กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--บลจ. แอสเซท พลัส
บลจ. แอสเซท พลัส มองช่วงตลาดหุ้นไทยปรับฐาน เปิดขาย IPO กองทุน Smart Series ต่ออีก 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน — 3 ธันวาคม 2552 ระยะเวลาการลงทุน 2 ปี จ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า จากความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและปัญหาทางด้านการลงทุนในส่วนของมาบตาพุตที่ยังไม่คืบหน้าในช่วงนี้ ประกอบกับการที่ดัชนีมีการปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากตลอดในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลง โดยน่าจะมีโอกาสปรับฐานมาเคลื่อนไหวที่กรอบ 640-670 จุด ในระยะสั้น ๆนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพการลงทุนระยะยาว หากเรื่องรบกวนต่างๆมีความชัดเจน หรือ มีแนวโน้มที่จะคลี่คลายขึ้น ดัชนีคตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะมีโอกาสปรับขึ้นต่อในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 จึงเห็นว่าเป็นจังหวะเหมาะสำหรับการเข้าลงทุนของผู้ลงทุนระยะยาวในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเมื่อตลาดมีการปรับตัวลง ทั้งนี้ แม้ภาวะตลาดหุ้นมีปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น แต่หากพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และ แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนจะเห็นได้ว่า ตัวเลขสัญญาณทางเศรษฐกิจล่าสุดยังบ่งชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) ยังอยู่ในระดับต่ำ จากการคงระดับอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ซึ่งจะยังคงสนับสนุนให้มีสภาพคล่องทางการเงินสูง แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่จะฟื้นตัวในปี 2553 และผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายด้านการคลังของรัฐบาลที่มีจะมีผลอย่างเป็นรูปธรรมในปีหน้า และจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องไปตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2553 น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์น่ามีโอกาสปรับขึ้นได้ในช่วงต่อไป โดยมองว่าปีหน้าตลาดหุ้นน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ถึงระดับ 750-820 จุด
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่คาดว่าภาวะตลาดจะมีการปรับฐาน บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ซึ่งเป็นกองทุนที่กำหนดเป้าหมายในการทยอยทำกำไรในระหว่างการลงทุน โดยจะเสนอขายครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน — 3 ธันวาคม 2552
“เป้าหมายในการลงทุนของกองทุน ASP-SMART3 ยังคงเหมือนกับกองทุน Smart Series ก่อนหน้านี้ คือ ต้องการมุ่งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยกำหนดเป้าหมายการทยอยทำกำไรด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท นั่นคือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่านจุดที่กำหนด 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท, 12.00 บาท... กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต้องพะวงกับการแกว่งตัวผันผวนของภาวะตลาด”ดร.วินกล่าว
ดร.วินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน ASP-SMART3 มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี เงินลงทุนของท่าน
- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 4 เมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมนี้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุน และผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้
- ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลา ที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจและควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัยให้สอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน
กองทุนมีนโยบายการลงทุนแบบผสม โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ 0 — 100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
“สำหรับ ASP-SMART3 คาดว่า ในช่วงแรกของการลงทุน กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังจากที่ราคาได้ปรับฐานลงมาจนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเมื่อปัญหาที่กดดันตลาดอยู่มีแนวโน้มคลี่คลายลง รวมถึง หุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐระยะที่ 2 (SP2) ได้แก่ หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น”
ในด้านความคืบหน้าของ 2 กองทุน SMART ที่ผ่านมา กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) ซึ่งจัดตั้งกองทุนในวันที่ 10 เมษายน 52 มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 5 บาทต่อหน่วยลงทุน ปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 53% และลงทุนในตราสารหนี้และเงินสด 47%
ส่วนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) ซึ่งจัดตั้งวันที่ 9 ตุลาคม ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 80% และเงินสด 20% โดยปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างการทยอยลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมเมื่อจังหวะตลาดปรับฐาน ทั้งนี้ หุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หุ้นที่ได้รับประโยชน์ด้านการปรับขึ้นของราคาจากการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition)
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308
อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th