ซีเอสพี (“CSP”) ยิ้มร่า รายได้ปี 2548 พุ่งกว่า 40% สบช่องกระแสตลาดยานยนต์บูม เดินหน้าเต็มกำลัง เร่งผลิตท่อเหล็กรีดเย็นเสริมไลน์สินค้า ตั้งเป้ารายได้ปี 2549 โตอีก 15%

ข่าวทั่วไป Friday April 7, 2006 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ (“CSP”) ศูนย์บริการเหล็กครบวงจร กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมเหล็กในปี 2549 นั้น คาดว่า ด้านปริมาณการใช้ ในปี 2549 อุตสาหกรรมภาคการผลิตที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตก็จะมีการเติบโตและปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีแผนการผลิตมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ค่ายรถยนต์หลายแบรนด์จะออกรุ่นใหม่ นอกจากนั้นในภาคก่อสร้าง รัฐบาลได้มีโครงการใหญ่ที่รอการก่อสร้างในปีนี้ จะทำให้มีปริมาณการใช้เหล็กเพิ่มมากขึ้น แต่เชื่อว่าราคาเหล็กในปัจจุบันนี้ถือว่าอยู่ในช่วงราคาที่ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำมากแล้ว เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิต ในปี 2548 ราคาเหล็กปรับลดลงมาก เพราะมีการผลิตเหล็กออกมามากขึ้น ทำให้โรงงานผลิตเหล็กได้ลดกำลังการผลิต ดังนั้นปริมาณการผลิตสมดุลกับปริมาณการใช้มากขึ้น
“ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ผลิต ผู้จัดหาและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ที่ยังมีการขยายตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดี น่าพอใจ โดยผลประกอบการของบริษัทในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.5% จากในปี 2547 ซึ่งขณะนั้นบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,964 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44 ล้านบาท โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร บริษัทมีกำไรสุทธิของปี 2548 เท่ากับ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิของปีก่อนหน้า ประมาณ 57% และกำไรต่อหุ้น 0.23 บาท”
นายวีรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2549 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้มีอัตราการขยายตัวประมาณ 10-15% เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มียอดรายได้รวมประมาณ 2,741 ล้านบาท หรือ โดยรายได้หลักมาจากการผลิตท่อเหล็กรีดเย็น และการขยายฐานตลาดจำหน่ายเหล็กแผ่นให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ คิดเป็น 35 % และ 20 % ตามลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์การตลาด โดยเน้นความหลากหลายของสินค้าให้มีเพียงพอต่อความต้องการ รวมไปถึงควบคุมคุณภาพของสินค้า การให้บริการจัดส่งที่รวดเร็ว และการบริการหลังการขาย โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคาสินค้า เพื่อเป็นการลดการแข่งขันด้านราคาสินค้า
นายวีรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า “บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพและความพร้อมของบริษัท ในการรองรับการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจาก ในปลายปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายงานสร้างโรงงานเพิ่มเติมในส่วนของพื้นที่อีก 5,000 ตารางเมตร รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มสำหรับผลิตท่อเหล็กรีดเย็นเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวน 4 เครื่อง และเครื่องจักรสำหรับตัดเหล็กแผ่นชนิดม้วนเป็นแถบเหล็ก (Slitting Machine) จำนวน 1 เครื่อง โดยทั้งหมดสามารถดำเนินการผลิตท่อเหล็กและเหล็กแผ่นแถบเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 30,000 และ30,000 ตันต่อปีตามลำดับ และจะเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งทำให้บริษัทมีเครื่องจักรสำหรับตัดเหล็กแผ่นจำนวนทั้งสิ้น 15 เครื่อง สามารถดำเนินการผลิตตัดเหล็กแผ่นได้ 193,800 ตันต่อปี และเครื่องจักรสำหรับผลิตท่อเหล็กรีดเย็นจำนวน 4 เครื่อง สามารถผลิตท่อเหล็กได้ทั้งสิ้น 30,000 ตันต่อปี”
“บริษัทฯ มีมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด และสร้างความหลากหลายของสินค้า ให้สมกับเป้าหมายที่ได้วางไว้เพื่อเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร “Quality Steel Sevice Center” ของคนไทย” นายวีรศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ โทร. 0-2260-0820 โทรสาร 0-2259-9246
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ ต่อ 8221 หรือ 0-9127-2089
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน โทร. ต่อ 8216 หรือ 0-1586-2819

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ