ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ ‘A+(tha)’ แก่หุ้นกู้ชุดใหม่ของบมจ ปูนซิเมนต์ไทย

ข่าวทั่วไป Friday August 26, 2005 12:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว ‘A+(tha)’แก่หุ้นกู้ ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ ชุดใหม่ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (“SCC”) ครั้งที่ 2/2548 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี 2552 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้จำนวน 7.5 พันล้านบาทของ SCC ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคมนี้ รวมทั้งนำไปใช้ในการลงทุนของบริษัท
อันดับเครดิตของ SCC สะท้อนถึงการกระจายตัวของรายได้ที่สูงของบริษัท โดยมีธุรกิจปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี กระดาษ และวัสดุก่อสร้างเป็นธุรกิจหลัก จากการที่ SCC มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในกลุ่มลูกค้าและมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ทำให้ SCC เป็นผู้นำทางด้านส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัท อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของ SCC รวมถึงการที่บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (net debt to EBITDA ratio)ให้อยู่ในระดับ 2.0-2.5 เท่า
ความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCC ได้มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทสามารถลดอัตราส่วน net debt to EBITDA มาอยู่ที่ประมาณ 2.0 เท่า ณ สิ้นปี 2547 และ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 จากระดับ 3.5 เท่า ณ สิ้นปี 2546 และ 4.6 เท่า ณ สิ้นปี 2545 เมื่อรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม SCC สามารถลดระดับอัตราส่วน net debt to EBITDA มาต่ำกว่าระดับ 2.0 เท่าเล็กน้อย ณ สิ้นปี 2547 และ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 นอกจากนี้ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและการใช้เงินลงทุนที่ไม่สูงนักช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ SCC มีแผนการลงทุนที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งทางด้านสถานะทางการเงินและความเสี่ยงทางธุรกิจ ความเสี่ยงเหล่านี้คาดว่าจะลดลงโดยการที่บริษัทมีทีมผู้บริหารที่มีประวัติการบริหารการจัดการที่แข็งแกร่ง และการที่บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาระดับหนี้สินในระยะยาวให้อยู่ในระดับที่มีความคล่องตัวทางการเงินที่ค่อนข้างสูง
อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงภาวะของอุปทานที่มีมากเกินความต้องการในประเทศ และสภาวะการแข่งขันที่สูงในธุรกิจหลักของบริษัท ภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องได้เริ่มส่งผลกระทบต่อผลกำไรของ SCC และอาจทำให้อุปสงค์ของสินค้าบางตัวของบริษัทลดลงได้ ในขณะที่แผนการลงทุนทั้งในประเทศและในภูมิภาคของ SCC อาจส่งผลให้ระดับหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทตัดสินใจลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการ naphtha cracker หรือโครงการการเพิ่มกำลังการผลิตของกระดาษพิมพ์เขียน ซึ่งยังอยู่ในระหว่างทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ฟิทช์ยังพิจารณาถึงภาระหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่เกิดจากการเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวน 9.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งการค้ำประกันนี้คาดว่าจะสูงขึ้นในไตรมาส 3 ปี 2548 เนื่องจาก SCC ได้มีการทำการค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัทที่ไปร่วมลงทุนในประเทศอิหร่าน นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการผลิตของกลุ่มปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดหาแหล่งน้ำสำรองสำหรับแก้ปัญหานี้แล้ว
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 กำไรสุทธิของ SCC เพิ่มขึ้น 24% เป็น 18.7 พันล้านบาท โดยเป็นผลสืบเนื่องจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี การลดลงของดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัท และเงินปันผลที่สูงขึ้นจากบริษัทอื่น ในขณะเดียวกัน ต้นทุนทางด้านพลังงานที่สูงขึ้น ได้ส่งผลให้ EBITDA ของกลุ่มธุรกิจปูนซีเมนต์และกลุ่มธุรกิจกระดาษอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว ถึงแม้ว่าจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ในภาพรวม EBITDA ของ SCC เพิ่มขึ้น 16% เป็น 24.8 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 ฟิทช์กล่าวว่าแนวโน้มของ EBITDA ในปี 2548 ทั้งปีอาจอยู่ในระดับค่อนข้างทรงตัวเนื่องจากต้นทุนทางด้านพลังงานที่สูงขึ้น และการที่จะมีการปิดโรงงานผลิต olefins เป็นเวลา 35 วันในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อทำการซ่อมบำรุง
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ระดับหนี้สินรวมของ SCC อยู่ที่ 104.5 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินระยะสั้นที่ระดับ 43% ของหนี้สินรวม ในจำนวนหนี้สินระยะสั้นทั้งหมด ประมาณ 70% จะอยู่ในรูปของหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี SCC มีหนี้สินประมาณ 80% อยู่รูปของหุ้นกู้ ซึ่งบริษัทมีความประสงค์ที่จะใช้ตลาดหุ้นกู้ในประเทศเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่สำคัญอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล,วสันต์ ผลเจริญ, Vincent Milton, + 662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ