วว. ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตน้ำยาเช็ดพื้นจากน้ำมันไพลสู่เชิงพาณิชย์ ลดนำเข้าสารเคมี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจไทย

ข่าวทั่วไป Thursday November 12, 2009 16:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--วว. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตน้ำยาเช็ดพื้นจากน้ำมันไพลสู่เชิงพาณิชย์ให้แก่ บริษัท ไนน์ บีบี พลัส จำกัด เพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ วันนี้ (12 พ.ย. 2552) นางอัญชลี กมลรัตนกุล รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ และ นายพลพฤทธิ์ รัตนภิญโญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนน์ บีบี พลัส จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง “การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำยาเช็ดพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมันไพล” สู่เชิงพาณิชย์ ณ ห้องประชุม กวท. ชั้น 8 วว. เทคโนธานี จังหวัดปทุมธานี รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าวชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์น้ำยาเช็ดพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมันไพล เป็นผลสำเร็จจากการดำเนินชุดโครงการบูรณาการไพลของฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อศึกษาการใช้ประโยชน์จาก “ไพล” อย่างครบวงจร สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ วว. ได้ศึกษาฤทธิ์การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ตามระเบียบการวิจัยสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทฆ่าเชื้อของน้ำมันไพล พบว่า มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ Staphylococcus aureus, Klebsiella pneumoniae, Pseudomonas aeruginosa, Salmonella spp. และ Shigella spp. ผ่านการพิสูจน์ผลทางจุลชีววิทยาและผ่านการทดสอบการระคายเคืองต่อผิวหนังตามมาตรฐาน OECD Guidelines for Testing of Chemicals (2001) จึงเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทำความสะอาดพื้นผิวได้ทุกชนิด เครื่องสุขภัณฑ์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านได้อย่างปลอดภัย “วว. ให้ความสนใจงานด้านสมุนไพรมากว่า 25 ปี โดยเฉพาะไพลนั้นเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยรู้ถึงคุณค่าในสรรพคุณมาแต่โบราณ และจากผลงานวิจัยและพัฒนาของ วว. พบว่า สารสกัดจากน้ำมันไพลมีคุณสมบัติยับยั้งและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคระบบทางเดินอาหารและระบบผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีคุณสมบัติเดียวกันจึงสามารถนำไปใช้ทดแทนสารเคมี ซึ่งมีราคาแพงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีของ วว. ในครั้งนี้ จะช่วยสร้างรายได้และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ลดการนำเข้า อันเป็นการสร้างสมดุลทางการค้าได้อีกวิธีหนึ่ง” นางอัญชลี กมลรัตนกุล กล่าว นายพลพฤทธิ์ รัตนภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนน์ บีบี พลัส จำกัด กล่าวชี้แจงว่า บริษัทจะผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำยาเช็ดพื้นที่ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก วว. ประมาณปี 2554 ทั้งนี้จะนำร่องจำหน่ายภายในประเทศผ่านทางโมเดิร์นเทรด และจะขยายไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคต โดยจะต้องขอคำแนะนำปรึกษาจาก วว. เนื่องจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ภายใต้กรอบการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตดังกล่าว วว. จะให้คำแนะนำกระบวนการผลิต ฝึกอบรม ตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้แก่บริษัท ไนน์ บีบี พลัส จำกัด ทั้งนี้ในการผลิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์จะต้องระบุข้อความและเครื่องหมายของ “วว.” ไว้บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ด้วย อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการใช้ผลิตภัณฑ์จากฝีมือการวิจัยและพัฒนาของนักวิจัยไทย นอกจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาเช็ดพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมันไพลแล้ว ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ยังได้พัฒนาผลงานวิจัยอื่นๆ จากไพลที่จะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ อาทิ ยาชะล้างแผล ยารักษาแผลในช่องปาก ผลิตภัณฑ์แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ผลิตภัณฑ์สำหรับสตรีหลังคลอด เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากไพลได้อย่างครบวงจร ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทย และยังเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย ผู้ประกอบการที่สนใจผลงานวิจัยและพัฒนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว.โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันและเวลาราชการ หรือที่ E-mail : tistr@tistr.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ