ปภ. แจ้งเตือนประชาชน ๒๗ จังหวัดระวังอันตรายจากพายุฝนระหว่าง ๒-๔ ก.ย. นี้

ข่าวทั่วไป Wednesday September 2, 2009 16:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน ๒๗ จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่าน ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งหลายพื้นที่มีฝนตกชุกและมีปริมาณน้ำมากอยู่แล้ว หากมีฝนตกต่อเนื่องอีก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในระหว่างวันที่ ๒-๔ กันยายน ๒๕๕๒ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งสั่งกำชับมิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ ๒-๔ กันยายน ๒๕๕๒ ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับลมด้านตะวันตกและภาคตะวันออกของประเทศ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาทุกภูมิภาคของประเทศมีฝนตกชุก ทำให้หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำมากและชุ่มน้ำอยู่แล้ว หากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้ เพื่อเป็นการป้องกันภัยธรรมชาติจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ ๒๗ จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี ตาก พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ นครนายก ปราจีนบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรังและสตูล รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุฝนที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในระยะ ๒-๓ วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน รวมทั้งรายงานข้อมูลสถานการณ์ภัยให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีและหากเกิดสถานการณ์รุนแรงในจังหวัดใด ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักรเข้าสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที นายอนุชา กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่านของทั้ง ๒๗ จังหวัดดังกล่าว ให้ติดตามรับฟังพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฝน หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่ามีอาการแตกตื่น รวมทั้งมีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงโดยอพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่มขึ้นได้ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ