คำแถลง นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรณีรายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” ถูกย้ายเวลาออกอากาศ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548

ข่าวทั่วไป Friday February 25, 2005 14:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--เอ็กแซ็กท์ — ซีเนริโอ
สวัสดีสื่อมวลชนทุกท่าน สืบเนื่องจากการที่ รายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” ตกเป็นหัวข้อ ในการเสวนาของนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ว่า เป็นรายการที่ขายเซ็กซ์ และเป็นมลพิษทางจอทีวี จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และในท้ายที่สุด เป็นเหตุให้รายการถูกย้ายเวลาจาก เวลาหกโมงเย็น วันอาทิตย์ มาเป็น ห้าทุ่ม วันเสาร์
..ผมจึงจัดงานแถลงข่าววันนี้ขึ้น เพื่อไม่อยากให้ประชาชนและสื่อมวลชนเกิดความเข้าใจผิดในหลายๆเรื่อง
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ..ถ้ามองกันเพียงผ่านๆ แบบผิวเผิน ก็คงจะดูเหมือนว่า รายการเราเป็นรายการขายเซ็กซ์ และเป็นมลพิษทางจอทีวี ถ้าคุณเป็นปุถุชนธรรมดา ซึ่งอาจจะไม่เคยได้ชมรายการพรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ..แล้ววันนึงเกิดกระแสต่อต้าน ให้ถอดหรือย้ายเวลารายการนี้ เพราะเป็นรายการที่สร้างมลพิษในจอโทรทัศน์โดยการขายเซ็กซ์ ในเวลาต่อมาผู้ผลิตรายการก็ออกมาชี้แจงต่างๆนานา จนกระทั่งต้องไปออกรายการ “ ถึงลูกถึงคน ” ..และในที่สุด วันรุ่งขึ้น รายการนี้ก็ถูกย้ายเวลา ...แน่นอนครับ ถ้าคนทั่วไปได้รับข่าวสารเพียงแค่นี้ ก็ย่อมจะตีความว่า ..รายการนี้ สร้างมลพิษทางจอโทรทัศน์โดยการขายเซ็กซ์จริงๆ ..ซึ่งโดยความจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าฟังจากคำแถลงข่าวของท่าน ผอ.สุระ เกนทะนะศิล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Modern Nine ก็จะเข้าใจว่า รายการนี้ไม่ได้มีพิษมีภัยอย่างที่เราถูกกล่าวหา
ก่อนอื่น ผมขอเรียนว่าผมไม่ได้รู้สึกคัดค้าน การตัดสินใจของทาง Modern nine TV. ที่ย้ายเวลาการออกอากาศของรายการเรา ..ผมเข้าใจว่าท่ามกลางกระแสสังคมในตอนนี้ การย้ายเวลาการออกอากาศ เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆฝ่าย ในขณะเดียวกัน ผมก็ขอขอบคุณในคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่ได้ชมรายการนี้จริงๆ
..แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผมก็อยากจะขอความเป็นธรรม ในฐานะคนทำรายการโทรทัศน์คนหนึ่ง ที่ถูกคนบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์และตัดสิน ทั้งๆที่เป็นกลุ่มคนที่ผมเชื่อว่าแทบไม่เคยชมรายการของเราเลย ..อย่างเช่น นักวิชาการบางท่านที่ไปร่วมรายการ “ ถึงลูกถึงคน ” กับผม ก็ได้บอกในรายการว่า ไม่เคยชมรายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” มาก่อนเลย จนกระทั่งเช้าวันศุกร์ ก็ได้ชมเพียงคลิปสั้นๆ shot บาง shot .. ก่อนจะเข้าร่วมเสวนาต่อต้าน ในหัวข้อ “ พรหมลิขิต รักหรือเซ็กซ์ฯ ”
นอกจากนั้น คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะวิจารณ์ว่า รายการนี้เป็นรายการหาผัว, รายการที่ให้ผู้ร่วมรายการฝ่ายหญิง มาแข่งกันทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจผู้ชาย และได้แต่งงานกับผู้ชายที่หล่อและรวย หรือ รายการนี้เป็นเกมส์ที่ให้ผู้หญิงมาใช้มารยาเพื่อจับผู้ชาย เพื่อชิงเงินรางวัล ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ตรงกับเนื้อหาและประเด็นของรายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” เลย แต่คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ไปพ้องกับเนื้อหาของ รายการโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกา อันได้แก่รายการ THE BACHELOR และ JOE MILLIONAIRE
..ผมขอถือโอกาสนี้ ชี้แจงโครงสร้างและรูปแบบของ รายการพรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ซึ่งรายละเอียดจะอยู่ในเอกสารที่แนบไว้ให้ โดยในเอกสารดังกล่าวจะอธิบายถึงโครงสร้างของรายการอย่างละเอียด :
ช่วงที่หนึ่ง ..เป็นการพบกันครั้งแรกของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจำนวน 3 คน ในร้านอาหาร โดยฝ่ายชายจะมีเวลาพูดคุยกับฝ่ายหญิงแต่ละคน ในเวลาคนละ 20 นาที เพื่อแนะนำตัวเองให้ต่างฝ่ายต่างได้รู้จักกัน
ช่วงที่สอง ..การไปเที่ยวในสถานที่ที่ฝ่ายชายเป็นผู้เลือก ในเวลากลางวัน เพื่อให้ฝ่ายหญิงได้รู้จักโลกของฝ่ายชาย
ช่วงที่สาม ..การไปเที่ยวในสถานที่ที่ฝ่ายหญิงเป็นผู้เลือก และร่วมรับประทานทานอาหารกับเพื่อนๆของฝ่ายหญิง เพื่อฝ่ายชายจะได้รู้จักโลกของฝ่ายหญิงมากขึ้น
..และในช่วงสุดท้าย ฝ่ายชายจะเลือกว่า อยากจะทำความรู้จักกับฝ่ายหญิงคนใดต่อ และในทางกลับกันฝ่ายหญิงก็มีสิทธิ์เลือกว่าอยากจะทำความรู้จักกับฝ่ายชายต่อหรือไม่ ซึ่งในการพบกับตลอดการร่วมรายการ ฝ่ายชายจะไม่ทราบเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ของฝ่ายหญิง เพื่อไม่ให้ทั้งสองฝ่ายติดต่อกันนอกการถ่ายทำ และหญิงสาวทั้งสามคนก็ไม่ได้รู้จักกัน และไม่ได้พบกันเลยตลอดการถ่ายทำ
รายการนี้ไม่ใช่เกมส์ หรือ การแข่งขัน, รายการไม่มีเงินรางวัลเป็นตัวล่อ ..รายการนี้เพียงแค่ทำให้ผู้ชายโสด และผู้หญิงโสดได้มารู้จักกัน เรียนรู้ทัศนะซึ่งกันและกัน และให้เขาได้ตัดสินใจในที่สุดว่า อยากจะทำความรู้จักกันต่อหรือไม่
ผมเชื่อว่าท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงรุนแรง และเสียๆหายๆในตอนนี้ ส่วนใหญ่มาจากการตัดสินจากผู้ที่ไม่เคยชมรายการของเราอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง แต่เป็นการดูอย่างผิวเผิน และเล่นไปตามกระแส แต่สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากผู้ที่ได้ชมรายการอย่างจริงจังและต่อเนื่องนั้น ผมขอขอบคุณด้วยใจจริง และขอน้อมรับเอาไว้ เพื่อเตือนสติในการทำงานของผมต่อไป ผมอยากจะขอโทษ กับการที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการไม่ทันคิดไปว่า สังคมไทยยังคงเป็นสังคมที่อ่อนไหวต่อการนำเสนอความจริงบางอย่างผ่านสื่อโทรทัศน์ ในช่วงเวลา 6 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาสำหรับคนทุกเพศทุกวัย
จากเสียงสะท้อนของผู้ที่ได้ชมรายการนี้จริงๆ มักจะพูดว่า จริงๆแล้ว รายการนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรรุนแรงเลย เพียงแต่การกระทำบางอย่างที่ออกมาเป็นภาพบาง shot เท่านั้นที่อาจจะดูมากเกินไปสำหรับหญิงไทย ซึ่งผมก็ต้องขอโทษ ณ ตรงนี้ ที่นำออกมาฉายในรายการ เพราะผมก็แค่ต้องการนำเสนอการกระทำที่มีหลายรูปแบบ และแค่มองว่าภาพเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่า shot บาง shot ที่มีให้เห็นกันอยู่ในสื่อต่างๆทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ในภาพยนตร์,โฆษณา, ละคร หรือในหน้านิตยสาร และหนังสือพิมพ์
จริงๆแล้ว นักวิชาการทั้งสองท่าน ที่ได้ไปร่วมรายการ “ ถึงลูกถึงคน ” ก็ได้พูดกลางรายการแล้วว่า จริงๆแล้วการต่อต้านครั้งนี้ เป็นการต่อต้านภาพรวมของสื่อ เพียงแต่ใช้รายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” เป็นการเปิดประเด็นเท่านั้น และทั้งสองท่านก็ยังบอกอีกว่า รายการ “ พรหมลิขิต บทที่หนึ่ง ” ถือว่ามีเนื้อหาที่เบามาก เมื่อเทียบกับรายการโทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน
..คำถามของผมในวันนี้ คือ ทำไมผมถึงต้องเป็นแพะจากกรณีนี้, ทำไมผมจึงต้องถูกตัดสิน จากสังคมที่ลุกฮือขึ้นมา ตามการสร้างกระแสของคนกลุ่มหนึ่ง, และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและหยาบคาย จากผู้ที่ไม่มีข้อมูลอย่างแท้จริง
การที่เราจะตัดสินรายการโทรทัศน์ รายการหนึ่งได้นั้น ..สิ่งที่เราจะต้องทำอย่างเป็นธรรมที่สุด ก็คือ เราต้องดูรายการโทรทัศน์รายการนั้นอย่างจริงจัง แล้วจึงค่อยวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่หรือครับ
ตลอดชีวิตการทำงานกว่าสิบห้าปีของผม ในฐานะสื่อ ผมสำนึกมาโดยตลอดว่า ผมมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนต่อสังคมนี้ ผมตั้งใจกับงานทุกชิ้นของผม ..ถ้างานที่ผมทำ มีข้อผิดพลาด ผมยินดีที่จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และยินดีที่จะปรับปรุงและแก้ไขเสมอมา และผมก็อยากจะขอโทษอีกครั้ง ถ้าผมได้ทำอะไร จากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์
สิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดในวันนี้ คือการถูกกล่าวหาอย่างรุนแรง ว่าเป็นผู้สร้างมลพิษทางจอโทรทัศน์, ไม่มีจรรยาบรรณในการทำงาน และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม .ผมขอพูดสั้นๆตรงนี้ว่า ผมเป็นมืออาชีพ และไม่มีวันที่จะทรยศต่ออาชีพที่ผมรัก
ผมขอขอบคุณ Modern Nine TV. และสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ที่ยังเชื่อมั่นในการทำงานของผม และยังให้โอกาสผมได้ร่วมงานด้วย
ผมขอขอบคุณ ผู้ชมทุกท่านที่ยังคงเป็นเสียงสะท้อนกลับมาถึงงานของผม และอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังเป็นกำลังใจให้ผม โดยไม่คล้อยตามไปกับกระแสที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรม
..ขอบคุณครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประสัมพันธ์เอ็กแซ็กท์ — ซีเนริโอ
โทร.02-669-8239-40--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ