กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
บริษัท ที.เอ็น.อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ TNIS ประกาศความพร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้บริการครบวงจรในการนำบาเซิล II โซลูชั่น (Basel II Solution) สู่ระบบธนาคารไทย พร้อมเปิดตัว SAP เป็นซอฟแวร์พันธมิตร ตั้งเป้าเป็นที่ปรึกษาไทยคุณภาพระดับโลก “TNIS” มอง Basel II ไม่ใช่ยาขม แต่เป็นกุญแจสู่ประสิทธิภาพ และผลกำไรระยะยาว ณ ห้องมณฑาทิพย์ 2 โรงแรมโฟร์ ซีซั่น
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะนำเกณฑ์การกำกับดูแลคุณภาพลูกหนี้ของสถาบันการเงินตามเกณฑ์ Basel II ของ Bank of International Settlement มาใช้ในระบบสถาบันการเงินไทย โดยคาดว่าจะนำมาใช้จริงภายในปี 2550 นั้น บริษัท ที. เอ็น. อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ประกาศความพร้อมในการให้บริการที่ปรึกษาด้าน Basel II โซลูชั่นแบบครบวงจร และเป็นหุ้นส่วนธุรกิจในการช่วยลูกค้าสถาบันการเงินยกระดับระบบการบริหารความเพียงพอของเงินทุนสู่มาตรฐานโลก และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในสภาพแวดล้อมใหม่
นายอัศวิน วราทร กรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ็น.อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาและเตรียมทีมงานเป็นเวลานาน ก่อนตัดสินใจเลือกพันธมิตรด้านซอฟแวร์ที่มีคุณภาพระดับโลก ได้แก่ SAP และ RCS ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่มีส่วนสร้างความสำเร็จให้สถาบันการเงินระดับโลก เช่น Commerzbank, FitchRisk, DaimlerChrysler Bank เป็นต้น ซึ่งโซลูชั่น ดังกล่าวมีลักษณะ Dynamism โดยสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งตามระดับความซับซ้อนของโลกการเงินในอนาคตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ทีมงานของบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านระบบงานบริหารความเสี่ยงทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงธุรกิจ และมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับสถาบันการเงินไทยมาแล้ว การเป็นบริษัทคนไทยที่ทำงานกับลูกค้าคนไทยมาอย่างยาวนานทำให้บริษัทฯ เข้าใจสภาพธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นอย่างดี และพร้อมจะทำงานร่วมกับลูกค้า เริ่มตั้งแต่การจัดระบบฐานข้อมูลเดิมให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมใหม่ ไปจนถึงการใช้งานจริง และยังดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้เราพร้อมที่สุดในการเป็นที่ปรึกษาและให้บริการ Basel II ครบวงจร และเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ ระยะยาวกับลูกค้า เราได้พันธมิตร ที่ยอดเยี่ยมอย่าง SAP และ RCS ผนวกกับความสามารถและประสบการณ์ ของเรา จึงกล่าวได้ว่า นี่คือ dream solution ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเราจะเป็นพันธมิตรและเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า ที่สำคัญ เราเป็นบริษัทไทย เข้าใจระบบของธนาคารไทยและพฤติกรรมคนไทย แต่ให้บริการระดับโลก” นายอัศวิน กล่าว
Basel II Solution นี้ยังมีจุดเด่นที่มีสามารถบริหารความเสี่ยงที่สลับซับซ้อนได้อย่างเต็มศักยภาพ การวิเคราะห์หลากหลายแง่มุม รวมทั้งบริหารธุรกรรมแห่งอนาคต เช่น securitization และสามารถแสดงรายงานในแบบที่ต้องการ ทั้งรายงานที่แสดงต่อบุคคลภายนอกและรายงานเพื่อการบริหารภายใน เพื่อให้ผู้บริหารมองเห็นทิศทางขององค์กร และนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์ โซลูชั่นดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการบริหารเงินกองทุน แต่ยังเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงและกำหนดกลยุทธ์องค์กรอีกด้วย
สำหรับระยะเวลาที่ต้องใช้ในการติดตั้งระบบจนสมบูรณ์นั้น นายชาย แต่บรรพกุล กรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ็น.อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด ชี้แจงว่า จะต้องเริ่มจากการเข้าปรับโครงสร้างฐานข้อมูลเดิมให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมใหม่ ระยะเวลาที่ใช้จึงต้องขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของฐานข้อมูลเดิมด้วย ตามมาตรฐานในต่างประเทศจะอยู่ในช่วง 6-9 เดือนสำหรับ Credit Risk และไม่ต่ำกว่า 9 เดือนสำหรับ Operational Risk อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่า ลูกค้าของบริษัทฯ จะสามารถใช้งานได้จริงในระยะเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทฯ มีความเข้าใจระบบธนาคารพาณิชย์ไทยดีอยู่แล้ว และเป็นบริษัทไทยแห่งเดียวที่พัฒนา Core Banking ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มาก่อน จึงไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์
นอกจากนี้ นายชาย ยังกล่าวถึง Basel II ว่า ไม่ควรมองเป็นเพียงกติกาที่สถาบันการเงินต้องปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกรอบของธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น แต่ควรจะมองเป็นโอกาสในการพัฒนาระบบการบริหารธนาคารและเพิ่มประสิทธิภาพ
“Basel II เป็นกติกาใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของโลกการเงินที่มุ่งเน้นเรื่องการบริหารความเสี่ยง แต่เราไม่อยากให้มองเป็นเพียงกฎเกณฑ์ที่แบงก์ชาติสั่งให้ทำ อยากให้มองเป็นโอกาสในการ พลิกโฉมระบบการบริหารเงินทุนและจัดการความเสี่ยง แบงก์เกอร์จะสามารถตั้งราคาสินค้า ซึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ย ได้เหมาะสมตามระดับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งจะนำไปสู่ประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุน ลดต้นทุน และนำไปสู่ผลกำไรในที่สุด ซึ่งเป็นกำไรที่มีคุณภาพต่อเนื่องในแบบที่ผู้ถือหุ้นต้องการด้วย” นายชาย ให้ทัศนะ
บริษัท ที.เอ็น.อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือไทยสงวนวานิชซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2489 ปัจจุบัน มีบุคลากรทั้งสิ้นกว่า 340 คน มีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน มีทีมที่ปรึกษาราว 60 คน ซึ่งเคยร่วมงานกับสถาบันการเงินไทยในโครงการขนาดใหญ่ ๆ มากมาย เช่น ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น เครือไทยสงวนวานิชมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา และจะจัดงานฉลองความสำเร็จเนื่องในโอกาสที่บริษัทก่อตั้งมาครบ 60 ปีในราวกลางปี 2549 นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
โทร 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา