กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--แอสเซท พลัส
แอสเซท พลัส เสนอขาย IPO กองทุนแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 8 (ACFIF8) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หรือตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ 9 เดือน คาดผลตอบแทน 2.38% ต่อปี* พร้อมเสนอ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 5 (ASP-ACFIXED5) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทน 1.75% ต่อปี ** และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 1 (ASP-ACGOV1) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และตั๋วแลกเงินธนาคาร อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทน 1.00% ต่อปี***
ดร.วิน อุดมรัชต์วนิชย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงนี้ได้รับแรงกดดันทั้งจากจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่เข้ามาในตลาดจากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยในช่วงต้นเดือนกันยายน และแนวโน้มเชิงบวกด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้โดยรวมปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ได้ปรับลด Duration มาให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 ปี เพื่อลดความผันผวนในด้านความเสี่ยงจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย (Interest rate risk) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสปรับขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือมากกว่า 5 ปี
ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ดร.วิน ให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ในประเทศน่าจะมีแนวโน้มปรับขึ้นในอีก ช่วง 2-3 ปี หากเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน และ ราคาเหล็ก โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นผลประมาณสิ้นไตรมาส 4 หรือต้นไตรมาส 1 ปี 2553 และผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้ปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของ บลจ.แอสเซท พลัส คาดการณ์ว่า หากภาวะการณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามที่ตั้งสมมุติฐานไว้ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.25% ในปีนี้ และมีโอกาสปรับสูงขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ช่วงนี้แม้ว่าอัตราผลตอบแทนของจะปรับลดลงแต่โดยรวมผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับเงินฝากอายุใกล้เคียงกันในประเทศ ทั้งนี้ แนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ในช่วงต่อไปน่าจะมีการปรับลดลง จากแนวโน?มเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ที่ปรับดีขึ้นทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต และภาคส่งออก ประกอบกับรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ปรับนโยบายหันมาระดมทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ค่าประกันความกังวลในเรื่องความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Default Swap (CDS)) ปรับลดลง และค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้น
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า สำหรับบริษัทฯ ในช่วงนี้ ได้เสนอกองทุนที่มีความหลากหลาย ทั้งกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่มีรอบระยะการลงทุนที่หลากหลาย ทั้ง 9 เดือน 6 เดือน และ 3 เดือน เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ
สำหรับกองทุนแรกเป็นกองทุนใหม่ ที่เปิดเสนอขาย IPO ตั้งแต่วันนี้ — 2 กันยายน นี้ คือ กองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 8 (ACFIF8) เป็นกองทุนต่างประเทศ ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา สำหรับรอบการลงทุนนี้ จะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB)) หรือ Export-Import Bank of Korea (KEXIM) หรือ Korea Development Bank (KDB) รอบการลงทุนแรกประมาณ 9 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.38% ต่อปี*
นอกจากนี้ ในวันที่ 2 กันยายน บริษัทฯ จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 5 (ASP-ACFIXED5) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ เช่น ตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ (TISCO) บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL) บจ.อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง (ADLC) บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) และธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ (LHB) รอบการลงทุนนี้ประมาณ 6 เดือน คาดผลตอบแทน 1.75% ต่อปี ** และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 1 (ASP-ACGOV1) รอบการลงทุนนี้ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และตั๋วแลกเงินธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ รอบการลงทุนนี้ประมาณ 3 เดือน คาดผลตอบแทน 1.00% ต่อปี***
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308
อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th