PYLON เซ็นสัญญารับงานเพิ่มอีก 3 โครงการ หนุน Backlog ในมือแตะ 250 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Monday November 6, 2006 16:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ไพลอน PYLON หน้าบานเซ็นสัญญารับงานเพิ่มอีก 3 โครงการมูลค่ากว่า 87 ล้านบาท หนุน Backlog ในมือเพิ่มเป็น 250 ล้านบาท ระบุจนถึงสิ้นปีคาดว่าจะเซ็นสัญญาเพิ่มอีกหลายโครงการ คุยแม้ช่วงต้นปีได้รับผลกระทบจากแรงกดดันเรื่องการเมือง แต่ยังปั๊มรายได้ทั้งปีถึง 500 ล้านบาทตามเป้าหมายได้ เหตุในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีสถานการณ์ด้านวัตถุดิบ-เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานเพิ่มอีก 3 โครงการมูลค่ารวม 87,492,520.00 บาท โดยโครงการแรกเป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร โครงการคอนโดมิเนียมอมันตา พระราม 4 ของบริษัท นายารา เอสเตท จำกัด มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 67,410,000.00 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 132 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับมอบพื้นที่ โครงการที่สองเป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) โครงการอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรจน์ ประสานมิตร ของบริษัท กำจรกิจก่อสร้าง จำกัด มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 9,882,520.00 บาทระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับมอบพื้นที่ โครงการที่สาม เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี ของบริษัท กำจรกิจก่อสร้าง จำกัด มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 10,200,000.00 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 84 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับมอบพื้นที่ รวมมูลค่าสามโครงการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเป็นเงิน 87,492,520.00 บาท เขากล่าวว่า งานเจาะเสาเข็มทั้งสามโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานที่บริษัทได้เจรจาในช่วงก่อนหน้านี้ และจากนี้จนถึงสิ้นปียังมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกหลายโครงการ ส่วนงานที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งมีงานโครงการขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วยคาดว่าจะสามารถทราบผลการเจรจาได้ในต้นปีหน้า "ถ้านับรวมโครงการใหม่ที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาทั้ง 3 โครงการนี้จะทำให้ล่าสุดเรามี Backlog (งานในมือ) อยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่า Backlog ในปีนี้เข้ามาไม่มากนัก เพราะมีบางโครงการที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในประเทศจึงทำให้ชะลอการก่อสร้างออกไป งานที่คาดว่าจะเข้ามาก็ชะลอออกไป แต่เชื่อว่าสถานการณ์เหล่านี้จะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า เพราะการเมืองมีความชัดเจน และภาครัฐมีการใช้จ่ายเงินในปีงบประมาณใหม่ งานที่ชะลอมาจากปี 49 ก็จะเดินหน้าในปี 50 ดังนั้นคาดว่าจะมีงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดตั้งแต่ไตรมาส 1-2 ของปี 2550" นายบดินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการในปีนี้ คาดว่ารายได้จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แม้ภาพรวมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 และ 2 จะได้รับผลกระทบจากเหตุการทางการเมือง แต่เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัททั้งปีจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 500 ล้านบาทได้ เนื่องจากรายได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ยังคงมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ จากราคาวัตถุดิบต่างๆที่ทรงตัว ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทก็ยังคงมีงานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้มีโอกาสเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888-337

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ