainment Expo 2009” ซึ่งได้มีกำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2552 นี้ ณ ศูนย์จัดนิทรรศการและการประชุม รอยัล พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจภายในงาน คือ “โรงภาพยนตร์ 4D” หรือ บันเทิงไทยทะลุมิติ เป็นการนำเสนอศักยภาพด้านการบันเทิงของไทย ที่ตื่นตาตื่นใจในรูปแบบของ Fantastic 4D Theater ภายใต้ 8 ผลงานสร้างสรรค์ คือ War Show, Fighting Show, Romance Show, Horrow Show, Television Show, Animation Show, Music Show และ Thailand : The Paradise for film โดยมีกำหนดจัดให้ในวันพุธที่ 16 ก.ย — วันศุกร์ที่ 18 ก.ย. จำนวน 5 รอบ เวลา 14.00 — 18.00 น. และวันเสาร์ที่ 19 — วันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. จำนวน 8 รอบ เวลา 11.00 — 18.00 น.
ทั้งนี้ นายลักษณ์ เตชะวันชัย นายกสมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแห่งประเทศไทย หรือ TACGA ได้เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 ว่า ทางสมาคมฯ พร้อมแล้วที่จะโชว์ศักยภาพและฝีมือของคนไทยในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ทั่วไป ภาพยนตร์โฆษณา และเกม ซึ่งปัจจุบันถือผลงานและฝีมือคนไทยนั้นได้รับการยอมรับจากกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิงนานาชาติ ให้เป็น 1 ใน 5 ของผู้ผลิตงานคุณภาพของเอเชีย
โดยหนึ่งในไฮไลท์ของงาน ที่จะนำโรงภาพยนตร์ 4 มิติ (4D) มาจัดแสดง และแอนิเมชั่นได้นำผลงานมาแสดงด้วยนั้น ตนมองว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันและส่งเสริมให้กลุ่มภาพยนตร์แอนิเมชั่น ได้รับโอกาสขยายตัวและเติบโตมากยิ่งขึ้น เพราะโรงหนัง 4 มติ เป็นการเพิ่มอรรถรสของการดูหนัง 3 มิติ ซึ่งที่นั่งชมภาพยนตร์ จะต้องมีการควบคุมด้วยระบบเครื่องกล (Mechanic) ที่จะทำให้เก้าอี้มีการเคลื่อนไหว รวมทั้งภายในโรงจะต้องมีการสร้างเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น กลิ่น ไอน้ำ ฯลฯ และทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในอนาคตหากบ้านเรามีการลงทุนโรงหนังประเภทนี้ และมีการบริหารจัดการที่ดี เชื่อว่าจะได้รับความนิยมเช่นกัน สุดท้ายจะส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นของไทยให้เติบโต เพราะนอกจากจะผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศแล้วยังเป็นสินค้าส่งออก สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อีกด้วย
“ปัจจุบันการผลิตภาพแอนิเมชั่นของไทยมีแนวโน้มที่ดีมาก โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวมกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 12 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งเป็นเกม 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐให้การส่งเสริมอุตสาหกรรม Creative Economy ที่พัฒนาบุคลากรทางด้านสร้างสรรค์งานแอนนิเมชั่นและกราฟิก ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนสาขาด้านแอนิเมชั่นและกราฟฟิคกว่า 20 สถาบัน และมีผู้จบการศึกษาทางด้านนี้ปีละกว่า 2,000 คน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 นี้ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติหรือซิปป้า และกรมส่งเสริมการส่งออก มีวัตถุประสงค์ต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ พร้อมทั้งสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ซึ่งในส่วนของสมาคมฯ เองก็ได้จัดพื้นที่แสดงจำนวน 10 บูธ โดยจะตกแต่งเป็นสไตล์แกลลอรี่ และถือว่างานนี้จะเป็นเวทีที่ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยและต่างชาติมาพบกัน และจะสร้างมูลค่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นของไทยให้เพิ่มมากขึ้น