กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ตลท.
นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการให้ความรู้ผู้ลงทุน (Investor Education Workshop) ที่จ.ภูเก็ตว่า การพัฒนาผู้ลงทุนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าทางการเงินที่นับวันจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาตลาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจังมาโดยตลอด เห็นได้จากการจัดตั้งสถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน (Thailand Securities Institute) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับการออมและการลงทุนในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็ก เยาวชน นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบวิชาชีพในธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มได้รวม 6 ล้านคนภายในปี 2549 นี้ นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำหลักสูตร และคู่มือการเรียนการสอน จัดทำระบบอีเลิร์นนิ่ง และจัดตั้งบริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด เพื่อบริหารสถานีโทรทัศน์เพื่อการลงทุน 24 ชั่วโมงสถานีแรก เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทุกเพศทุกวัยอย่างกว้างขวางมากขึ้น
ด้านนายโธมัส ครานซ์ (Thomas Krantz) เลขาธิการ สภาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติหรือ WFE กล่าวถึงความสำคัญของการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการให้ความรู้ในครั้งนี้ว่า ตลาดทุนทั่วโลกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าถึง ผู้ลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่มีอินเทอร์เน็ตในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันกระแสความต้องการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมีมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนบำเหน็จบำนาญทั่วโลกที่มีมูลค่ามหาศาล และมีผู้ลงทุนรายย่อยเป็น ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนมาก
นายนิค แบนนิสเตอร์ ( Nick Bannister ) ประธาน International Forum for Investor Education หรือ IFIE กล่าวว่าสัดส่วนผู้ลงทุนรายย่อยขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐฯ มีสัดส่วนครัวเรือนที่ลงทุนในตราสารทุนคิดเป็นเกือบร้อยละ 57 ในปี 2548 เพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่าตัวนับจากปี 2526 นอกจากนี้ ผู้ลงทุนรายย่อยยังถือกองทุนรวมสูงถึง ร้อยละ 88 ด้านสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียก็มีการเติบโตของผู้ลงทุนรายย่อยสูงมากเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ตลาดทุนทั่วโลกจึงยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ลงทุนให้ข้อมูลผู้ลงทุนครอบคลุม ทั้งด้านผลตอบแทนและความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ตราสารทางการเงินมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ลงทุนจึงยิ่งต้องเข้าใจว่าตนเอง ลงทุนในสินค้าใดมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาอะไรบ้าง เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันในการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ โดยการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ IFIE ให้การสนับสนุนด้วยเชื่อว่ากิจกรรมการให้ความรู้นั้น สามารถถ่ายทอดระหว่างประเทศหรือระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ได้ การเรียนรู้ระหว่างกันจึงมีส่วนสำคัญต่อการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนากิจกรรมการให้ความรู้ในตลาดทุนต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการให้ความรู้ผู้ลงทุน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 — 8 ธันวาคม ที่จ.ภูเก็ต เจ้าภาพโดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับ WFE และ IFIE โดยผู้ร่วมสัมมนาได้หารือแลกเปลี่ยนระหว่างกันในเรื่องนโยบายและ แนวทางการยกระดับความรู้ด้านการจัดการการเงินส่วนบุคคล การให้ความรู้เพื่อวางแผนสำหรับวัยเกษียณ การประยุกต์เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการให้ความรู้ การส่งเสริมบรรษัทภิบาล รวมทั้ง ความรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797