กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพต้อนรับคณะเยาวชนโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ จาก 11 ประเทศ พร้อมทีมงาน จำนวน 330 คน ที่แวะเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน — 4 ธันวาคม 2552 เน้นคณะเยาวชนฯ ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย ผ่านกิจกรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวชาวไทยที่ร่วมให้การต้อนรับในฐานครอบครัวเจ้าภาพ
นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบดำเนินงานโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเป็นโครงการตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชียอาคเนย์ 5 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2517 ต่อมาในปี 2527 และปี 2538 ประเทศบรูไนดารุสซาลาม และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกตามลำดับ และในปี 2540 ประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพพม่า ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเช่นกัน ซึ่งแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทย ได้ส่งเยาวชนเข้าร่วมโครงการประเทศละ 28 คน หัวหน้าคณะ ประเทศละ 1 คน และคณะผู้บริหารเรือ รวมทั้งสิ้น 330 คน ร่วมเดินทางไปกับเรือ FUJI MARU โดยเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่น และแวะเยือนประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม — 18 ธันวาคม 2552 รวม 53 วัน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งบนเรือ และในประเทศที่แวะเยือน อาทิ การกีฬา นันทนาการ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ตลอดจนการทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญของประเทศต่าง ๆ
นางนวลพรรณ กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เตรียมการต้อนรับในช่วงที่คณะเยาวชนฯ มาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน — 4 ธันวาคม 2552 กระทรวงได้กำหนดจัดให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ การเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี การเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครและบำเพ็ญประโยชน์ตามหน่วยงานด้านสวัสดิการสังคมในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และการเข้าร่วมกิจกรรมกับครอบครัวเจ้าภาพ เป็นต้น
“โครงการนี้ จะเป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมมิตรภาพ ความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนญี่ปุ่นกับเยาวชนในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม รวมทั้งการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระดับเยาวชน นอกจากนี้ยังเป็นการเผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของแต่ละประเทศ และเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานเป็นกลุ่มให้กับเยาวชน เพื่อนำความรู้ไปใช้ประโยชน์แก่ประเทศชาติของตนในอนาคต” นางนวลพรรณ กล่าว