ช่วงเวลา!สู่...ก้าวสำคัญ! ประกวด มิสทีน ไทยแลนด์

ข่าวบันเทิง Tuesday September 1, 2009 14:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ตอนนี้เวทีแห่งความฝันของสาววัยทีนทุกคน เปิดโอกาสมากมายขึ้นแล้ว กับเวทีการประกวด มิสทีน ไทยแลนด์ 2009 ปีที่ 21 จัดการประกวดโดย บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งกำลังจะรับสมัครและคัดเลือกภาคแรกที่ ภาคเหนือ วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้แล้ว งานนี้สาวคนไหนที่มีความฝันอยากก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงขอย้ำอีกครั้งว่า เวทีนี้คือจุดเริ่มแห่งความฝัน วันนี้เราขอนำบทสัมภาษณ์เจาะลึกเฉพาะที่นี่ที่เดียวถึงช่วงเวลาที่ มิสทีน ไทยแลนด์ ทุกคนตัดสินใจ ก้าวสู่การประกวด มิสทีน ไทยแลนด์ เพื่อคว้าฝันบนเวทีแห่งนี้ “เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” มิสทีน ไทยแลนด์ 2002 เผย เหตุผลที่เข้ามาสมัคร มิสทีน ไทยแลนด์ ส่วนหนึ่งคือเพื่อนๆ ของเชียร์บอกให้ลองประกวดดู คือตอนแรกทุกคนก็มีคิดเหมือนกันว่าเชียร์ไม่น่าจะทำได้ พอได้ตำแหน่งทำให้เชียร์ได้เรียนรู้ว่าการเป็นตัวของตัวเองนั้นสำคัญที่สุด แค่พกความมั่นใจมาสมัคร โอกาสดีมาถึงแล้ว น้องๆ ควรรีบคว้าไว้นะค่ะ ไม่แน่บางทีที่คิดว่าเราไม่น่าจะได้ ไม่น่าจะใช้ อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้นะคะ “ฟาง-พิชญา เชาวลิต” มิสทีน ไทยแลนด์ 2003 เผย ฟางอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนใหม่ๆ ค่ะ คิดว่าการได้ไปทำกิจกรรมกับเพื่อนน่าจะสนุก และฟางก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะกิจกรรมที่พวกเราทำร่วมกันหลากหลายมาก กิจกรรมบางอย่างฟางก็ไม่เคยทำมาก่อนเพราะเป็นกิจกรรมที่ในห้องเรียนไม่ได้มีแบบนี้ให้ ที่สำคัญได้ไปกับเพื่อนใหม่จากทั่วประเทศด้วย ถึงแม้ช่วงนั้นฟางจะมีเหนื่อยแต่ก็ไม่ท้อ พวกเราสนุกสนานเฮฮากันมาก เป็นความทรงจำดีๆ ที่ฟางยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ “เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” มิสทีน ไทยแลนด์ 2004 เผย ช่วงนั้นเพื่อนๆ บอกว่าทำไมไม่ลองสมัครประกวดดู เกรซเองก็คิดว่าเอ่อนะน่าลองดูไม่ได้เสียหายอะไร ได้หรือไม่ได้อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ที่หาในห้องเรียนไมได้กลับมา เกรซเลยตัดสินใจเข้าประกวดคะ ซึ่งเกรซได้เรียนรู้การปรับปรุงบุคลิกภาพ ผ่านการเข้าร่วมทำกิจกรรมเวิร์คช็อปกับกองประกวด และแต่ละเวิร์คช็อปก็สนุกมาๆ อยากให้มาลองด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ตำแหน่ง แต่เราก็ยังได้ความรู้ติดตัวเราไปตลอดค่ะ “ไอซ์-อภิชนัน ศรีเสวก” มิสทีน ไทยแลนด์ 2005 เผย เวทีมิสทีน ไทยแลนด์ เป็นเวทีการประกวดของสาววัยทีนระดับประเทศที่จัดมานาน มีความน่าเชื่อถือ มีเกียรติ ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ของไอซ์ไว้ใจและสนับสนุนให้เข้ามาสมัครกับเวทีนี้อย่างเต็มที่ เวทีนี้ยังเปิดโอกาสทำงานในวงการบันเทิง เป็นเวทีสู่ดวงดาวจริงๆ ค่ะ ไอซ์อยากให้น้องๆ ได้เข้ามาเป็นครอบครัวของ มิสทีน ไทยแลนด์ กันเยอะๆ นะค่ะ “เอมี่-อเมเรีย จาคอป” มิสทีน ไทยแลนด์ 2006 มีความเห็นว่า ตอนนั้นเอมี่เป็นคนขี้อายมากค่ะ ไม่ค่อยกล้าแสดงออกด้วย อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราจะทำได้หรือเปล่าเลยตัดสินใจสมัครเข้าประกวด เป็นเวทีแรกในชีวิตเลย ช่วงเก็บตัวทำให้เอมี่ได้เรียนรู้และฝึกฝนตัวเองตลอด ทำให้เอมี่มีความมั่นใจมากขึ้น สุดท้ายเอมี่ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ถ้าเรามีความตั้งใจก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ค่ะพ็็ “หญิง-พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์” มิสทีน ไทยแลนด์ 2007 เปิดใจว่า หญิงเป็นคนติดคุณแม่มากค่ะ คุณแม่คอยช่วยเหลือและดูแลหญิงตลอด ตอนแรกก็กลัวเพราะหญิงไม่เคยห่างจากคุณแม่เลย เหตุผลที่สมัครเพราะอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วงเก็บตัวทำให้หญิงต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มีความรับผิดชอบ รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นค่ะ “มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์” มิสทีน ไทยแลนด์ 2008 เผยว่า มะนาวเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนวัยรุ่นทั่วไปคืออยากทำงานในวงการบันเทิง จึงตัดสินใจสมัคร ซึ่งตอนนี้ความฝันของมะนาวก็เป็นจริงแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงมากขึ้น ได้เล่นมิวสิควิดีโอ และกำลังมีงานแสดงซึ่งเป็นภาพยนต์วัยรุ่นที่ใกล้จะแถลงข่าวเร็วๆ นี้ อีกด้วย ยังไงใครที่อยากได้รับโอกาสดีๆ อย่างมะนาว อย่าลืมมาสมัครประกวดมิสทีน ไทยแลนด์ 2009 นะคะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ