“แมกซ์เกน” มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีผลิตเตาแก๊สคุณภาพสูง ปลอดภัย ประหยัด สารพัดประโยชน์

ข่าวเทคโนโลยี Friday March 10, 2006 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--โครงการ ITAP
โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP)
สวทช. จัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการ SMEs “บ.แมกซ์เกน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง” ผู้ผลิตเตาแก๊สคุณภาพเยี่ยมภายใต้ 2 แบรนด์ดัง “บิ๊กซัน-ยูดี” มั่นใจสินค้าคงทนแข็งแรง ปลอดภัย ทั้งช่วยประหยัดพลังงานได้สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ชูจุดเด่นด้วยการทำงานที่เป็นระบบ รับประกันด้วยมาตรฐาน TFQS พร้อมบุกต่างประเทศเพื่อขยายฐานการตลาดให้ทั่วโลกยอมรับ
“เตาแก๊ส” จัดได้ว่าเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่แทบทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีความทันสมัยที่เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตเตาแก๊สมีการพัฒนา ปรับปรุง รูปแบบ วิธีการใช้งาน รูปลักษณ์ ให้สวยงาม สะดวกต่อการใช้ และให้ความปลอดภัยสูงสุด ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือการแข่งขันในเรื่องของการประหยัดพลังงานที่ยุคสมัยนี้ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษเพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยชาติประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่งด้วย
บริษัท แมกซ์เกน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำผู้ผลิตเตาแก๊สประหยัดพลังงานมาเป็นระยะเวลายาวนาน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้วันนี้บริษัทฯ ก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิใจ
น.ส.สิปปภาส ลิมปะพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์เกน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท แมกซ์เกน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด ในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อมาจากโรงงานยูดี อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ในช่วงนั้นบริษัทฯ มีการบริหารงานแบบระบบครอบครัว ขณะที่ด้านการตลาดมีการขยายตัวและเพิ่มจำนวนการผลิตของสินค้ามากขึ้น ทางบริษัทฯ จึงต้องการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารและการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพทนทาน ปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้ และเกิดประโยชน์ในความประหยัดของการใช้ทรัพยากรก๊าซของประเทศ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด
ส่วนสินค้าของบริษัทฯ มีให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการตามลักษณะการใช้งาน คือมีทั้งเตาแก๊สตั้งโต๊ะ 2 หัวเตาและ 1 หัวเตา เตาแก๊สตั้งพื้นทั้งแบบ 1 หัวเตา และ 2 หัวเตา เตาแก๊สแบบตู้ ซึ่งเตาแก๊สของบริษัททุกรุ่นมีอะไหล่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อทุกชิ้นภายใต้เครื่องหมายการค้า “ยูดี” และ “บิ๊กซัน” โดยบริษัทฯ มีหัวเตาแก๊สทั้งแบบสแตนเลส หัวเตาแบบเหล็กหล่อ และหัวเตาแบบอินฟราเรด ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเตาแก๊สหัวอินฟราเรดแห่งแรกในประเทศไทย ที่ให้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งแบบปิ้ง ย่าง ผัด และต้ม โดยไม่มีกลิ่นแก๊สขึ้นมาติดอาหาร นอกจากนี้เตาแก๊สอินฟราเรดจะมีตัวฐานค่อนข้างกว้าง ช่วยทำให้แก๊สและก๊าซเข้ามาผสมกันได้ส่งผลให้ประหยัดแก๊สได้มากกว่า 30%
“ทางบริษัทฯ เน้นในเรื่องของความปลอดภัย โดยคัดสรรวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบโครงการแก๊สให้มีความหนา คงทน สินค้าที่ผลิตออกมาทุกชิ้นก่อนจะถึงมือลูกค้าต้องมีการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยจะทำการทดลองก่อนเพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐาน”
ด้านการจัดจำหน่ายสินค้านั้น รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทฯ จำหน่ายสินค้าผ่านเอเย่นต์ที่เป็นร้านขายแก๊สทั่วประเทศ และร้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ แต่หากลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้ากับบริษัทฯ เอง เราจะมีบริการส่งสินค้าให้ถึงที่ หรือถ้าลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วไม่เข้าใจวิธีการใช้ก็สามารถติดต่อได้ที่โรงงาน รวมถึงการเกิดความผิดพลาดใดๆ ทางบริษัทฯ จะเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่และรับประกันสินค้า 1 ปี แต่ถ้าเป็นเตาแก๊สอินฟราเรดจะรับประกันในส่วนของแผ่นอินฟราเรดตลอดอายุการใช้งาน ปัจจุบันนอกจากจำหน่ายทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศซึ่งมีลูกค้าทั้งแถบเอเชียและยุโรป อาทิ ชิลี ไนจีเรีย ปากีสถาน อเมริกาใต้ แอฟริกา ตุรกี อินเดีย เป็นต้น
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่ได้หยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ผู้เชี่ยวชาญจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) มาให้คำแนะนำโดยเฉพาะในส่วนของการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นโซนในการผลิต การนำโปรแกรมการเขียนแม่พิมพ์สามมิติมาใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์ตลาดก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ระบบการทำงานที่เป็นขั้นตอน ตลอดจนการจัดระบบระเบียบต่างๆ ในการผลิตสินค้า ซึ่งหลังจากที่เราเปลี่ยนและวางระบบใหม่สามารถช่วยแก้ปัญหาในเรื่องความต้องการของตลาด การส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทันถ่วงที รวมถึงการผลิตสินค้าได้ตรงตามเวลา” น.ส.สิปปภาส กล่าว
ขณะเดียวกันทางบริษัทฯ ยังคำนึงถึงมาตรฐานของงานทั้งระบบ ทาง ITAP จึงแนะนำให้ขอมาตรฐานในประเทศก่อนนั่นคือระบบ TFQS หรือ แนวทางการสนับสนุน SMEs เพื่อจัดทำระบบคุณภาพพื้นฐานของไทย ที่ สวทช. เป็นผู้ออกแบบขึ้นมาเฉพาะเจาะจงสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ซึ่งเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ SMEs สามารถนำไปใช้สำหรับบริหารจัดการในองค์กร ที่จะเป็นรากฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีและองค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป และในอนาคตเราจะดำเนินการขอมาตรฐาน ISO โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้สำเร็จภายในปี 2550 ท่านใดสนใจเป็นเอเย่นต์จำหน่ายสินค้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท แมกซ์เกน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด โทร.0-2531-6770-2
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับการสนันสนุนในโครงการ ITAP สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2564-8000 หรือ
สื่อมวลชนที่สนใจข้อมูล-ภาพเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่คุณนก,คุณเกด ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการ ITAP โทร.0-2619-6188,0-2619-9701
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ