เอสเอพี ขึ้นอันดับสูงสุดกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์ในดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์ 2009

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday October 13, 2009 15:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค SAP AG ประกาศความสำเร็จเป็นปีที่ 3 ในการติดอันดับผู้นำกลุ่มซอฟต์แวร์ จากดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์ (DJSI : Dow Jones Sustainability Indexes) ซึ่งประกอบไปด้วยดัชนี 2 กลุ่มด้วยกัน นั่นคือดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์ในระดับโลก (Dow Jones Sustainability Index World) และ ดัชนีความมั่นคง ดาวโจนส์ในกลุ่มตลาดหุ้น (Dow Jones STOXX Sustainability Index) ทั้งนี้ ดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์กลุ่มซอฟต์แวร์ เป็นการประเมินโดยใช้เกณฑ์ชี้วัดทางสังคม เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมจากบริษัทซอฟต์แวร์ 34 แห่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดอันดับในปี 2551 แล้ว บริษัท เอสเอพี มีคะแนนเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ส่วน และมีคะแนนด้านความเป็นผู้นำในกลุ่มสูงขึ้นถึง 12 คะแนน จากเกณฑ์พิจารณาใน 20 มิติหลัก อาทิ การปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ (Operational Eco-Efficiency) ซึ่งได้คะแนนเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์, การบริหารจัดการตราสินค้า (Brand Management), การพัฒนาต้นทุนทางบุคคลากร (Human Capital Development), ความเป็นประชาสังคมในองค์กร (Corporate Citizenship) และแนวทางปฏิบัติงาน (Codes Of Conduct) นอกจากนี้ เอสเอพียังได้รับคะแนนเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ในการทำรายงาน Sustainability Report อย่างสร้างสรรค์ที่ http:// www.sapsustainabilityreport.com “เอสเอพี ตระหนักถึงดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์ ว่าเป็นตัวชี้วัดความพยายามในการพัฒนาศักยภาพด้าน การดำเนินกิจการอย่างมั่นคงของเราและลูกค้าของเรา” นางเจอร์ราดีน แมคไบร์ด ประธานเอสเอพี ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น (SAP APJ) “ทุกธุรกิจที่ปรารถนาจะเป็นองค์กรที่โปร่งใส (Clear Enterprises) มีพันธะสัญญาที่จะทำให้แน่ใจได้ว่า บริษัท จะดำเนินงานได้อย่างโปร่งใสและมีพฤติกรรมทางบัญชีอย่างที่ดี โดยล่วงล้ำธรรมชาติให้น้อยที่สุด และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม เหล่านี้เป็นคำมั่นสัญญาระยะยาวของเอสเอพี และบริษัทภูมิใจที่ได้พัฒนาจุดยืน ดังที่เห็นในดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา” ดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์ติดตามทิศทางที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน รวมถึงความสามารถในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงจากแต่ละอุตสาหกรรมในระดับโลก จนถึงระดับภูมิภาคตามลำดับ รายงานประจำปีในระดับกลุ่มของดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์ ใช้พื้นฐานจากการวิเคราะห์ด้านสภาพเศรษฐกิจองค์กร สภาพแวดล้อม และสภาพสังคม โดยประเมินจากกรณีต่างๆ เช่น การบริหารองค์กร การบริหารความเสี่ยง การสร้างตราสินค้า การลดผลกระทบจากสภาพอากาศโลก มาตรฐานด้านอุปสงค์ และการฝึกฝนแรงงาน นอกจากดัชนีความมั่นคงดาวโจนส์แล้ว ก่อนหน้านี้ เอสเอพียังได้รับการจัดอันดับจากความสามารถในการทำธุรกิจอย่างมั่นคง ในการสำรวจ The Global 100 Most Sustainable Corporations in the World ซึ่งพิจารณาบริษัทที่มีความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และผ่านเกณฑ์การประเมินจากดัชนี FTSE4Good ตลอดจนได้รับการจัดอันดับว่าอยู่ในกลุ่ม Global Challenges Index ซึ่งให้ความสำคัญถึงความโปร่งใส และการดำเนินโดยปราศจากการทุจริตในองค์กร ในปีนี้ เอสเอพีประกาศนโยบายที่จะมุ่งเน้นด้านการสร้างความมั่นคงในการดำเนินงาน โดยครอบคลุมถึงการบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งด้านความมั่นคงในการดำเนินงาน และการนำเสนอโซลูชั่นที่นำเสนอรูปแบบการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นดังกล่าว คือเป้าหมายของเอสเอพี ในการลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมให้เหลือเท่ากับปี 2543 ภายในปี 2563 หรือเกือบครึ่งหนึ่งของปี 2550 และจากการร่วมมือกับพันธมิตรของบริษัท เอสเอพีจะนำเสนอโซลูชั่นที่สนับสนุนการดำเนินงานอย่างมั่นคงออกมาเป็นลำดับๆ รวมทั้งการทำวิจัยอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อพัฒนาโซลูชั่นอื่นๆ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การกำหนดทรัพยากรใช้งาน และการบริหารจัดการและการวัดปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการที่เอสเอพีซื้อกิจการ Clear Standards และพัฒนาเป็นโซลูชั่น SAP? Carbon Impact On-Demand ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างล่าสุด จากคำมั่นสัญญาของเอสเอพี ที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในการดำเนินงานดังกล่าวได้โดยตรง รายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงของเอสเอพี โซลูชั่น และทิศทางผลิตภัณฑ์ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ http://www.sapsustainabilityreport.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน : วิไลลักษณ์ ภักดี บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02- 631-1800, wilailak.pakdee@sap.com ภัทธิรา บุรี และ อุทัยวรรณ ชูชื่น บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด โทร. 02-937-4518-9, patthira@pr-one.com, utaiwan@pr-one.com

แท็ก ตลาดหุ้น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ