ก.ไอซีทีบูรณาการ 24 หน่วยงาน วางแนวทางแก้ปัญหาการเผยแพร่ข่าวลบผ่านอินเทอร์เน็ต

ข่าวเทคโนโลยี Monday October 19, 2009 17:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ก.ไอซีที นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางแก้ไขปัญหาในเชิงบูรณาการ กรณีนำเสนอข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษพิพาทค่าเสียหายการเช่าเจ็ทสกี ณ จังหวัดภูเก็ต ว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรได้เชิญกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาสอบสวน หรือศึกษาในเรื่องดังกล่าว และได้มีมติที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาในกรณีการนำเสนอข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ “กระทรวงฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 24 หน่วยงานเข้าร่วมการประชุม อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นต้น โดยได้หารือถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งพบว่าเป็นผลกระทบที่เกิดในระยะเวลาไม่นานจากการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อ แต่ควรมีการจัดทำการประเมินผลการประกอบกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งตัวเลขความเสียหายให้ชัดเจน นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการแก้ปัญหาลักษณะดังกล่าวในระยะกลางและระยะยาว ว่า ควรมีการบูรณาการการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการวางมาตรการที่เป็นหลักเกณฑ์การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ การแก้ไขข้อกฎหมาย การกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบให้ชัดเจน โดยเฉพาะการมีเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ และต้องทำงานร่วมกันในเชิงบูรณาการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควรมีการส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องให้มีจิตสำนึกและความรักในประเทศชาติด้วย” นายสือ กล่าว ส่วนการดำเนินการแก้ไขปัญหากับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ในพื้นที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของการแก้ปัญหา สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 นั้น ที่ประชุมเห็นควรให้กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมอบหลักฐานและกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อกรณีดังกล่าว ผ่านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อดำเนินการ และหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องว่า การปิดกั้นเว็บไซต์เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามความเสียหายและตัวบทกฎหมายโดยให้ใช้อย่างมีวิจารณญาณผ่านกระบวนการศาลยุติธรรม “อย่างไรก็ตาม การเกิดเหตุการณ์ในลักษณะการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในระบบอินเทอร์เน็ตที่อาจเกิดความเสียหายนี้ถือเป็นหน้าที่ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะต้องดำเนินการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง เข้มแข็งในฐานะด่านหน้าในการปกป้องประเทศตามพันธกิจและบทบาทของกระทรวงฯ ทั้งนี้ จึงต้องมีการจัดทำยุทธศาสตร์ และแผนการดำเนินงานที่เป็นภาพรวมของประเทศ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวร่วมกับทุกภาคส่วนในเชิงบูรณาการในอนาคตต่อไป” นายสือ กล่าว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 141 6747 ทวิติยา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ