กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--ไทยธนาคาร สำนักวิจัย ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่ บทวิเคราะห์ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก มีความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปี 2548 ที่ขยายตัวเพียง 3.3 % นั้นดีกว่าคาดการณ์เล็กน้อย ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับดังกล่าวสะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และคาดว่าแนวโน้มชะลอตัวดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาสและคาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสี่จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น สำนักวิจัยยังมองว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2548 จะยังขยายตัวในระดับที่ยังรักษาระดับการจ้างงานไว้ได้ภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยังถูกกดดันด้วยปัจจัยลบ โดยเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่ชะลอตัวลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจของไทยอยู่บ้าง ในขณะเดียวกันจะเป็นปัจจัยที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท. ที่จะมีการประชุมในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ ต้องให้น้ำหนักในการกำหนดนโยบายทางการเงิน ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาสำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร มองว่า ในไตรมาสที่สอง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะไม่แตกต่างจากไตรมาสแรกมากนัก เนื่องจากปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจ ยังเป็นปัจจัยที่ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะเริ่มฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก เพราะสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยมากขึ้น โดยเฉพาะ เงินทุนไหลเข้าสุทธิเพื่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 117% ในไตรมาสแรก และ โครงการต่างๆที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนน่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังได้ ปัญหาภัยแล้งที่บรรเทาลง รายได้จากการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว และสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือ Mega-Project และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านทางงบกลางปีมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ดุลการค้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าและการบริหารการนำเข้าดีขึ้น โดยเฉพาะมูลค่าการนำเข้าน้ำมันลดลงจากการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ส่วนการส่งออกจะขยายตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากมาตรการกระตุ้นการส่งออกและการทำ FTA กับประเทศต่าง ๆ อย่างไรตาม อัตราเงินเฟ้อจะยังคงเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจตลอดทั้งปี สำนักวิจัย มีความเห็นว่า ปัจจัยที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ก็คือ ปัญหาความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย เช่น สหรัฐฯ ที่ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลงบประมาณ ปัญหาการว่างงานในสหภาพยุโรป ปัญหาอุปสงค์รวมของญี่ปุ่นที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งนโยบายชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อความผันผวนของตลาดเงินและกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจรายไตรมาส (ร้อยละ)ภาคเศรษฐกิจ ไตรมาส1/47 ไตรมาส2/47 ไตรมาส3/47 ไตรมาส4/47 ไตรมาส1/48 ภาคเกษตร -2 -5.8 -5.2 -3.3 -8.2 ภาคนอกเกษตร 7.7 7.7 7.1 6.5 4.5 GDP 6.7 6.4 6.1 5.3 3.3 ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--จบ--