กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กทม.
กทม. มั่นใจแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังย่านบางกะปิ-ลาดพร้าว มีสถานีสูบน้ำและอุโมงค์สูบน้ำพระโขนง เร่งระบาย น้ำท่วมขังได้เร็ว เผยห่วงพื้นที่ย่านรัชดา-ลาดพร้าว ระบายน้ำไม่ทัน เร่งสร้างอุโมงค์สูบน้ำลอดคลองบางซื่อเสร็จใน 3 ปี
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำพระโขนงและอุโมงค์สูบน้ำพระโขนง เพื่อเตรียมความพร้อมและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพมหานคร โดยมีนายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายสมชาย เลี่ยวชวลิต ผู้อำนวยการเขตพระโขนง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ สถานีสูบน้ำอุโมงค์พระโขนง
สถานีสูบน้ำพระโขนงเป็นสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร มีเครื่องสูบน้ำ 51 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ 173 ลบ.ม./วินาที และอุโมงค์ระบายน้ำที่มีเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง มีกำลังดึงน้ำรวม 60 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกำลังสูบน้ำของสถานีสูบน้ำพระโขนงและอุโมงค์ระบายน้ำ จะระบายน้ำได้ทั้งหมด 233 ลบ.ม./วินาที ซึ่งครอบคลุมการดึงน้ำจากคลองพระโขนง คลองประเวศ คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว ในส่วนของอุโมงค์ระบายน้ำมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร มีความลึก 22-25 เมตร ยาว 5.1 กม. โดยเริ่มรับน้ำจากบริเวณบึงพระราม 9 ใกล้กับคลองลาดพร้าวเชื่อมกับคลองแสนแสบ จากนั้นจะวางแนวมาตามถนนสุขุมวิท 71 เชื่อมต่อเข้าไปที่สถานีสูบน้ำพระโขนงโดยสามารถรับน้ำจากในพื้นที่ เขตห้วยขวาง บางกะปิ บึงกุ่ม ลาดพร้าว สวนหลวง สะพานสูง วังทองหลาง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ช่วงนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องแต่ไม่ห่วงเรื่องน้ำท่วมขัง เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ช่วยระบายน้ำอยู่ ส่วนพื้นที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณถนนรัชดา ถนนลาดพร้าว แม้ฝนจะตกเพียงเล็กน้อย ก็ยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง ดังนั้นกรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์สูบน้ำลอดใต้คลองบางซื่อ เพื่อช่วยระบายน้ำย่านรัชดาและลาดพร้าว โดยใช้งบก่อสร้างประมาณ 2,500 ล้านบาท ระยะทาง 6.6 กิโลเมตร คาดว่าจะสร้างเสร็จใน 3 ปี