กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ตลท.
ตลาดอนุพันธ์ฯ ทำความเข้าใจกับสมาชิกเตรียมความพร้อมเพื่อเดินแผนงานปี 2553 ร่วมกัน ทั้งด้านการเพิ่มสินค้า การขยายฐานและการปรับปรุงต้นทุนการทำธุรกรรม เตรียมประเดิมออกสินค้าใหม่ด้วยมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส กุมภา ปีหน้า ตามด้วยอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาซื้อขายสินค้าบางประเภท เร่งขยายฐานผู้ลงทุน และปรับปรุงต้นทุนการทำธุรกรรมเพื่อให้แข่งขันได้ในระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 15,078 สัญญาต่อวันในปี 2553 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นเท่าตัวภายใน 3 ปี
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ตลาดอนุพันธ์ได้มีการประชุมร่วมกับสมาชิกตลาดอนุพันธ์ เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานของ TFEX ทั้งงานด้านการออกสินค้าใหม่ การขยายฐานผู้ลงทุน และการปรับปรุงต้นทุนการทำธุรกรรม หลังได้รับอนุมัติแผนงานจากคณะกรรมการ TFEX เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบถึงนโยบายของ TFEX และสามารถเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินงาน เพื่อการพัฒนาตลาดอนุพันธ์ร่วมกัน
ในด้านสินค้านั้น TFEX จะมุ่งเสริมสร้างสภาพคล่องให้แก่สินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยสนับสนุนให้บริษัทสมาชิกขยายการทำธุรกิจในรูปแบบของ proprietary trading รวมถึงการเพิ่มจำนวนผู้ดูแลสภาพคล่อง และการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาซื้อขายอนุพันธ์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในสินค้าที่อ้างอิงกับ global commodity เช่น ทองคำ เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าใหม่ จะเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด
นางเกศรากล่าวว่า “วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 TFEX จะจัดให้มีการซื้อขายมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส (10 บาท) ซึ่งเป็นสินค้าที่ผู้ลงทุนมีความคุ้นเคยมาเกือบปีแล้ว ประกอบกับในช่วงปี 2552 ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก ทำให้โกลด์ฟิวเจอร์สได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ลงทุนมีความต้องการซื้อขายสัญญาที่มีขนาดเล็กลงเพื่อความคล่องตัวในการซื้อขายและบริหารพอร์ตลงทุนที่มีอยู่ จึงเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ TFEX ยังมีแผนที่จะพัฒนาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต และบริษัทจัดการลงทุน ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทในตลาดตราสารหนี้ สามารถใช้ในการบริหารความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในตราสารหนี้ได้ โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553”
นอกจากนี้ TFEX ยังเน้นการร่วมมือกับโบรกเกอร์อนุพันธ์ เพื่อขยายฐานผู้ลงทุน ทั้งการจัดกิจกรรมให้ความรู้ เช่น TFEX Simulation สัมมนาและกิจกรรมการตลาด ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ส่วนผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ TFEX จะปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้มีความคล่องตัวและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากลในเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องการ access เข้ามาซื้อขายใน TFEX ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล เรื่องการรับเงินประกันเป็นเงินตราต่างประเทศสกุลต่าง ๆ เช่น USD, EURO, YEN เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นเรื่องในเชิงนโยบาย จึงต้องหารือร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งได้แก่ สำนักงาน ก.ล.ต. ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังต่อไป
“ส่วนการปรับปรุงต้นทุนในการทำธุรกรรมนั้น TFEX จะมีการศึกษาและผลักดันให้เกิดการปรับปรุงต้นทุนการทำธุรกรรมให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับตลาดอนุพันธ์อื่น ๆ ได้ ซึ่งจากการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ และการออกสินค้าใหม่นี้ TFEX เชื่อว่า ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันน่าจะเติบโตมาอยู่ในระดับ 15,078 สัญญาต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็นเท่าตัวภายใน 3 ปี” นางเกศรากล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229 — 2048 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797