งานเวทีสิทธิเด็กครั้งที่ ๒๐ "๒๐ ปีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก สังคมไทยได้อะไร"

ข่าวทั่วไป Thursday November 19, 2009 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการ งานเวทีสิทธิเด็กครั้งที่ ๒๐ ความเป็นมา เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีมติเห็นชอบอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่กำหนดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กทุกคนโดยรัฐต้องเคารพและประกันให้เด็กทุกคนได้รับสิทธิ โดยไม่เลือกปฏิบัติและการกระทำที่เกี่ยวกับเด็กไม่ว่าจะกระทำโดยสถาบันใดหรือหน่วยงานใด ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นอันดับแรก สิทธิของเด็กประกอบด้วย ๔ ด้าน คือ ๑.การอยู่รอด ๒.การพัฒนา ๓. การปกป้องคุ้มครอง และ ๔. การมีส่วนร่วม เนื่องจากสถานการณ์และปัญหาการละเมิดเด็ก เป็นปัญหาระดับโลกที่มีสาเหตุฝังรากลึกมาจากวัฒนธรรม เศรษฐกิจ ดังนั้นประเทศไทยจึงกำหนดจัดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ ๒๐ ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ ร่วมกับ คณะทำงานด้านเด็กมีสมาชิกจำนวน ๑๙ องค์กร เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และแกนนำเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ โดยส่งเสริมความรู้และความเข้าใจ และความตระหนักในเรื่องสิทธิเด็กและการละเมิดเด็ก เพื่อร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ต่อปัญหาการละเมิดเด็กอันนำไปสู่การแสวงหาแนวทางการดำเนินงานและการป้องกันการแก้ไขปัญหา และได้รายงานเรื่องสิทธิเด็ก ฉบับเด็กเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติต่อไป โดยกระจายการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการจัดงานเวทีสิทธิเด็กอย่างทั่วถึง วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เป็นประธานเปิดงานและร่วมแลกเปลี่ยน กลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนจำนวน ๗๖ จังหวัด รวม ๒๐๐ คนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 100 คน รวมทั้งสิ้น 300 คน โดยได้มีการจัดประชุมแบ่งกลุ่มแต่ละประเด็นทั้ง 4 ด้าน พร้อมกับได้จัดงานวิชาการ 3 เรื่อง ได้แก่ ประเด็นสวัสดิการเด็กและครอบครัว เวทีพลังเยาวชน(จิตอาสา) เวทีการถอนข้อสงวนข้อ 7 ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ในงานท่านนายกรัฐมนตรี ได้รับการพิจารณา เป็น “ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก สาขานักการเมือง ประจำปี 2552 ” และเป็นประธานมอบรางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็กแห่งปี ๒๕๕๒ ซึ่งมีจำนวน ทั้งสิ้น 14 ท่าน แยกเป็นสาขานักการเมือง สาขาศาสนา สาขาข้าราชการ สาขาสื่อ สาขาองค์กรพัฒนาเอกชน สาขาประชาสังคม และสาขาภาคธุรกิจ พร้อมมอบพันธะสัญญาแก่คณะผู้แทนเด็กและเยาวชนและร่วมกันผลักดันแนวคิดจากเวทีสิทธิเด็กให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ