พม. - กทม. ลงนามผลักดันงานส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่คนพิการ

กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกทม. MOU เดินหน้าส่งเสริมสวัสดิการคนพิการในกรุงเทพฯ ให้ได้รับสิทธิตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดออกแนวทางปฏิบัติในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรมในเดือน ก.ย. 52 ขณะที่กทม. ยกร่างแผนส่งเสริมคนพิการใกล้เสร็จเตรียมประกาศเจตนารมณ์ 4 ก.ย. นี้ พร้อมดูแลสวัสดิการคนพิการครอบคลุมทั้งกายภาพ สิ่งแวดล้อม การศึกษา การแพทย์ และสวัสดิการ เตรียมส่งทีมสำรวจและจดทะเบียนคนพิการเพิ่ม คาดทั่วกรุงมี 5 หมื่น - 6 หมื่นคน นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามบันทึกความร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกรุงเทพมหานคร ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อให้คนพิการได้เข้าถึงบริการต่างๆ ของรัฐ และได้รับการส่งเสริมศักยภาพในด้านต่างๆ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 พม. เผยรัฐเตรียมแจกเบี้ยยังชีพคนพิการ 500 บาทเริ่มเม.ย.53 และสั่งหน่วยงานจัดสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ นายอิสสระ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้การคุ้มครองและส่งเสริมสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมแก่ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือผู้ทุพพลภาพ และผู้ที่อยู่ในภาวะยากลำบากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้ ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มีเจตนารมณ์ในการคุ้มครองสิทธิคนพิการให้เข้าถึงบริการต่างๆ ของรัฐและได้รับการส่งเสริมศักยภาพคนพิการด้านต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ได้เร่งรัดให้ดำเนินการออกอนุบัญญัติต่างๆ ภายในเดือนกันยายน 2552 เพื่อให้มีวิธีการปฏิบัติในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม และจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีนโยบายจ่ายเบี้ยยังชีพคนพิการทุกคนเดือนละ 500 บาท โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป อีกทั้งให้ขยายบริการทำบัตรประจำตัวคนพิการในระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานราชการสำรวจและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ราชการ เพื่อให้คนพิการได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ให้สำเร็จภายในปี 2554 กทม. ได้ข้อสรุปยกร่างแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต เตรียมแถลง 4 ก.ย. นี้ ด้านผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้กทม. กำลังดำเนินการยกร่างแผนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการแบบครบวงจร ซึ่งกทม. ได้หารือร่วมกับองค์กรคนพิการและหน่วยงานระดับสำนักที่เกี่ยวข้องของกทม. รวมระยะเวลา 6 เดือน และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ก.ย. 52 โดยมีแผนงานที่จะปรับปรุงทั้งด้านกายภาพ สิ่งแวดล้อม การแพทย์และสาธารณสุข การศึกษา สวัสดิการและการจ้างงาน พร้อมกันนี้กทม. ยังได้ดำเนินนโยบายด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการในอาคารต่างๆ เช่น ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ติดตั้งลิฟต์สำหรับคนพิการที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งกทม. ตั้งเป้าภายในปี 2554 จะติดตั้งลิฟต์จำนวน 56 ตัว ติดตั้งสัญญาณไฟคนข้ามแบบเสียง จากเดิม 151 จุดเพิ่มเป็น 361 จุด ปรับปรุงทางลาดและทางเดินสำหรับคนพิการบนบาทวิถี 117 เส้นทาง การจัดให้มีช่องทางพิเศษในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข จัดทำฉลากยาอักษรเบลล์ จัดตั้งศูนย์ตรวจการได้ยิน และรถตรวจการได้ยินเคลื่อนที่ ส่งเสริมการฝึกอาชีพให้คนพิการ จัดอบรมครูให้มีความรู้ในการจัดการเรียนการสอนเด็กพิเศษ การจ้างงานคนพิการเป็นอาสาสมัครในสำนักงานเขต 50 เขต และการจัดตั้งคณะกรรมการเครือข่ายคนพิการในสำนักงานเขต เป็นต้น ปัจจุบันกทม. มีคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่ประสานงานเกี่ยวกับคนพิการกับทุกสำนักและสำนักงานเขต เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในกรุงเทพมหานคร เตรียมสำรวจคนพิการในกรุงเทพฯ เพิ่มคาดมีถึง 5 หมื่น - 6 หมื่นราย ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ภารกิจสำคัญในขณะนี้คือ การจัดส่งอาสาสมัครลงไปในชุมชนเพื่อสำรวจและจดทะเบียนผู้พิการทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ ให้มากที่สุด เพื่อผู้พิการทุกคนได้รับสิทธิที่จะได้รับการดูแลตามกฎหมายอย่างเต็มที่ อาทิ การศึกษา การเข้าถึงบริการสาธารณะ สวัสดิการต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต และเบี้ยยังชีพคนพิการ ซึ่งในปี 2552 กทม. ให้ความช่วยเหลือและแจกเบี้ยยังชีพแก่คนพิการ จำนวนทั้งสิ้น 7,194 คน ซึ่งคาดว่าหากมีการสำรวจเพิ่มเติมในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจจะมีคนพิการทุกประเภทเป็นจำนวน 5 หมื่นถึง 6 หมื่นคน