กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม ร่วมกับธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่มช่องทาง การให้บริการชำระเงินสมทบและรับประโยชน์ทดแทนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารได้ทุกสาขาเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่นายจ้าง/ผู้ประกันตน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมา การชำระเงินสมทบส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตนโดยสมัครใจม.39 สามารถชำระผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารและชำระเงินสมทบโดยหักบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันตนโดยสมัครใจ ม.39 ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป นายจ้างและผู้ประกันตนโดยสมัครใจม.39 สามารถชำระเงินสมทบผ่านทางธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งมีสาขาให้บริการถึง 397 สาขาทั่วประเทศ
เลขาธิการฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการขอรับประโยชน์ทดแทนผ่านธนาคาร แต่เดิมผู้รับเงินสามารถรับผ่านธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เฉพาะกรณีสงเคราะห์บุตรกับกรณีว่างงานเท่านั้น ทั้งนี้ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป ผู้ประกันตนและผู้มีสิทธิสามารถขอรับประโยชน์ทดแทนทั้ง 7 กรณี รวมทั้งกรณีนายจ้างขอคืนเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านธนาคารทั้ง 6 แห่งดังกล่าว และเพิ่มธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) อีก 1 แห่ง รวมเป็น 7 แห่ง
ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระในการเดินทางมารับเงินที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา โดยสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันตนภายใน 5 วันทำการ สิ่งสำคัญคือผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ เพียงแสดงความจำนงขอรับเงินผ่านธนาคาร พร้อมยื่นสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารดังกล่าวได้ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506/www.sso.go.th