กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ปตท.
ปตท. - บางจากฯ จับมือช่วยเศรษฐกิจไทยใช้น้ำมันดิบในประเทศ เซ็นสัญญา 5 ปี ซื้อ-ขายน้ำมันดิบปัตตานี และน้ำมันดิบวิเชียรบุรี สร้างความเข้มแข็งในการร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างบริษัทพลังงานไทย พร้อมเพิ่มมูลค่าน้ำมันดิบในประเทศ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบปัตตานี และน้ำมันดิบวิเชียรบุรี มูลค่ารวมกว่า 65,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวว่า การลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบนี้เป็นสัญญาระยะยาว 5 ปี ตั้งแต่ปี 2548-2552 ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในการใช้น้ำมันดิบภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ โดยบางจากฯ จะรับซื้อน้ำมันดิบจาก ปตท. ปริมาณรวมประมาณ 42 ล้านบาร์เรล หรือมูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท จากแหล่งปัตตานีและแหล่งวิเชียรบุรี ซึ่งเป็นน้ำมันดิบไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าน้ำมันดิบจากตะวันออกไกล
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยให้ประหยัดเงินตราในการนำเข้าและค่าขนส่งให้ประเทศอีกทางหนึ่ง สำหรับน้ำมันดิบปัตตานี เป็นน้ำมันดิบจากอ่าวไทย บางจากฯ จัดซื้อจาก ปตท. มาใช้แทนการนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศมาเลเซียและประเทศบรูไน โดยจะรับซื้อในปริมาณที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ คือ ปี 2548 จะรับซื้อที่ปริมาณ 9,000 — 12,000 บาร์เรลต่อวัน ปี 2549-2550 จะรับซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 — 30,000 บาร์เรลต่อวัน และในสองปีสุดท้ายจะซื้อในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 — 30,000 บาร์เรลต่อวัน โดย ปตท.จะส่งมอบให้กับบางจากฯ ที่คลังปิโตรเลียมศรีราชา ในขณะที่น้ำมันดิบวิเชียรบุรีนั้น บางจากฯ จะรับซื้อทั้งหมดประมาณ 500 บาร์เรลต่อวัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในบันทึกความเข้าใจระหว่าง ปตท. และบางจากฯ ซึ่งลงนามไปแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 โดยปตท.จะจัดหาน้ำมันดิบที่มีลักษณะเป็นรัฐต่อรัฐ หรือน้ำมันดิบจากแหล่งในประเทศให้กับบางจากฯ
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจต่อทั้ง 2 บริษัท คือ ปตท. สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มปริมาณการค้าภายในประเทศได้มากขึ้น พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำมันดิบที่ผลิตได้ในประเทศ ในขณะที่ บางจากฯ ก็ได้ประโยชน์จากการที่มีแหล่งจัดหาและจัดส่งน้ำมันดิบที่มั่นคง โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในต้นทุนราคาที่เหมาะสม
การสำรวจขุดเจาะและนำน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งในประเทศมาใช้ ผนวกกับการพัฒนาพลังงานทดแทนจากพืชเกษตร ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ฯลฯ จะเป็นทางเลือกสำคัญในการช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตราในการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศได้ในระยะยาว--จบ--