รถเด่นในงาน "MOTOR EXPO 2009"

ข่าวยานยนต์ Tuesday December 1, 2009 14:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--สื่อสากล AUDI (B01) เอาดี (AUDI) แนะนำตัวลุยรุ่นล่า “คิว 5” (Q5) ขนาดย่อมลงมาจากรุ่นพี่ คิว 7 (Q7) ขุมกำลังแบบเบนซิน 4 สูบแถวเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ฉีดเชื้อเพลิงตรง พ่วงเทอร์โบและระบบวาล์วแปรผัน ขนาด 2.0 ลิตร (2.0 TSFI) ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ด้วยระบบกวัตตโร (QUATTRO) อันลือชื่อของ เอาดี ซึ่งในยามปกติ ระบบจะส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า/หลังในอัตราส่วน 40:60 แต่ในกรณีจำเป็นสามารถส่งกำลังไปล้อคู่หน้าได้สูงสุด 65 % และล้อคู่หลังสูงสุด 85 % ให้การยึดเกาะถนนที่มั่นใจในสภาวะการขับขี่ต่างๆ แม้จะเป็นรถยนต์ระดับหรู แต่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งยังมีระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) ส่วนสมรรถนะการลุยทำได้พอหอมปากหอมคอ มุมไต่ 31 องศา มุมปะทะด้านหน้า 25 องศา มุมคร่อมระหว่างฐานล้อ 17.5 องศา ระยะห่างสูงสุดระหว่างใต้ท้องรถกับพื้นผิวถนน 20 ซม. BMW (A15) ซีรีส์ 7 ใหม่ หรือ เอฟ 02 (F02) นั้น มีความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 80 มม. จากรุ่น อี 66 (E66) แต่มีรูปร่างลู่ลม ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.29 ภายในสะดวกสบาย ไอดไรฟหน้า/หลัง มาพร้อมกับระบบนำทาง ซึ่งทำงานอยู่บนระบบฮาร์ดดิสค์ ขนาด 80 กิกกะไบท์ และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสาร มีทั้งทีวี และดีวีดี ผ่านจอมอนิเตอร์ 1 จอ ขนาด 10.2 นิ้ว ในด้านหน้า และ 2 จอ ขนาด 9.2 นิ้ว 740 แอลไอ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบอัดอากาศแบบ เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุดถึง 326 แรงม้า 730 แอลดี บรรจุเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบแบบแปรผัน และหัวฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูง สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 55.1 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน. CHERY (B04) เชอรี คิวคิว (CHERY QQ) เป็นรถครอบครัว 5 ประตู แฮทช์แบค ขนาดกะทัดรัด ดีไซจ์นเฉพาะตัว รูปทรงโค้งมน และตากลมโต คล้ายตัวการ์ตูน โคมไฟหน้าทรงกลม ไฟเลี้ยวมุมกันชนขนาดใหญ่ มีไฟตัดหมอก หน้า/หลัง กระจกมองข้างแบบก้านยกสไตล์สปอร์ท ทันสมัย ปรับระดับด้วยไฟฟ้า ล้อแมกลาย 5 ก้าน และยางขนาด 165/55 R14 ด้านท้ายเสริมด้วยชุดปัดน้ำฝน และไฟเบรคดวงที่ 3 เครื่องยนต์เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ แบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1.1 ลิตร 68 แรงม้า รหัส SQR472 F จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีดมัลทิพอยท์ ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์ ประหยัดน้ำมันถึง 19 กม./ลิตร (ตัวเลขจากผู้ผลิต ที่ความเร็ว 90 กม./ชม.) และสามารถใช้น้ำมันแกสโซฮอล อี 20 ได้ ราคา 379,500 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา สำหรับ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ตั้งราคาไว้ที่ 422,500 บาท CHEVROLET (A02) เชฟโรเลต์ เป็นค่ายที่ปรับตัวมาใช้ ซีเอนจี หนีน้ำมันแพง รถที่นำมาโชว์จึงมีทั้ง ออพทรา ซีเอนจี (OPTRA) ทั้งรุ่น 4 ประตู ซีดาน และ 5 ประตู เอสเตท โคโลราโด ซีเอนจี (COLORADO) พิคอัพ เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงผสมแบบ ดูอัลฟิวเอล (DUAL FUEL) โดยใช้น้ำมันดีเซล ร่วมกับ ซีเอนจี ในสัดส่วน ร้อยละ 35 และ 65 ตามลำดับ ขณะเดียวกันยังสามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซลทั้ง บี 2 และ บี 5 ได้ ส่วน เอสยูวี ตัวเด่นยังคงเป็น แคพทีวา (CAPTIVA) ที่มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 136 แรงม้า และดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า CITROEN (B08) ซีตรอง มีจุดขายที่ เซ ซิซ (CITROEN C6) ซีดานสุดหรูจากฝรั่งเศส ที่ออกแบบมาอย่างประณีต รูปลักษณ์สง่างาม บานประตูไร้โครงหน้าต่าง ส่วนท้ายลาดเทตามหลักอากาศพลศาสตร์ และล้อขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารหรูหรา ด้วยโครเมียม และลายไม้แท้ ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัย เช่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ด้วยภาพเสมือนจริง ระบบนำทาง จีพีเอส และโทรศัพท์ไร้สาย รวมทั้งที่นั่งด้านหลังปรับแยกอิสระด้วยระบบไฟฟ้า ในรุ่น เอกเซคิวทีฟ เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง เบนซิน วี 6 สูบ 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 215 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และดีเซล เอชดีไอ (HDI) แบบวี 6 สูบ ขนาด 2.7 ลิตร 208 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 10.1 วินาที และความเร็วปลายถึง 205 กม./ชม. DFM (B02) ดีเอฟเอม ค่ายรถจากจีนเริ่มรุกตลาด นำ "มีนีทรัค” กระบะหัวตัด 2 ประตู "มีนี สตาร์" กระบะหัวตัด 4 ประตู "มีนี เอมพีวี" รถตู้เล็กโดยสาร 7 ที่นั่ง และ "มีนี แวน" ตู้ทึบสำหรับขนของ มาแสดง โดยทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2 ระบบ คือ เบนซิน และ ซีเอนจี ติดตั้งจากโรงงานผู้ผลิต ดีเอฟเอม สามารถ บรรทุกน้ำหนักได้มากกว่า 800 กก. ใช้ชอคอับวางไขว้ ทำงานร่วมกับแหนบแผ่นซ้อน กระทะล้อขนาด 14 นิ้ว พร้อมยางขนาด 165/70 R14 ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบหัวฉีดอีเลคทรอนิค ขนาด 1.3 ลิตร 82 แรงม้า และ ขนาด 1.1 ลิตร 52 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา แบบ 5 จังหวะ FIAT (B06) เฟียต นำ 500 ใหม่ รถคลาสสิคที่ผสานความเก่า/ใหม่ อย่างมีสไตล์ โดยทีมออกแบบมืออาชีพจากศูนย์ออกแบบในประเทศอิตาลี รูปลักษณ์ภายนอกกะทัดรัดแบบแฮทช์แบค 3 ประตู ทรงเดียวกับ เฟียต 500 รุ่นเดิม ฝากระโปรงหน้าลาดเทรับกับกันชน โคมไฟทรงวงรี เสริมหรูด้วยขอบโครเมียม ห้องโดยสารสไตล์คลาสสิค ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ออกแบบเส้นสายภายในให้โค้งมน และประณีต พวงมาลัยแบบ มัลทิฟังค์ชัน มีสวิทช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ มากมาย มาตรวัดทรงกลมขนาดใหญ่ กุญแจรีโมท พร้อมระบบกันขโมย ออกแบบรับกับตัวรถ มีอุปกรณ์เชื่อมต่อ ไอพอด และอุปกรณ์เสริม บลูทูธ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลัง 100 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ประหยัดน้ำมัน และเหมาะสมกับ ไลฟ์สไตล์ ชีวิตในเมือง FORD (B11) โฟคัส ใหม่ โดยเน้นแนวเส้นบนฝากระโปรง ที่หนักแน่น กันชน และช่องดักลมรูปสี่เหลี่ยมคางหมู กว้างกว่ารุ่นเดิม โคมไฟหน้าใหม่เรียวยาว โฉบเฉี่ยว โค้งเข้ารูปกับบังโคลนข้าง และกันชน สำหรับรุ่น 4 ประตู กีอา ฟอร์ด เพิ่มความหรูหราด้วยขอบโครเมียมที่ช่องดักลม และไฟตัดหมอก และโคมไฟหน้าสีดำในรุ่น สปอร์ท โฟคัส ยังคงมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ 4 ประตู ซีดาน และ 5 ประตู แฮทช์แบค แบ่งเป็น 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น แอมเบียนท์ (AMBIENTE) เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 125 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ในรุ่น ฟีเนสส์ (FINESS) เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 146 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และซีดานในรุ่นทอพ กีอา (GHIA) ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร "ทีดีซีไอ" 136 แรงม้า เหมือนกับรุ่น เอส หรือรุ่นสปอร์ท (S: SPORT) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการขับ ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เพาเวอร์ชิฟท์ (POWER SHIFT) แทนเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ GRAND CARRYBOY (B07) แกรนด์ แครี่บอย ฯ ยังคงเน้นรถพิคอัพแต่งสำเร็จ ทั้ง สมาร์ท แวกอน (SMART WAGON) ฝาท้ายชิ้นเดียว ที่เปลี่ยนรถ กระบะ มีแคบ (CAB) และ 4 ประตู (DOUBLE CAB) เป็นรถตรวจการณ์ 9 ที่นั่ง เพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยชุดตกแต่งภายนอก และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายใน เช่น ระบบปรับอากาศ และชุดลำโพง แต่ที่น่าสนใจเป็นรถที่ตกแต่งมาสำหรับการค้าขาย หลายรูปแบบ โดยครั้งนี้มีรถกระบะทุกยี่ห้อ รุ่นล่าสุดมาโชว์ เช่น โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก ใหม่ และ อีซูซุ ดี-แมกซ์ พแลทินัม ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ HONDA (A13) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉมหน้า ฟรีด (FREED) ที่ย่อมาจากคำว่า ฟรีดอม (FREEDOM) เอมพีวี ขนาดเล็ก ดีไซจ์นเท่ กว้างสบาย ด้วยห้องโดยสารสูงโปร่ง ที่มาแทน โมบิลีโอ (MOBILIO) พร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และเครื่องยนต์ ไอ-วีเทค 1.5 ลิตร 118 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ นอกจากนี้ ยังมี ซีวิค (CIVIC) โฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับหน้าตา เปลี่ยนกันชนหน้า/หลัง และโคมไฟหน้า/หลังใหม่ เอาใจตลาด โดยเน้นสไตล์แปดเหลี่ยม และซิที (CITY) ซีดาน ขนาด ซับ คอมแพคท์ เจเนอเรชันที่ 3 ที่ใช้ พแลทฟอร์ม เดียวกับ แจซซ์ แต่มีความเป็นตัวเองมากกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และการตกแต่งภายในที่ล้ำยุค เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ไอ-วีเทค (I-VTEC) ขนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า และ เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ HYUNDAI (A05) ค่ายนี้นำขบวนโดย คูเป (COUPE) รถ 2 ประตู 2+2 ที่นั่ง และ โซนาตา (SONATA) ซีดาน ที่หันมาคบกับ ซีเอนจี" เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 143 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า เอสยูวี 7 ที่นั่ง คันหรู ซันตา เฟ (SANTA FE) ขุมพลัง ดีเซล คอมมอนเรล 2.2 ลิตร 150 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 34.2 กก.-ม. ที่ 1,800-2,500 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ปิดท้ายด้วย เอช-1 มาเอสโต (H-1 MAESTO) เอมพีวี 12 ที่นั่ง รุ่นล่าสุด ได้รับการตกแต่งให้หรูขึ้น เน้นการขับขี่ สะดวกสบาย ภายในกว้างขวาง เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ความจุ 2.5 ลิตร 174 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. แรงบิดสูงสุด 39.9 กก.-ม. ที่ 2,000-2,5000 รตน. ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ระบบรองรับแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ISUZU (A03) อีซูซุ ปรับโฉมกระบะ ดี-แมกซ์ อีกครั้งเป็น ซูเพอร์ แพลททินัม รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคมเข้มกว่าเดิม กระจังหน้าชุบโครเมียม ด้านล่างกันชนหน้าติดกรอบรูปทรงตัว H ล้อแมกใหม่ลายก้านคู่ บันไดข้างชุบโครเมียม สำหรับรุ่น วีจีเอส เทอร์โบ ตรงสคูบดักอากาศบนฝากระโปรงจะเพิ่มขอบชุบโครเมียม คอนโซลหน้าตกแต่งแบบเน้นสีดำตัดกับสีโครเมียม ติดตั้งเครื่องเสียงทันสมัยบแรนด์ดัง เคนวูด (KENWOOD) รองรับแผ่นดีวีดี แสดงผลการทำงานบนจอภาพขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบสัมผัส ทำงานร่วมกับระบบนำร่องเส้นทางด้วยจีพีเอส ที่ทาง อีซูซุ ตั้งชื่อให้ฟังดูเก๋ไก๋ว่า “ไอ-จีนี” (I-GENII) เครื่องยนต์ 2 แบบแรก ดีเซล เทอร์โบแปรผัน วีจีเอส อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 36.7 กก.-ม. แบบสองเครื่องดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 28.6 กก.-ม. เลือกส่งกำลังได้กับ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะ KIA (B01) มอร์นิง (MORNING) หรือ ปิกันโต (PICANTO) โฉมใหม่ รถเล็กตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค มิติ 3,535/1,595/1,480 มม. เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟ์ท 12 วาล์ว ความจุ 1.1 ลิตร จ่ายน้ำมัน เชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดมัลติพอยต์ ควบคุมด้วย อิเล็กทรอนิกส์ มีกำลังสูงสุด 65 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะ อีกหนึ่ง คือ แกรนด์ คาร์นิวัล (GRAND CARNIVAL) รถอเนกประสงค์ ซึ่งออกแบบโดยทีมงาน เกีย มอเตอร์ส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 2.9 ลิตร 185 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 12.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 197 กม./ชม. ทั้งยังพากระบะหัวตัดรุ่นใหม่อย่าง เค 2900 มาด้วย LAND ROVER (S02) ค่าย เอสยูวี หรูเมืองผู้ดี นำรถขนาดเล็กรุ่นใหม่ ฟรีแลนเดอร์ 2 (FREELANDER 2) และรุ่นพื้นฐาน ดีเฟนเดอร์ 2 (DEFENDER 2) ช่วงสั้น มาในงาน ฟรีแลนเดอร์ 2 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ TERRAIN RESPONSE ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เลือกใช้งานง่าย ผ่านสวิทช์หมุน ที่เลือกได้ทั้งแบบ ทางเรียบ ผิวลื่น ร่องลึก พื้นทราย และก้อนหินขนาดใหญ่ รวมทั้งควบคุมความเร็วขณะลงเขา เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง เรนจ์ โรเวอร์ (RANGE ROVER) และ ดิสคัฟเวอรี 3 (DISCOVERY 3) เครื่องยนต์มีทั้ง เบนซินแบบ 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว ความจุ 3.2 ลิตร 232 แรงม้า ที่ 6,300 รตน. และดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร 158 แรงม้า กับระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ MAZDA (A12) มาซดา 2 แฮทช์แบค 5 ประตู ขนาดซับคอมแพคท์ ที่รอกันมานาน จาก มาซดา บุคลิกสปอร์ท ซูม ซูม รูปทรงโฉบเฉี่ยว ดุดันด้วยสันเหลี่ยมบริเวณซุ้มล้อหน้า ต่อเนื่องถึงไฟหน้าทรงเรียว สันเหลี่ยมด้านข้างตัดโค้งขึ้น ขนานคู่กับเส้นสายกลางลำตัวพาดเฉียงยาวจรดถึงชุดไฟท้าย เครื่องยนต์ เบนซิน รหัส MZR ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 103 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะให้เลือก พิคอัพ "บีที-50" (BT-50) โฉมใหม่ ปรับรูปลักษณ์ภายนอก ทันสมัยยิ่งขึ้น ห้องโดยสารกว้างสะดวกสบายสไตล์เก๋ง ขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 และ 2.5 ลิตร คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ MINI (S04) มีนี ในรูปแบบ เอสเตท "มีนี คลับแมน" (MINI CLUBMAN) รถ 5 ประตู ที่ได้นำเอาประตูหลังบานคู่ สปลิท ดอร์ (SPLIT DOOR) ที่เปิดแบบบานคู่มาใช้ เพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสัมภาระ และออกแบบบานเปิดรวมกับประตูด้านขวา ที่เรียกว่า คลับ ดอร์ (CLUB DOOR) เพื่อความสะดวกในการเข้า/ออกของผู้โดยสารตอนหลัง ฐานล้อและตัวรถที่ความยาวกว่า มีนี รุ่นมาตรฐาน. ทำให้ คลับแมน มีพื้นที่เก็บสัมภาระ ด้านท้ายขนาดใหญ่ มีความจุสูงสุดถึง 930 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง คลับแมน ที่นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา มีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.6 ลิตร วาล์วทรอนิค 120 แรงม้า ในรุ่น คูเพอร์ คลับแมน และ 1.6 ลิตร ระบบฉีดน้ำมันด้วยความดันสูงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ (GDI: GASOLINE DIRECTION INJECTION) เทอร์โบชาร์จ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลัง 175 แรงม้า ในรุ่น คูเพอร์ เอส คลับแมน และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย MITSUBISHI (A06) มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ใหม่ ภายใต้ชื่อ “แลนเซอร์ อีเอกซ์” สปอร์ทซีดาน ขนาดคอมแพคท์ รูปทรงปราดเปรียว ที่หลายคนรอคอย ยังคงดึงดูดสายตาผู้เข้าชมงาน ด้วยหน้าตาคมเข้ม ไฟหน้าแบบ ไบ-ซีนอน ทรงเหลี่ยมเฉียง มีระบบเพิ่มความ ส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง AFS (ADAPTIVE FRONT-LIGHTING SYSTEM) เครื่องยนต์ทางเลือก 2 ขนาด แบบแรกเป็น เบนซิน 1.8 ลิตร 139 แรงม้า รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแกสโซฮอล อี 85 และรุ่นทอพ กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลังถึง 154 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง ซีวีที อินเวคส์—ธรี (INVECS— III) 6 จังหวะ เปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้นแพดเดิล ชิฟท์ หลังพวงมาลัย ตกแต่งภายนอกด้วยสเกิร์ทรอบคันกับสปอยเลอร์หลัง ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น 2.0 จีที MITSUOKA (B01) มิตซูโอกะ เป็นรถยนต์นั่งหน้าตาคลาสสิคของ MITSUOKA MOTOR COMPANY ผู้ผลิตรถยนต์รายย่อย ประกอบด้วยมือ จากเมืองโตยะมะ (TOYAMA) ประเทศญี่ปุ่น ผลิตรถ 4 แบบ ได้แก่ วิวท์ (VIEWT) โนอูเอระ (NOUERA) 2 รุ่น ที่เหลือ คือ ที่นำมาแสดงในงาน ได้แก่ กาลูเอะ (GALUE) รถ 4 ประตู ซีดาน เครื่องยนต์ วี 6 สูบ 2.5 ลิตร 210 แรงม้า และ 3.5 ลิตร 280 แรงม้า กับ โอโรชิ (OROCHI) รถสปอร์ทประตูปีกนก MTM (S01) MTM-THAILAND ตัวแทนสำนักแต่ง MTM (MOTOREN TECHNIK MAYER) ประเทศเยอรมนี นำเอา อาร์ 8 (R8) รุ่นมาตรฐานเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.2 ลิตรมาทำการอัพเกรดโดยมีการเพิ่มคอมเพรสเซอร์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งช่วยเพิ่มกำลังจาก 420 แรงม้ากระโดดไปเป็น 560 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 34% จาก 430 ไปเป็น 580 นิวตัน-เมตร ชุดแต่งทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รอบคันตั้งแต่ สปอยเลอร์หน้า ธรณีประตูด้านข้าง ไปถึงแผงดักลมหลัง ล้อแมกสีดำหล่อเข้มขอบ 20 นิ้ว การปรับแต่งอื่นๆก็เช่น ระบบไอเสียที่มีระบบควบคุมวาล์ว ท่อไอเสียเคลือบเซรามิกสีดำ 4 ท่อ สปริงแชสซีส์ปรับความสูงได้สำหรับระบบ MAGNETIC RIDE และ DAMPER อนุกรมที่สามารถยกเพลงหน้า-หลังขึ้นไปได้ 40 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังนำ เอมทีเอม เอาดี อาร์เอส 4 4.2 เอฟเอสไอ กวัตตโร (MTM AUDI RS4 4.2 FSI QUATTRO) 420 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.8 วินาที NISSAN (A11) บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แต่งหน้าทาปาก ทิอิดา และทิอิดา ลาทิโอ ด้วยกระจังหน้าที่มีขอบโครเมียมหนาขึ้น และครีบแนวตั้ง สำหรับชุดไฟหน้าของ ทิอิดา เป็นสีเทาเข้ม เน้นความสปอร์ท ขณะที่ ลาทิโอ เป็นสีเทาอ่อน เน้นความหรูหรา เพิ่มสันเหลี่ยมอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังออกแบบกรอบไฟตัดหมอกให้สะดุดตายิ่งขึ้น เครื่องยนต์มี 2 ทางเลือก คือ 1.6 ลิตร 109 แรงม้า แรงบิด 15.6 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. และ 1.8 ลิตร 126 แรงม้า แรงบิด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. ทีมีให้เลือกกับ ทิอิดา ตัวถังแฮทช์แบคเท่านั้น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนรุ่น ลาทิโอ ยังมีเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ส่วนพิคอัพมี นิสสัน นาวารา ดับเบิลยูบี ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 144 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 174 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทันสมัย ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และเป็นพิคอัพรายเดียวในเมืองไทยที่ใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ PEUGEOT (B10) 308 เซเซ (308CC) รถใหม่ของอนุกรม 308 รุ่นนี้ นับเป็นตัวถังแบบที่ 3 ของรถเปิดประทุนที่ผสมผสานรูปแบบคูเป กับ กาบริโอเลต์ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งได้เปิดตัวให้ผู้คนทั่วไปได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่งาน "มหกรรมยานยนต์ปารีส" ครั้งที่ผ่านมา เครื่องยนต์มี 2 รุ่น ขนาด 1.6 ลิตร รหัส อีพี 6 (EP6) ในรุ่น วีทีไอ 120 แรงม้า และรหัส อีพี 6 ดีที (EP6DT) สำหรับรุ่น เทอร์โบ 140 แรงม้า เครื่องยนต์บลอคนี้วางอยู่ในรถยนต์รุ่นดังอย่าง มีนี ซึ่งได้รางวัล ENGINE OF THE YEAR มาแล้ว แต่ปรับแต่งบุคลิกการทำงานให้ต่างกัน ประหยัดน้ำมันที่ 13.7 และ 12.7 กม./ลิตร ตามลำดับ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ สามารถเปลี่ยนจังหวะบวก/ลบได้ที่คันเกียร์ POLARSUN (B08) โพลาร์ซัน รถตู้เอนกประสงค์ POLARSUN MOTOR HOLDING ประเทศจีน รูปลักษณ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพญาหงษ์ อุปกรณ์อำนวย ความสะดวกมากมาย อาทิ ระบบปรับอากาศแยกส่วนหน้า/หลัง เบาะผู้โดยสารแถวแรก ปรับเอน เลื่อนหน้า/หลังและหมุนกลับหลังได้ ไฟเบรคดวงที่ 3 เห็นได้ชัดเจน พร้อมที่ปัดน้ำฝนและที่ฉีดน้ำ ล้างกระจกหลัง ที่เก็บของที่วางแก้วน้ำ ไฟส่องสว่างเพื่ออ่านหนังสือ เซนเซอร์ลอคประตู 4 บาน เครื่องยนต์เบนซินชนิด 4 สูบเรียง โอเวอร์เฮดวาล์ว ขนาด 2.2 ลิตร แรงม้าสูงสุด 104 แรงม้าที่ 4,600 รตน. แรงบิดอย่างต่อเนื่องสูงสุด 19.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. PROTON (A01) ปโรตอน เอกโซรา (PROTON EXORA) เป็นรถ MPV ที่เน้นการเป็นรถสำหรับครอบครัว ห้องโดยสารกว้างสบายสำหรับผู้โดยสารถึง 7 คน เบาะที่นั่งปรับเปลี่ยนได้หลากหลายสไตล์ และเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถได้มากตามต้องการ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CPS ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. และแรงบิด 15.1 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ที่ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เสริมด้วยปโรตอนอีก 4 รุ่น คือ ซาตรีอา นีโอ (SATRIA NEO) รถเล็กมาดเท่ ในรูปแบบ 3 ประตู แฮทช์แบค เพอร์โซนา ซีเอนจี (PERSONA CNG) ซีดานทางเลือกใหม่ ขุมพลังประหยัด รองรับเชื้อเพลิง 2 ระบบ ใช้ได้ทั้ง แกสโซฮอล อี 20 (E20) และ ซีเอนจี (CNG) เจน-2 (GEN-2) รถครอบครัวแบบ 5 ประตู และน้องเล็ก เซฟวี (SAVVY) รถขนาดกะทัดรัดแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง รุ่นประหยัด ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.2 ลิตร 75 แรงม้า SKODA (S01) ฟาบีอา (FABIA) รถจากสาธารณรัฐเชค เป็นผลิตผลของ SKODA AUTOMOBILOVA A.S. อีกหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งรวมอยู่ในเครือข่ายของ VOLKSWAGEN GROUP กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ สโกดา ฟาบีอา รถ 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์หลักคือ เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 3 สูบเรียง 1.4 ลิตร กำลังสูงสุด 80 แรงม้า ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนอีกหนึ่งก็เป็น อกตาวีอา (OCTAVIA) ซีดานขนาดกลาง ที่หายหน้าหายตาไปนาน SSANGYONG (A07) สตาวิค (STAVIC) หรือ โรดีอุส (RODIUS) ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แปลกและแตกต่าง ภายในบรรจุ เครื่องเสียง ดีวีดี ชุดใหญ่ พร้อมจอภาพ พวงมาลัยแบบ มัลทิฟังค์ชัน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกส่วนหน้า/หลัง และช่องแอร์เหนือศีรษะ ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึง ทั้ง 11 ที่นั่ง พร้อมสวิทช์ควบคุมในแถวที่ 2 เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบ เบนซิน 6 สูบเรียง 3.2 ลิตร 220 แรงม้า ที่ 6,100 รตน. และดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ 5 สูบเรียง 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 34.9 กก.-ม. ตั้งแต่ 1,800- 3,250 รตน. ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ รุ่นใหม่ของเมร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อ (เฉพาะดีเซล) SUBARU (A07) ซูบารุ เลกาซี เจเนอเรชันที่ 5 ภายใต้แนวคิดการออกแบบที่ยังคงความเป็นเยี่ยมในด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัย ประกอบกับเทคโนโลยีหลักที่มีชื่อเสียงของซูบารุในด้านการยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม SYMMETRICAL ALL-WHEEL DRIVE ผสานกับเครื่องยนต์บอกเซอร์ สูบนอนอันทรงพลัง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ ซูบารุ เลกาซี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น คือ เลกาซี 2.0 ซีดานและแวกอน ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบ LINEARTRONIC CVT ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 11.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 203 กม./ชม. อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 ลิตร ที่ 100 กม., เลกาซี 2.5 จีที ซีดานและแวกอน นอกจากนี้ยังมี ซูบารุ อิมพเรซา (SUBARU IMPREZA) โมเดลใหม่ แบบ 4 ประตู ซีดาน ในสไตล์ที่คุ้นเคย เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เพิ่มเติมจากรุ่น 5 ประตู แฮทช์แบค ที่เน้นประโยชน์ใช้สอย และความเป็นรถครอบครัว SUZUKI (A08) สวิฟท์ (SWIFT) รถขนาดซับคอมแพค 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟ์ท 16 วาล์ว วีวีที 1.5 ลิตร หัวฉีดมัลทิพอยท์ กำลังสูงสุด 101 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 13.6 กก.-ม. ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R 15 อีกรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ กแรนด์ วีทารา (GRAND VITARA) ใช้โครงสร้างใหม่ เข้ากับแบบโมโนคอค อย่างลงตัว น้ำหนักเบา และแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับเส้นทางวิบาก รูปทรงยังคงสไตล์เหลี่ยมสัน แต่ดูหรูหราและดุดัน แตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 16 วาล์ว 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 18.7 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ TATA (A04) นาโน (NANO) รถขนาดเล็ก ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 4 ที่นั่ง เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 624 ซีซี 35 แรงม้า ระบบเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ วางหลังขับและขับเคลื่อนล้อหลัง ที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เพราะสนนราคาค่าตัวย่อมเยาเหลือเชื่อ ตัวถังทรงกล่องเดียว ทำจากเหล็กกล้า และพลาสติค โดยไม่มีการเชื่อม แต่ยึดติดด้วยกาว สามารถทำความเร็วสูงสุด 105 กม./ชม. เริ่มจำหน่ายในอินเดียเมื่อวันที่ 23 มีนาคม โดยแยกโมเดลให้เลือกใช้รวม 3 โมเดล คือ NANO-NANO CX-NANO LX ซีนอน ซีเอนจี ในตัวถัง ทาทา ซีนอน เอกซ์เทนด์ แคบ โครงสร้างตัวถังขึ้นรูปด้วยเหล็กหนา 0.8-1.5 มม. ขุมพลังขนาด 2.1 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 17.8 กก.-ม. ใช้เชื้อเพลิงแกสธรรมชาติ ซีเอนจี เพียงอย่างเดียวเป็นพลังในการขับเคลื่อน ควบคุมด้วยระบบหัวฉีดดีเซล เอมพีเอฟไอ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ที่ทำงานร่วมกับเฟืองท้ายแบบ ลิมิเทด สลิพ ดิฟเฟอเรนเชียล นอกจากนี้ยังนำรถกระบะเล็กขนส่งในเมือง รุ่นใหม่ เอดจ์ (EDGE) มาแสดง TOYOTA (A14) โตโยตา เน้นความโดดเด่นของรถยนต์ "พันทาง" ไฮบริด รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย แคมรี ไฮบริด อาศัยแรงบิดสูง 27.5 กก.-ม. จากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวส่งในช่วงออกตัว จนถึง 1,500 รตน. ก่อนจะเสริมกำลังด้วยเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร วีวีที-ไอ 150 แรงม้า กำลังสูงสุดขยับขึ้นไปถึง 190 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน มอเตอร์เจเนอเรเตอร์ 2 ตัว ตัวที่ 1 ทำหน้าที่ "มอเตอร์สตาร์ทเครื่องยนต์" และเจเนอเรเตอร์ ชาร์จไฟเข้าแบทเตอรี ไฮบริด และส่งกระแสไฟไปยังมอเตอร์เจเนอเรเตอร์ตัวที่ 2 ซึ่งเป็น "มอเตอร์ขับเคลื่อน" และเจเนอเรเตอร์ ชาร์จไฟเข้าแบทเตอรี ไฮบริด เมื่อชะลอความเร็ว หรือเบรค เพื่อลดการสูญเปล่าของพลังงาน โตโยตายังยกโขยง ไมเนอร์เชนจ์ สวมชุดแต่ง ทีอาร์ดี และรถตู้หรูรุ่น อัลฟาร์ด (ALPHARD) มาจัดแสดง VOLKSWAGEN (B03) ชีรคโค (SCIROCCO) แฮทช์แบค 3 ประตู สไตล์สปอร์ท หลังคาเป็นซันรูฟแก้ว (PANORAMIC GLASS SUNROOF) ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง เทอร์โบ แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 6 จังหวะ นอกจากนี้ยังมี โฟล์คสวาเกน พาสสาท ซีซี (PASSAT CC) เก๋งหรูขนาดกลางมาแทนรุ่นพาสสาทเดิม ที่มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TSL กำลังสูงสุด 200 แรงม้าเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กอล์ฟ ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.4 ลิตร TSI กำลังสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ และ บีทเทิล ใหม่ ที่นำมาให้เลือก 2 รุ่น เครื่องยนต์เบนซิน เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.6 ลิตร 102 แรงม้า และอีกรุ่น 1.8 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า รวมทั้ง ทีกวน (TIGUAN) ซึ่งมีที่มาจาก TIGER และ IGUANA เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบเอสยูวี วางเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตร TDI 140 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ VOLVO (B09) เอส 40 (S40) และ วี 50 (V50) สปอร์ทซีดานและสปอร์ทแวกอนรุ่นเล็ก ในกลุ่มเดียวกับ ซี 30 (C30) คูเป ที่ออกมาจำหน่ายก่อนหน้านี้ โดยถอดแบบมาจากรถรุ่น เอส 60 (S60) และ วี 70 (V70) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มาครบ แม้กระทั้ง กล้องและสัญญานเตือนมุมอับสายตา ซึ่งซ่อนไว้ใต้กระจกมองข้าง และในรุ่น วี 50 มีเบาะนั่งปรับยกเป็นรองนั่งสำหรับเด็กได้ 2 ระดับ ทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า รองรับ เบนซิน 95 และแกสโซฮอล อี 10 โดยส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ “เพาเวอร์ชิฟท์” แบบ 6 จังหวะ ที่สามารถเลือกสไตล์การขับขี่ได้ในแบบเกียร์ธรรมดา

แท็ก motor expo   ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ