ชาวกรุงเทพฯ ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ในกิจกรรมมหามงคล “๙ ในดวงใจ”

ข่าวทั่วไป Wednesday September 9, 2009 16:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป ในกิจกรรม “๙ ในดวงใจ” เนื่องในโอกาสวันมหามงคลวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 อันมีเลข ๙ เลขมงคลมาบรรจบกัน กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 52 และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระวิริยอุตสาหะ ประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ทั้งยังทรงเอื้ออาทรในทุกข์สุขของปวงชนชาวไทย ตลอดจนประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบปัญหา โดยในเวลา 07.00 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ข้าราชการ ลูกจ้างกรุงเทพมหานคร และประชาชน ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 109 รูป จากนั้น เวลา 09.09 น. ร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชาพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศ โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในกิจกรรม “๙ ในดวงใจ” ความว่า “เนื่องในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 09.09 น. อันมีเลข 9 เป็นเลขมงคลมาบรรจบในวาระนี้ ข้าพเจ้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการและลูกจ้าง และประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร มีความปลื้มปีติปราโมทย์ เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยได้เสด็จสถิตเสถียรในสิริราชไอยสวรรย์ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9 แห่ง พระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นปีที่ 63 และได้เป็นที่ประจักษ์แซ่ซ้องในพระเกียรติคุณบุญญาบารมีทั้งในประเทศและนานาประเทศ ประกอบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา ถือเป็นมงคลยิ่งแก่ประเทศชาติและปวงชนชาวไทย รัฐบาลและกรุงเทพมหานครจึงจัดกิจกรรม “๙ ในดวงใจ” ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความร่วมใจสมัครสมานสามัคคีในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อประกาศให้เป็นที่ประจักษ์ในพระบรมเดชานุภาพ และพระบรมกฤษฎีกาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ซึ่งได้ทรงแผ่พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ในสยามรัฐสีมาอาณาจักรให้ร่มเย็นผาสุกทั่วกัน พร้อมทั้งแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระวิริยอุตสาหะ ประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ทั้งยังทรงเอื้ออาทรในทุกข์สุขของปวงชนชาวไทย ตลอดจนประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบปัญหานับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 ตราบจนปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ เพื่อขจัดปัญหาในการดำรงชีวิตของทวยราษฎร์ และทรงเสริมสร้างความสุขร่มเย็น ความยั่งยืนมั่นคงแก่อาณาประชาราษฎร์ในทุกภูมิภาคของประเทศ ทรงพระวิริยอุตสาหะคิดค้นวิธีการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาของชาติ เช่น ปัญหาเรื่องดิน น้ำ ปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการจราจร ปัญหาด้านพลังงานของชาติ และอื่นๆ อีกมาก ทุกโครงการล้วนมุ่งขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม บางปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ก็ได้พระราชทานหลักการและทฤษฎีต่างๆ เพื่อนำไปปฏิบัติสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น “ทฤษฎีใหม่” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งปรากฏว่าในปัจจุบันผลของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ นั้น ล้วนสัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม ทั้งชาวไร่ ชาวนา ชาวไทยภูเขาที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ต่างประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีในสภาวการณ์ต่างๆ รวมทั้งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า หลักการที่ทรงพระราชดำริหรือทรงประดิษฐ์คิดค้นขึ้นด้วยพระวิริยอุตสาหะและพระราชทานแก่พสกนิกรนั้น เป็นหลักการที่สามารถแก้ปัญหาได้จริง อำนวยประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นคุณูปการ สามารถช่วยให้ประชาชนชาวไทยและประเทศไทยดำรงอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข แม้ว่าจะมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ก็สามารถคลี่คลายและขจัดลงได้ ข้าพเจ้าในนามของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ขอถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย สรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพไททุกพิมานสถาน รวมทั้งพระมหากุศลที่ทรงบำเพ็ญเป็นเอกอดุลย์ โปรดอภิบาลบำรุงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเจริญสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย ทรงพระเกษมสุขทุกสมัย ทรงไพบูลย์ด้วยพระบุญญาธิการ ทรงเจริญพระชนมายุสิริสวัสดิ์ เสด็จดำรงในมไหสูรย์สมบัติสืบสถาวร พระเกียรติคุณเจิดจำรัสขจรจบภูมิภพไตร มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงแผ่พระบรมเดชานุภาพและพระบุญญาบารมีคุ้มเศียรเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาลเทอญ ในวาระอันเป็นมหามงคลนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านทั้งหลายที่ได้มาชุมชนพร้อมกัน ณ ที่นี้ ร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมธรรมิกปิยมหาราช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้” ในวันเดียวกันนี้ ในเวลา 11.49 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระพุทธนวราชบพิตร ณ ชั้น 1 ศาลาว่าการกทม. และสักการะศาลไทยและศาลจีน บริเวณชั้น 5 ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสดังกล่าว โดยมีพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ เป็นผู้ประกอบพิธี ซึ่งนอกจากการจัดกิจกรรม ณ ศาลาว่ากรุงเทพมหานครแล้ว ส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครได้กิจกรรมถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 52 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในบริเวณต่างๆ ประกอบด้วย บริเวณศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) พร้อมด้วยสำนักงานเขตต่างๆ ทั้ง 6 กลุ่มโซน และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 435 แห่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ