กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กระทรวงพลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมปีที่ 2 มั่นใจสามารถดึงเยาวชนจากทั้ง 4 ภาค เป็นแนวร่วมประหยัดพลังงาน นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์แผนพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างเยาวชนของชาติให้เป็นแนวร่วมในการประหยัดพลังงานอย่างถาวร เนื่องจากเยาวชนสามารถเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความรู้เรื่องการอนุรักษ์พลังงานให้กับคนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงดำเนินกิจกรรมเพื่อปลูกจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานสำหรับเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรมค่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานสัญจรตามภูมิภาคต่างๆ สำหรับในปีนี้ สนพ. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากศูนย์เผยแพร่ความรู้ด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไปจัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมปีที่ 2” โดยกำหนดจัดกิจกรรมในแต่ละภูมิภาค ดังนี้ ภาคตะวันออก จัดที่หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 1 น้ำตกตรอกนอง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2549 ภาคเหนือ จัดที่สวนป่าเขากระยาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2549 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2549 และภาคใต้จัดที่ค่ายลูกเสือ ไทยเฉลิมพระเกียรติ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2549 โดยมีลักษณะเนื้อหาการจัดกิจกรรม อาทิ กิจกรรมสถานีการเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมระดมสมอง เพื่อให้เยาวชนร่วมเสนอและจัดทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน กิจกรรมทัศนศึกษาดูงาน กิจกรรมสันทนาการ และกิจกรรมรอบกองไฟ เป็นต้น สำหรับ การจัดกิจกรรมค่าย “เยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมปีที่ 1” ซึ่งจัดขึ้นที่ภูมิภาคต่างๆ ดังนี้ ภาคเหนือ จัดที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่จังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันตก จัดที่จังหวัดราชบุรี และ ภาคใต้ จัดที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี สามารถสรุปผลได้ว่า กลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือ และสนใจด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมมาก ซึ่งทำให้เยาวชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน--จบ--