ประชาชนมั่นใจเหรียญ 1 บาทรุ่นใหม่เป็นของจริง เบา วาว แม่เหล็กดูดติด ล่าสุดกรมธนารักษ์ นำออกใช้ท้องตลาดแล้วเกือบหนึ่งร้อยล้านเหรียญ

ข่าวทั่วไป Wednesday September 23, 2009 16:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--กรมธนารักษ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ชี้แจงเหรียญ 1 บาท รุ่นใหม่ ได้ปรับปรุงชนิดโลหะ และลักษณะรูปแบบเหรียญ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้สอยมากขึ้น ข้อสังเกตของจริงมีน้ำหนักเบากว่าและแวววาวสวยงามกว่าเหรียญชุดเดิม ล่าสุดกรมธนารักษ์ได้นำเหรียญ 1 บาทใหม่ออกใช้ในท้องตลาดแล้วเกือบ 100 ล้านเหรียญ ซึ่งยังมีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับเหรียญ 1 บาทเดิมที่มีใช้อยู่ในตลาดอยู่แล้วประมาณ 10,000 ล้านเหรียญ ส่วนตู้โทรศัพท์สาธารณะ และตู้บริการเครื่องหยอดเหรียญทุกประเภท ได้มีการหารือกับผู้ประกอบการแล้วจะเร่งปรับแก้ระบบเพื่อรองรับเหรียญรุ่นใหม่ และให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก คาดกลางปี 2553 จะสามารถรับเหรียญได้ทั้ง 2 รุ่น วันนี้ (23 กันยายน 2552) กรมธนารักษ์ นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ชี้แจงว่า กรมธนารักษ์ได้นำเหรียญราคา 1 บาท รุ่นใหม่ ออกใช้เกือบ 100 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของเหรียญ 1 บาทรุ่นเดิมที่มีใช้อยู่ในท้องตลาดประมาณ 10,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถือยังว่ามีจำนวนน้อยมาก อย่างไรก็ดีประชาชนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีเหรียญ 1 บาท รุ่นใหม่ออกใช้แล้ว ซึ่งเป็นเหรียญของรัฐบาล เพราะเหรียญ 1 บาทรุ่นใหม่มีน้ำหนักเบา และแวววาวสวยงามกว่าเหรียญรุ่นเดิม ความนูนของลวดลายน้อยกว่าเหรียญรุ่นเดิม เหรียญ 1 บาทรุ่นใหม่นี้เป็นเหรียญนิกเกิลไส้เหล็ก และมีน้ำหนัก 3 กรัม โดยเหรียญรุ่นใหม่จะใช้ควบคู่กับเหรียญรุ่นเดิมในระบบเศรษฐกิจ นายเทวัญ กล่าวต่อว่า ล่าสุดต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ได้เชิญผู้ประกอบการตู้โทรศัพท์สาธารณะ และผู้ประกอบการเครื่องหยอดเหรียญร่วมประชุมหารือและรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการออกใช้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเหรียญ 1 บาท และ 5 บาท ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องปรับปรุงตู้หยอดเหรียญให้สามารถรับเหรียญใหม่ได้ด้วย เช่น ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และตู้ขายสินค้า ซึ่งสรุปผลการหารือผู้ประกอบการจะปรับระบบเครื่องให้สามารถรองรับการใช้เหรียญทั้งรุ่นเดิมและรุ่นใหม่ได้ โดยคาดว่าจะแก้ไขเครื่องให้แล้วเสร็จ ประมาณกลางปี 2553 ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้นำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ ได้แก่ เหรียญ 25 สตางค์ 50 สตางค์ 1 บาท 2 บาท 5 บาท และ 10 บาท ออกใช้ โดยได้ปรับปรุงโลหะ และลักษณะรูปแบบของเหรียญ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้สอย ขณะนี้มีใช้อยู่ในท้องตลาดแล้วประมาณ 500 ล้านเหรียญหรือราว 2.8 % ของปริมาณเหรียญชุดเดิมที่มีอยู่ประมาณ 18,000 ล้านเหรียญ โดยเหรียญชุดใหม่ ราคา 10 บาท มีประมาณ 1.5 ล้านเหรียญ เหรียญ 5 บาท ประมาณ 67 ล้านเหรียญ เหรียญ 2 บาท ประมาณ 154 ล้านเหรียญ เหรียญ 1 บาท ประมาณ 80 ล้านเหรียญ เหรียญ 50 สตางค์ ประมาณ 71 ล้านเหรียญ และ 25 สตางค์ ประมาณ 120 ล้านเหรียญ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ