กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ จะถือว่าเป็นโปรเจ็คแรกที่เข้าไปถ่ายทำกันในทะเลทรายโกบี ทีมงานสร้างของ The Treasure Hunter ก็ยังได้เนรมิตสุสานจักรพรรดิขึ้นมาที่สตูดิโอในเมืองอู๋ซี ประเทศจีน ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ฉากใหญ่ ระยะเวลาในการสร้างกว่า 2 เดือน ด้วยทีมงานสร้างมากกว่า 100 คน และมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท
ซึ่งทั้งหมดควมคุมงานสร้างโดย ซีจ้งเหวิน ผู้ออกแบบงานสร้างชั้นครู ที่เคยสร้างสรรค์ความอลังการให้กับภาพยนตร์มหากาพย์นับมาแล้วไม่ถ้วน เช่น Curse of The Golden Flower ที่ทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และ Perhaps Love หนังเพลงเรื่องแรกในรอบหลายทศวรรษของประเทศจีน รวมถึง Confucius หนังประวัติชีวิตของ ขงจื๊อ ที่รับบทโดย โจวเหวินฟะ ซึ่งมีกำหนดฉายปี 2010
ฉากแรกถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่จุดหมายปลายทาง นั้นก็คือ "ทางเดินสู่สุสานจักรพรรดิ" โดยจะเผยให้เห็นถึงลวดลายคำทำนายบนกำแพง ที่เล่าชะตากรรมของผู้รุกล้ำเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ซีจ้งเหวิน พูดถึงแนวทางการสร้างว่า "ผมต้องการสร้างความรู้สึกที่แตกต่าง ระหว่างความกว้างใหญ่ไพศาลของทะเลทราย และความกดดันภายในโบราณสถาน พวกเราต้องการสื่อให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของความอันตรายที่จะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยทีมงานต่างก็ใช้ฝีมืออย่างเต็มที่ ในการวาดจิตรกรรมฝาผนังที่ให้ความรู้สึกสมจริงที่สุด"
เมื่อกลุ่มพระเอกเดินทางมาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "ห้องกับดักของสุสานจักรพรรดิ" โดยปรากฏให้เห็นฟันเฟืองขนาดใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ และกำแพงที่ถูกก่อขึ้นด้วยหัวกระโหลกมนุษย์ โดย หลินจื้อหลิง ผู้รับบทเป็น หลานถิง นางเอกของเรื่องได้เล่าถึงเหตุการณ์ในฉากนี้ว่า "ฉันคิดว่าแค่สภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนี้ ก็น่าจะทำให้คนดูรู้สึกขนลุกและตื่นเต้นแล้ว แต่เมื่อตัวละครของฉันได้พลาดพลั้งเดินเข้าไปในกับดัก ทำให้ฟันเฟืองเริ่มทำงานอีกครั้ง ทั้งห้องสั่นสะเทือนและฝุ่นหนาก็ฟุ้งลอยตัวขึ้น ทันใดนั้นหัวกระโหลกที่ฝังอยู่ในกำแพงก็เริ่มปล่อยใบมีดออกมา"
เมื่อกลุ่มพระเอกรอดจากกับดักสุดอันตรายแล้ว พวกเขาก็เดินทางมาถึงหน้าประตูหินที่ถูกเปิดขึ้น และเผยให้เห็นจุดหมายปลายทาง "สุสานจักรพรรดิแห่งชะตาลิขิต" มีมีรูปปั้นเทพเจ้า 4 ตนยืนตระหง่านอยู่รอบกำแพง 4 ด้าน และตรงกลางห้องนั้นก็แสดงให้เห็นถึงแสงสว่างสีทองที่ส่องประกายอยู่เหนือหลุมศพ เจย์ โชว์ ผู้รับบทเป็น เฉี่ยวเฟย พระเอกของเรื่องได้เล่าถึงฉากนี้ว่า "แต่ก่อนที่พวกเราจะได้ทำอะไร ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตปริศนาทั้ง 4 ก็ออกมาจากรูปปั้น และโจมตีผู้บุกรุกทุกคน โดยส่วนตัวแล้วผมชื่นชอบฉากนี้มาก การได้ยืนอยู่ต่อหน้าประตูหินที่ถูกเปิด พบกับเทพเจ้า 4 องค์ รวมถึงหลุมศพที่ทอแสงประกายสีทองออกมา นี้คือส่วนที่ตื่นเต้นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นสถานที่ซึ่งทุกอย่างจะคลี่คลาย"