KIAT ยืนเหนือจองสำเร็จ สวนทางตลาดที่ปิดแดนลบ ชี้ นลท.เชื่อมั่นธุรกิจ-มองแนวโน้มการเติบโตสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 22, 2009 08:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--IR PLUS หุ้น KIAT เข้าตานักลงทุน ดันราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ ท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวน งานนี้ "เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์" ระบุเป็นผลเพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ จากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ธุรกิจยังมีทิศทางเติบโตได้ดี ขณะที่วงการโบรกเกอร์มองตรงกัน ยกให้ KIAT เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งสารเคมีอุตสาหกรรม เชื้อเพลิงพลังงาน และ Logistics พร้อมคาดกำไรปีนี้ เติบโตอย่างโดดเด่น และมีศักยภาพเติบโตได้อีกมากในอนาคต ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (21 ตุลาคม 2552) เป็นวันแรก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 5.10 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.60 บาท (ราคาจอง 4.50 บาท/หุ้น) และปิดตลาดที่ระดับ 4.62 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.12 บาท หรือ 2.66% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 292.30 ล้านบาท ท่ามกลางภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผันผวน โดยที่วันนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 716.35จุด ลดลง 9.25 จุด หรือ 1.27% นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) (KIAT) เปิดเผยว่ารู้สึกพอใจที่ในวันนี้หุ้น KIAT ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกสามารถยืนเหนือราคาจองได้ โดยคาดว่าเป็นผลมาจากนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและผลประกอบการมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจมีทิศทางเติบโตที่ดี ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับการลงทุนในอนาคต “คาดว่าที่ราคาหุ้นยืนเหนือจองในวันนี้เป็นผลมาจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัท โดยเฉพาะผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี ฐานะการเงินมีความแข็งแกร่ง ภาระหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้นักลงทุนมั่นใจ ในฐานะที่เป็นผู้บริหารหลังจากนี้เราจะทำงานให้หนักยิ่งขึ้นเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกท่านที่เข้ามาลงทุนให้การสนับสนุน KIAT โดยเรามีแผนเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากทุกท่าน” นายเกียรติชัย กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจของ บมจ.เกียรติธนาขนส่ง ยังขยายตัวได้อีกมาก จากแผนการขยายการให้บริการขนส่งทั้งภายในประเทศ และการขยายบริการไปในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและเป็นการเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ขยายตัวต่อไปในอนาคต “ผลประกอบการในปี 2552 คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 480 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ ยังมีการเข้าไปประมูลงานใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยไตรมาส 4/2552 บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าไปประมูลงานซึ่งเชื่อว่าจากการที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะส่งผลให้มีความได้เปรียบกับคู่แข่งในด้านชื่อเสียงซึ่งจะเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในด้านการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส รวมถึงบริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการเข้าไปดีลงานใหม่ด้วย”นายเกียรติชัยกล่าวในที่สุด นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.เกียรติธนาขนส่ง กล่าวว่า “แม้ว่าภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะมีความผันผวน แต่ หุ้น KIAT ยังได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีซึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจาก การที่บริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และนักลงทุนมองเห็นศักยภาพการเติบโตของกิจการต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายธุรกิจการให้บริการขนส่ง โดยขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ บมจ. เกียรติธนาขนส่ง โดยระบุว่าเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งสารเคมีและวัตถุดิบอุตสาหกรรมหลากประเภท รวมทั้งบริการจัดเก็บ/กระจายสินค้าและการบริหารงานขนส่ง จากการให้บริการมานานกว่า 10 ปี โดยมีความพร้อมของยานพาหนะเครือข่ายให้บริการปัจจุบันรวม 6 สาขา บุคลากรที่มีความชำนาญงาน มาตรฐานและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน โดยได้รับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 และ OHSAS 1800:2007 จาก URS นอกจากนั้น ยังมีรายได้ค่อนข้างมั่นคง จากการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินดีและมีความสัมพันธ์กันมานาน โดยในช่วง 1H52 รายได้จากลูกค้าหลัก 2 รายแรก รวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 53.5% ของรายได้ค่าบริการรวม ซึ่งลดลงจากปี 2551 ก่อนที่เป็นสัดส่วนรวม 69.5% หลังจากมีลูกค้า PTT เข้ามา เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้าน้อยราย มีการเติบโตของรายได้และกำไรต่อเนื่อง ในช่วงปี 2549-51 ยอดขายและกำไรเติบโตเฉลี่ย 12% และ 21% และใน 2Q52 กำไรเพิ่มมากถึง 120% Q-Q และ 9.2 เท่า Y-Y เป็น 42 ล้านบาท จากรายได้รวมที่โต 46% Q-Q และ 26% Y-Y และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) เพิ่มขึ้นมาก เป็น 56.0% จาก 2Q51 ที่ 21.9% จากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง และการควบคุมค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง พร้อมคาดกำไรปี 2552 โตก้าวกระโดด 215% Y-Y และมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากปลายปี 2552-53 มีแผนเข้าประมูลงานโครงการขนส่งก๊าซ NGV อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้านบาท ตามแผนขยายสถานีบริการของ PTT แผนขยายบริการขนส่งสารเคมีที่จังหวัดระยอง และขยายบริการจัดหาและขนส่งสารเคมีไปประเทศลาว ดังนั้นจึงประเมินราคาเป้าหมายปี 2552 ที่ 5.70 บาท อิง PE เป้าหมายที่ 9.0 เท่า ซึ่ง Discount จาก PE เฉลี่ยของบริษัทในตลาด MAI ที่ประมาณ 11 เท่า ที่ราคาเป้าหมายดังกล่าว จะคิดเป็น P/BV ที่ 2.4 เท่า ส่วน บล.โกลเบล็ก ได้ออกบทวิเคราะห์ บมจ.เกียรติธนาขนส่ง ระบุว่า KIAT ได้ขยายการให้บริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ โดยให้บริการขนส่งสินค้าและสารเคมีต่างๆ ไปประเทศลาว ส่วนการขยายการให้บริการภายในประเทศ จากศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในหมวดพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีการวางแผนที่ขยายการให้บริการขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงและพลังงานมากขึ้น โดยในปี 52-53 คาดว่าจะเข้าประมูลงานโครงการขนส่งก๊าซ NGV อีก 2 แห่ง ส่งผลให้ผลประกอบการในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สำหรับผลประกอบการรวมทั้งปี 52 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ราว 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY ดังนั้นเมื่อประเมินมูลค่าด้วยวิธี PER ระดับ 9 เท่า (ซึ่งยังมีส่วนลดเมื่อเทียบกับ PER ของ MAI ที่อยู่ที่ประมาณ 13 เท่า ส่วนกลุ่มขนส่งมี PER ติดลบ) และคาดกำไรต่อหุ้นในปี 52 ประมาณ 0.64 บาท จะได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 5.70 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ IR PLUS : คุณพันธนันท์ เมฆขาว (เอ๊าะ) โทร.02-554-9396 E-mail : phantanan@irplus.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ