กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--สนามหลวง 1. หลังจากแยกออกมาทำอัลบั้มเดี่ยว การทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ง่ายหรือลำบากมากขึ้น เพราะต้องทำงานคนเดียว ไม่มีเพื่อนนคู่คิดแล้ว ตอบ ยากกว่าเดิม เหนื่อยกว่าเดิม แต่สนุกเหมือนเดิม เพราะเป็นเรื่องของดนตรีเลยยังรู้สึกสนุกเหมือนเดิม ที่เหนื่อยเพราะต้องรับผิดชอบมากขึ้น ต้องมีส่วนร่วมทุกเรื่องเพราะเป็นอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของตัวเอง 2. จากนักดนตรี มาเป็นนักร้องรู้สึกเป็นไงบ้าง ตอบ ยากมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะร้องให้ดี ร้องให้ถูก แต่รวมถึงการแสดงบนเวทีด้วยเพราะเราต้องเอ็นเตอร์เทน คนดูให้มีความรู้สึกร่วมกับเราอยู่ตลอดเวลา คงต้องสะสมประสบการณ์ต่อไปเรื่อยๆ เพราะปกติผมเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว เล่นแต่กีต้าร์ แต่ตอนนี้ต้องมายืนอยู่ข้างหน้ามีคนดูและแฟนเพลงที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นครับ 3. "นักร้อง" เป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า ตอบ ไม่ได้เป็นอาชีพที่ตั้งใจไว้ แต่การที่ผมแยกตัวออกมาแล้วถ้าจะต้องมาหานักร้องนำอีกเนี่ยมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยเวลาในการฟอร์มทีม ซึ่งถ้าทำแบบนั้นนต้องใช้เวลามาก แล้วอีกอย่างเพลงในอัลบั้มนี้เป็นเรื่องราวของผมล้วน ๆ ซึ่งคนที่จะถ่ายทอดมันออกมาได้ดีที่สุดก็น่าจะเป็นผม ซึ่งแรก ๆ ก็ยากอย่างที่บอก แต่ว่าตอนนี้เริ่มสนุกกับมันแล้วครับ 4. ช่วงที่ออกจากบอดี้สแลม มีเสียงวิจารณ์ตามมาเยอะ ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ แล้วหาอะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวไม่ให้ไขว้เขวไปกับข่าวที่เกิดขึ้น ตอบ ใช้ความจริงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวครับ ผมรู้ใจตัวเอง รู้ใจตูนด้วยเพราะเราได้คุยกัน ก็เลยไม่รู้จะซีเรียสไปทำไม แล้วอีกอย่างอยู่ในระหว่างเข้าห้องอัดด้วยก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น เพราะกลัวไขว้เขวแล้วงานจะออกมาไม่ดีครับ 5. ออกมาทำงานคนเดียวกดดันแค่ไหน ตอบ ช่วงแรก ๆ กดดัน เคยคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จเหมือนตอนอยู่บอดี้สแลมหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าไม่มีอะไรดีขึ้นและทำให้งานไม่เดิน เลยพยายามคิดถึงแต่ปัจจุบันและทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และปล่อยให้อดีตที่เคยอยู่กับบอดี้สแลมเป็นความทรงจำที่ดีครับ 6. เหตุผลที่ออกจากบอดี้สแลมด้วยความคิดเห็นไม่ตรงกัน พอได้มาทำงานคนเดียวเป็นไงบ้าง ตอบ รู้สึกสบายใจขึ้น ได้ทำตามใจตัวเองมากขึ้น มีเหงา ๆ บ้าง เพราะแต่ก่อนมีคนคอยปรึกษาคอยคุยเล่นเฮฮา แต่ก็โอเคขึ้นแล้ว เพราะไม่ว่ายังไงดนตรีก็ยังเป็นเรื่องสนุกอยู่ดีครับ 7. จากที่เคยเป็น บอดี้สแลม แต่วันนึงต้องออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว แน่นอนว่าชื่อเสียงย่อมไม่เทียบเท่าตอนเป็นบอดี้สแลมแน่ ๆ รู้สึกอย่างไรบ้าง ตอบ ไม่รู้สึกอะไรครับ เพราะแค่เราเคยมีโอกาสยืนอยู่ในจุดนั้นก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว คนที่มีความสามารถมากมายไม่เคยได้มายืนในจุดที่ผมเคยยืนด้วยซ้ำ ผมว่าไม่ว่าวันใดวันหนึ่งคนเราก็คงต้องยืนด้วยขาของตัวเองสักวัน จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง 8. ทำไมถึงเพิ่งคิดจะทำตามความฝันของตัวเอง เพิ่งหาตัวเองเจอเหรอ ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงขาขึ้นของบอดี้สแลม คิดนานมั๊ยกว่าจะแยกออกมา เหมือนสละสิ่งสำคัญไปหรือเปล่า ตอบ มันมีหลาย ๆ เรื่องทั้งเรื่องความสบายใจในการทำงาน ทั้งเรื่องแนวทางดนตรี แล้วผมว่าชื่อเสียงไม่ได้เป็นทั้งหมดของการออกอัลบั้มสักอัลบั้มนึง ถามว่าเหมือนสละสิ่งสำคัญไปหรือเปล่า อย่างที่บอกครับว่าบอดี้สแลมเคยพาผมมาถึงจุดที่ผมมาคนเดียวไม่ได้ แค่นี้ก็ถือว่าได้กำไรมากมายแล้วไม่เคยรู้สึกเสียอะไรเลย 9. คิดว่าปล่อยโอกาสดี ๆ หลุดมือไปหรือไม่ ตอบ คงไม่นะครับ ผมว่าคนเราถ้ายังไม่ท้อ ถ้ายังตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไป ผมว่าโอกาสดี ๆ ยังมีรออยู่ข้างหน้าอีกเยอะครับ 10. มีกระแสว่าเขียนเนื้อเพลงประชดประชันเพื่อนเก่า รู้สึกไงบ้าง ตอบ ไม่รู้สึกอะไรครับ เพราะผมไม่ได้ประชดประชันใคร เพลงคนไม่มีปีกเป็นเรื่องราวของผมครับ เป็นเรื่องของคนเจียมตัวคนหนึ่งที่มีความฝัน และต้องการทำความฝันให้สำเร็จ รวมถึงอยากให้เป็นเพลงให้กำลังใจสำหรับคนที่คิดว่าเกิดมาไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคแต่มีความพยายามทุกคนด้วยครับ 11. อยากให้พูดถึงความเป็นเพื่อนกับ บอดี้สแลม (ช่วยย้ำความเป็นเพื่อนให้ฟังอีกที) ตอบ ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม จะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ คนเราไม่ได้ทำงานด้วยกันไม่ได้หมายความว่าห้ามเป็นเพื่อนกันซะหน่อย แต่ระหว่างผมกับเพื่อน ๆ คงมีเวลาเจอกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างมีงานครับ แต่มีเวลาว่างเมือไหร่คงได้เจอกันบ่อยขึ้น 12. อนาคตหลังจากนี้วางไว้อย่างไร มีเป้าหมายอย่างไรต่อไป ตอบ วางเอาไว้สั้น ๆ คือ พยายามทำอัลบั้มนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างที่บอกผมศรัทธาในคำว่าปัจจุบันครับ 13. นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้วยังคิดทำอย่างอื่นต่ออีกมั๊ย อะไรบ้าง แจกแจงให้ฟังหน่อย ตอบ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดครับ เพราะยุ่งกับงานชุดแรกมาก ๆ ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลย แต่อนาคตยังไงก็คงเล่นดนตรีต่อไปจนกว่าจะไม่มีแรงหรือไม่มีคนฟังแล้วครับ สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net