กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
ดีเอชซี เดินหน้ารุกตลาดตอกย้ำกระแสความงามที่โทรสั่งได้จากญี่ปุ่น ประกาศทุ่มงบฯ กว่า 15 ล้านบาท ผุดเคาน์เตอร์ขายสินค้าหวังเจาะกลุ่มขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ล่าสุด เตรียมเปิดเคาน์เตอร์ในคิงพาวเวอร์สนามบินสุวรรณภูมิ และ ที่สำนักงานแห่งใหม่ ซอยรางน้ำ พร้อมสร้างภาพสู่ระดับเอเชียแบรนด์ ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายจากเคาน์เตอร์ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
น.ส.อาภรณ์ ทรัพย์มนชัย หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางแบรนด์ดีเอชซี กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “Twin City” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กำเนิดผิวสวยอย่างมีสุขภาพดีจาก DHC” ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาปรากฏว่า ผลตอบรับกลับมาดีมาก ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์ DHC ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายและจำนวนยอดสมาชิกขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
และขณะนี้ บริษัทฯ ได้เดินหน้ารุกตลาดขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคด้วยช่องทางที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เป็นการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ แฟกซ์ และเว็บไซด์ พร้อมบริการจัดส่งด้วยระบบบิวตี้เอ็กเพลสเซอร์วิสซ์นั้น หลังจากนั้น บริษัทฯ ได้เริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยการวางจำหน่ายสินค้าบางชนิดผ่านช่องทางค้าปลีกของซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม และปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ขายสินค้า โดยเตรียมเปิดตัวเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในคิงพาวเวอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ใกล้จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ รวมถึงบริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ
“สำหรับเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น บริษัทฯ ต้องการจะตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ดีเอชซีในระดับสากลมากยิ่งขึ้น สมกับที่เป็นเอเชียแบรนด์ ส่วนรูปแบบเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าจะมีลักษณะเป็นแบ็ควอลล์เหมือนในสนามบินนานาชาติ ซึ่งลูกค้าสามารถเดินชมและเลือกซื้อสินค้าได้ตามใจชอบ ภายในเคาน์เตอร์จะมีเจ้าหน้าที่ปรึกษาด้านความงามคอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้า โดยเคาน์เตอร์ดีเอชซีมีขนาดประมาณ 3.5 เมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่เขตปลอดภาษีคิงพาวเวอร์ ภายในประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ”
น.ส. อาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สินค้าหลักที่เลือกไปจำหน่ายนั้น บริษัทฯ จะเน้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกที่เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ DHC เป็นหลัก รวมทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าทุกประเภท ทั้งนี้เพื่อเป็นการแนะนำสินค้า และเปิดตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ตั้งแต่ระดับเอลบไปจนถึงซีบวก รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทยและต่างประเทศ”
ส่วนราคาสินค้าที่จำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์บนพื้นที่เขตปลอดภาษีคิงพาวเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิจะมีการยกเว้นภาษี ราคาจำหน่ายจึงต่ำกว่าสินค้าราคาปกติประมาณ 7% ส่วนสินค้าที่จำหน่ายผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมนั้น จะมีราคาเท่ากับการซื้อสินค้าผ่านทางแค็ตตาล็อก และจะเน้นสินค้าขนาดคอนวีเนี่ยนไซซ์ออกมาจำหน่าย พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดเคาน์เตอร์ที่คิงพาว์เวอร์สำนักงานใหญ่ในซอยรางน้ำเพิ่มอีก 1 แห่ง โดยรูปแบบเคาน์เตอร์จะเหมือนกับที่สุวรรณภูมิ แต่ต่างกันตรงเนื้อที่ซึ่งมีขนาดประมาณ 5 เมตร และมีสินค้าสำหรับผู้ชายวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นมา
น.ส. อาภรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เคาน์เตอร์ดีเอชซีทั้งสองแห่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายผ่านระบบเคาน์เตอร์ได้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อเคาน์เตอร์ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ไม่ว่าจะเป็น โรดโชว์ เวิร์คช็อป และโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยคาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายสูงถึง 450 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25 % จากปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นรวมประมาณ 80,000 คน”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด
Tel: 0-2284-2662 ต่อ 112 — 113 Fax: 0-2284-2291-2
คุณสรวงกนก จันทราสุงเนิน, E-mail: suangkanok@kanokratpr.com
คุณวิภาทิพย์ ส่งวาณิชย์, E-mail: wipathip@kanokratpr.com
คุณกาญจนา พึ่งทรัพย์, E-mail: karnjana@kanokratpr.com