ปภ. คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ภัยช่วงฤดูหนาวปี 2552-2553

ข่าวทั่วไป Wednesday November 4, 2009 16:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคาดการณ์แนวโน้มการเกิดสาธารณภัยของประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว(เดือนพฤศจิกายน 2552 — กุมภาพันธ์ 2553) พบจะเกิดสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่ภาคอื่นๆ โดยเฉพาะบริเวณนอกเขตชลประทาน ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศ ในขณะที่ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นพายุซัดฝั่งได้ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยดังกล่าว โดยติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างเคร่งครัด นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มการเกิดสาธารณภัยของประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว(เดือนพฤศจิกายน 2552 — กุมภาพันธ์ 2553)จากข้อมูลลักษณะอากาศของหน่วยงานต่างๆ พบว่า ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มมีอากาศหนาวเย็นก่อนภาคอื่นๆ ซึ่งในระยะแรกจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ส่งผลให้มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูอาจมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคอื่นๆจะมีอากาศหนาวเย็นในลำดับถัดไปซึ่งในช่วงที่ลมหนาวปกคลุมพื้นที่ต่างๆทำให้สภาพอากาศแห้ง อาจทำให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเริ่มจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน จากนั้นสถานการณ์จะรุนแรงขยายพื้นที่ไปยังภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตามลำดับ โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มีระบบการจัดการน้ำไม่ดี สถานการณ์ภัยแล้งจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศ ในขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักมากในบางพื้นที่ภาคใต้ตอนบนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 และภาคใต้ตอนล่างในช่วงเดือนธันวาคม 2552- มกราคม 2553 รวมทั้งมีโอกาสสูงที่พายุหมุนเขตร้อนจะเคลื่อนตัวผ่านฝั่งอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นพายุซัดฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายอนุชา กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวสภาพอากาศหนาวเย็นและลมแรง ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน สูบบุหรี่ เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ นอกจากนี้เกษตรกรควรสร้างสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำค้างแข็ง ส่วนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร รวมถึงวางแผนปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำเกษตร สำหรับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกต พบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของ ไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ นอกจากนี้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 เมตร และคลื่นซัดฝั่ง ขอให้เรือเล็กระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือใหญ่ให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากฝั่งทุกครั้ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งทะเล ให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด เพราะคลื่นลมจะซัดเข้าสู่ฝั่งอย่างรุนแรง สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ