ก.พลังงาน — ปตท. ร่วมจัดงาน “NGV ของไทย พลังใหม่เพื่อยานยนต์” ส่งเสริมการใช้ NGV ในภาคคมนาคมขนส่ง

ข่าวทั่วไป Monday March 20, 2006 14:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ปตท.
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มีนาคม 2549) เวลา 10.30 น. ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงาน “NGV ของไทย พลังใหม่เพื่อยานยนต์” ซึ่ง กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นและเร่งส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในภาคการขนส่งให้แพร่หลายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสนับสนุนให้ประชาชนและผู้ประกอบการในภาคการขนส่งติดตั้งอุปกรณ์ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้น้ำมัน ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก โดยภายในงานฯ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “โครงการสินเชื่อเพื่อ NGV 7,000 ล้านบาท” ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) - ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง และ โครงการส่งเสริมการใช้ NGV ในรถโดยสารและรถบรรทุก ระหว่าง ปตท. — ผู้ประกอบการขนส่ง 4 ราย — ผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์ NGV 1 ราย -ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง
โครงการสินเชื่อเพื่อ NGV 7,000 ล้านบาท : เป็นโครงการที่ ปตท. ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อสนับสนุนให้สินเชื่อแก่เจ้าของยานยนต์ สำหรับยานยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV กับ ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย ธนาคารทั้ง 8 แห่ง จะร่วมกันให้สินเชื่อแก่เจ้าของยานยนต์สำหรับค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงและ/หรือติดตั้งอุปกรณ์ใช้ NGV ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย ประเภทบุคคลธรรมดาไม่เกิน 5% ต่อปี ประเภทนิติบุคคล ไม่เกิน 4% ต่อปี ตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระ ซึ่งสูงสุดไม่เกิน 60 งวด
โครงการส่งเสริมการใช้ NGV ในรถโดยสารและรถบรรทุก : เป็นโครงการที่ ปตท. ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อร่วมกันส่งเสริมขยายการใช้ก๊าซ NGV ในรถบรรทุก ระหว่าง ปตท. กับผู้ประกอบการขนส่ง 4 ราย ได้แก่ บริษัท สิริโปรเจค คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัท บุญญฤทธิ์ ทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) บริษัท วังศกาญจน์กิจ จำกัด บริษัท สระบุรีทรัคเซลส์ จำกัด กับ ผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ได้แก่ บริษัท พี.เอส. เนเชอรัล ก๊าซ จำกัด และ ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย ผู้ประกอบการขนส่งทั้ง 4 ราย จะติดตั้งอุปกรณ์หรือดัดแปลงรถโดยสารและรถบรรทุกของบริษัทฯ ให้ใช้ก๊าซ NGV โดยใช้สินเชื่อจากธนาคารทั้ง 3 แห่ง และ ปตท. จะให้การสนับสนุนก่อสร้างสถานีเพื่อให้บริการก๊าซ NGV แก่รถบรรทุกและรถโดยสารในพื้นที่ของผู้ประกอบการขนส่งที่จัดเตรียมให้
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าวันนี้เป็นที่น่ายินดีที่ ปตท. ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินร่วมมือกันในการส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ซึ่งจะทำให้นโยบายของรัฐบาลในการขยายการใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมันประสบความสำเร็จ มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากภาวะวิกฤติราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก กระทรวงพลังงานได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์สาธารณะ อาทิ รถแท็กซี่ รถโดยสาร และ รถบรรทุกขนส่ง ซึ่งมีการวิ่งใช้งานในระยะทางไกลๆ จึงได้มอบหมายให้ ปตท. เร่งดำเนินการส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนน้ำมัน เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ซึ่งจากการดำเนินโครงการ NGV ของ ปตท. ที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยปัจจุบันประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลทั้งรถเก๋ง รถกระบะ และรถตู้ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน และ ผู้ประกอบการรถโดยสาร-รถขนส่ง ได้นำรถยนต์เข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์ NGV แล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 12,000 คัน ซึ่งหาก ปตท. ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่เสนอต่อรัฐบาล ในปี 2553 จะมีรถใช้ก๊าซ NGV จำนวน 500,000 คัน และสถานีบริการก๊าซ NGV จำนวน 740 สถานี แล้ว จะสามารถนำก๊าซธรรมชาติทดแทนการใช้น้ำมันคิดเป็นมูลค่าได้ประมาณ 64,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะช่วยลดภาระการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลดการขาดดุลการค้า อันจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้เป็นอย่างดี
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า การจัดงาน “NGV ของไทย พลังใหม่เพื่อยานยนต์” ในวันนี้ เป็นเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของ ปตท. ในการที่จะแสวงหาเทคโนโลยี และแนวทางในการส่งเสริมการใช้ NGV ในภาคการขนส่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งมีทางเลือกในการใช้พลังงานที่มีราคาถูก สะอาด และสามารถจัดหาได้ภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ในรถยนต์ ตามนโยบายของรัฐบาลประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งและประชาชนที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ปตท. พร้อมที่จะขยายเครือข่ายสถานีบริการก๊าซ NGV ให้กระจายครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จากปัจจุบันที่จะเปิดให้บริการในปลายเดือนมีนาคมจำนวนทั้งสิ้น 65 สถานี เป็น 160 สถานี ภายในสิ้นปี 2549 และจะเพิ่มเป็น 740 สถานี ในปี 2553 โดยสถานีบริการก๊าซ NGV ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสายหลักครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับบริเวณกรุงเทพชั้นใน ปตท. จะเสริมด้วยสถานีขนาดเล็ก หรือ Mini Station ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าเติมก๊าซ NGV ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีแผนจะขยายการใช้รถโดยสารใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงอีกจำนวน 2,000 คัน นั้น ปตท. พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างสถานีบริการก๊าซ NGV ในบริเวณอู่รถโดยสารของ ขสมก. ที่มีความพร้อมทันที เนื่องจากเป็นภาคการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ที่หากเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ NGV แล้ว นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ ขสมก. เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการกำหนดค่าโดยสารของ ขสมก. ให้เหมาะสมแล้ว ยังจะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตราจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ช่วยลดมลพิษในอากาศ นับเป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนได้ทางหนึ่ง นอกจากนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่ง หันมาใช้ก๊าซ NGV ทดแทนการใช้น้ำมัน ปตท. ยังคงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม และ ปตท. ขอยืนยันว่า ในอนาคตแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ ปตท. จะกำหนดราคาก๊าซ NGV ไว้ไม่เกิน 50% ของราคาน้ำมันดีเซล ดังนั้น จึงใคร่ขอเชิญชวนผู้ประกอบการขนส่งและประชาชนทั่วไป เปลี่ยนมาใช้ก๊าซ NGV ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับโทรศัพท์ ปตท. (NGV Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
โทรศัพท์ 0-2537-3217 ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ
โทรสาร 0-2537-3211 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ