พ่อ ...ฮีโร่ของลูก

ข่าวทั่วไป Tuesday November 21, 2006 15:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
พระเอกของบ้านที่คอยดูแลสุข ...ทุกข์ คงหนีไม่พ้น “พ่อ” ชายผู้มีบุคลิกเข้มแข็งอดทน หนักแน่น ผู้เป็นฮีโร่ของลูก สามารถต่อสู้ปกป้องลูกจากผู้ปองร้าย คอยช่วยตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สัญชาตญาณความเป็นพ่อ ที่ส่งผ่านความรัก และการดูแลเอาใจใส่ จะช่วยทำให้ครอบครัวอยู่อย่างอบอุ่น มีชีวิตที่ดี ในที่สุดสังคมก็จะดีตามไปด้วย ซึ่งเอไอเอส-สานรัก ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัวว่าเป็นรากฐานของสังคมไทย จึงได้จัดงานสานรักสัมมนาครอบครัวมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นครั้งที่ 26 ในหัวข้อ อนาคตลูกสดใส ด้วยแรงใจจาก... “พ่อ” เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งจัดโดย ศรัณย์ ผโลประการ ผู้อำนวยการสำนัก ปฎิบัติการภูมิภาค-ภาคกลาง เอไอเอส ซึ่งเชื่อว่า ครอบครัวเป็นเกราะกำบังที่แข็งแรงที่สุดของเยาวชนในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในการดำรงชีวิต โดยมี นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ประจำคลินิกครอบครัว โรงพยาบาลพญาไท 2, น้องต้น นามแก้ว เยาวชนสานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง แบบอย่างในการต่อสู้ชีวิต ที่แม้ร่างกายจะพิการ แต่ความมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตเกินร้อย และ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ร่วมเสวนา ณ เรือนไทย อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย สมุทรสงคราม
โดยผู้ร่วมเสวนาให้ความเห็น ในเรื่องของการต่อสู้ชีวิตทั้งด้วยกำลังใจจากพ่อ และด้วยตนเอง อาทิ
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล กล่าวว่า “พ่อทุกคนรักลูก แต่ผู้ชายในความเป็นบุรุษเพศ ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง มักจะมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร การส่งผ่านความรักและความเอื้ออาทร ภาพความรักของพ่อ ที่สื่อออกมา มักจะเป็นแบบของบุคคลผู้มีอำนาจ มากกว่าความเป็นเพื่อน ถ้าพ่อเป็นผู้มีอำนาจ เวลาลูกมีปัญหา ลูกอาจจะกลัวเกรง ไม่กล้าเข้ามาปรึกษา เวลาที่พ่อดุด่า ด้วยความเป็นห่วง ต้องการสั่งสอน แต่ลูกซึ่งเป็นผู้รับ อาจจะเข้าใจว่าเป็นการตำหนิติเตียน อย่างคำเปรียบเปรยที่ว่า วจีพิฆาต น้ำเสียงกระชากวิญญาณ ดังนั้นควรจะระมัดระวังในเรื่อง โทนเสียงขณะดุด่า การตำหนิควรจะกระทำด้วยความเมตตา วิธีการสื่อสารที่พ่อจะช่วยส่งผ่านความรักถึงลูก มีหลักการง่ายๆ คือ เวลาคุยกัน ต้องไม่ซ้ำเติมในเรื่องของความผิดพลาด, จะต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี ไม่ควรตัดสินว่าผิดหรือถูก, ไม่ควรใช้อำนาจแห่งความเป็นพ่อ บังคับให้ลูกทำอย่างโน่นอย่างนี้ หรือห้ามกระทำ เพราะความเป็นผู้มีอำนาจ เด็กอาจจะกลัวไม่เถียง แต่ความโกรธของเด็ก จะไปแสดงออกถึงพฤติกรรมตรงกันข้าม ที่จะทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ช้ำใจ อาทิ
กลับบ้านดึก มั่วสุมกับเพื่อน ติดยาเสพติด หากลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่ไม่ดี พ่อแม่อยากจะให้ลูกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ วิธีการสื่อสารที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ เริ่มจากการพูดถึงสิ่งที่ลูกทำ อาทิ การกลับบ้านดึกๆ เป็นสิ่งที่พ่อไม่ชอบ บอกให้รู้ถึงความรู้สึกของเรา ที่พ่อไม่ชอบให้กลับบ้านดึกดื่นค่อนคืน ก็เพราะพ่อเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับลูก และพูดถึงสิ่งที่อยากให้เปลี่ยนแปลง ถ้าต้องกลับบ้านดึก มีกิจกรรมโรงเรียนหรือต้องทำกิจกรรมอะไร ก็โทรบอกพ่อนะ สำหรับเรื่องกำลังใจในครอบครัวนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ ควรจะเป็นซึ่งกันและกัน โดยมีพ่อเป็นเสาหลัก ช่วยดูแลกัน หากพ่อและแม่ต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ เมื่อกลับบ้าน พ่อก็ควรจะช่วยดูแลงานบ้านตามสมควร มิใช่งานของแม่แต่เพียงฝ่ายเดียว หรือ ลูกๆ ที่ตั้งใจเรียน ประพฤติตนดี ก็เป็นกำลังใจที่จะช่วยส่งเสริมให้พ่อแม่ทำงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เพราะรู้สึกสบายใจไม่ต้องกังวลอะไร เป็นต้น ตามหลักวิทยาศาสตร์ สมองผู้ชายนั้น จะผลิตความคิด ออกมาเป็นภาพ ส่วนผู้หญิง สมองจะผลิตความคิด ออกมาเป็นคำพูด หากการสื่อสารด้วยคำพูดเป็นสิ่งที่ยากสำหรับพ่อ ก็ควรจะแสดงความรักออกมาทางภาษากาย ก็ได้ นอกจากเรื่องการสื่อสารแล้ว การมีเวลาให้แก่กัน ก็เป็นเรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นที่จะต้อง อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ต้องใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ พ่อแม่อาจจะต้องทำงานเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว เวลาที่จะอยู่ด้วยกันอาจจะมีไม่มากนัก แต่ต้องทำให้เวลาที่มีอยู่เป็นเวลาแห่งความสุข ทำกิจกรรมร่วมกัน ดูทีวี นั่งคุยกัน ถ้ามีเวลาว่าง ก็เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน ให้เป็นภาพความทรงจำที่ดี เป็นภาพเหตุการณ์ประทับใจ ที่จะจดจำไปตลอดชีวิต”
ต้น นามแก้ว เยาวชนสานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง ผู้พิการขาซ้ายขาด ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปากน้ำปราณวิทยา ประจวบคีรีขันธุ์ ผู้ไม่เคยท้อถอยกับชีวิต กล่าวว่า “ไม่ค่อยได้ผูกพันกับคุณพ่อมาก เพราะเสียชีวิตตั้งแต่ตนยังเด็ก ต่อมาได้พักอยู่กับคุณยาย และเชื่อในคำสอนของยายที่ว่า คนเราไม่สามารถอยู่ยงคงกระพัน อยู่ค้ำฟ้าได้ แต่ความดีที่เราทำ สามารถอยู่ได้ คิดดี ทำดี ทำให้เรารู้สึกถึงความภาคภูมิใจ รู้สึกดีกับตนเอง ซึ่งจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตคนเรานั้น ต้องมีล้ม มีอุปสรรคด้วยกันทั้งนั้น มีล้มแล้ว ก็ต้องมีลุก ต้องต่อสู้กับอุปสรรค และก้าวต่อไปด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง สำหรับเยาวชนที่ท้อแท้กับการเรียน ติดเพื่อน ควรจะแยกแยะให้ดี ตอนนี้เราเป็นนักเรียน ก็ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พากเพียรให้ได้วิชาความรู้ มีปัญหาก็ปรึกษาครู สำหรับตนเองนั้น ได้กำลังใจที่ดีจากน้องสาว อยู่ด้วยกันสองคน รู้สึกผูกพันกันมาก รู้สึกว่าชีวิตเรามีความหมาย จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้อง เลี้ยงดูน้องให้ดีที่สุด อยากจะเรียนอะไร ก็จะส่งเสียให้เรียน ในอนาคตน้อง จะได้มีวิชาความรู้ ที่ต่อสู่กับปัญหาอุปสรรคได้ต่อไป”
บุ๋ม - ปนัดดา วงศ์ผู้ดี “กำลังใจสำหรับบุ๋มเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะกำลังใจจากคนที่ เรารัก ซึ่งบุ๋มได้รับจากพ่อเยอะมาก กล้าพูดได้ว่า มีทุกวันนี้เพราะพ่อ ยิ่งตอนที่มีปัญหาหนักๆ หันไปทางไหนก็มีพ่อ พ่อจะคอยให้คำปรึกษาตลอดจนคำแนะนำดีๆ ตั้งแต่เรียนซึ่งบุ๋มอยากเรียนต่อปริญญาโททันทีที่จบปริญญาตรี พ่อก็ลำบากเพราะว่าต้องใช้เงินส่งเสียเยอะ แต่สุดท้ายก็กัดฟันให้บุ๋มเรียนจนสมปรารถนาจนได้ แม้กระทั่งตอนที่ประกวดนางสาวไทยที่บุ๋มโดนรังแกจากเพื่อนๆ ด้วยข้อหาที่เป็นตัวเก็ง ไม่มีใครคุย ไม่มีใครสุงสิงด้วย แต่ก็มีพ่อนี่แหละ ที่มอบกำลังใจให้บุ๋มตลอดเวลา พ่อบอกว่าไม่เป็นไร ประกวดให้เสร็จแล้วพ่อจะไปรับกลับบ้าน และเมื่อบุ๋มมีครอบครัวพ่อก็ยังคอยเป็นกำลังใจให้ โดยพ่อสอนว่าการใช้ชีวิตคู่สิ่งสำคัญคือต้องอดทน บุ๋มจดจำ มาใช้เพื่อประคองชีวิตคู่ของตน ในโอกาสวันพ่อปีนี้บุ๋มอยากให้พ่อมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้บุ๋มและครอบครัวต่อไป ในขณะที่คนไทยทุกคนก็ควรใช้โอกาสวันพ่อที่จะถึงนี้ ทำสิ่งที่ดี เป็น คนดี คิดดี เพื่อพ่อของเราและพ่อที่ยิ่งใหญ่อย่างในหลวงด้วยค่ะ”
นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังได้สัมผัสพันธุ์ไม้ในวรรณคดี ร่วมชมสาธิตการทำขนมไทยในวรรณคดี สูตรชาววัง ซึ่งมีต้นกำเนิดใน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในสมัยรัชกาลที่ 2 อาทิ ขนมเรไร ช่อม่วง จ่ามงกุฎ ฯลฯ ภายในงานยังได้จัดกิจกรรม ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวทำร่วมกันได้ อาทิ เกมเลี้ยงลูกให้ถูกทาง เกมครอบครัวพลังชู้ต และเกมครอบครัวสอยดาวซึ่งการเล่นเกมในซุ้มต่างๆ จะต้องอาศัยพลังแห่งความรัก ความสามัคคีในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ และกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสี ชิงทุนการศึกษามูลค่า 15,000 บาท หัวข้อ “1 ความดีแด่คุณพ่อ” โดยมีผู้ชนะเลิศรางวัลที่ 1 ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 3,000 บาท คือ น้องเคลียร์ —ชุติมล พุ่มจันทร์ อายุ 9 ปี นักเรียนจากโรงเรียนวัดดาวโด่ง “ภาพที่ระบายสีเป็นรูปหนูกำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน มีคำเขียนบน ภาพว่า หนูจะตั้งใจเรียน เป็นคำพูดที่ หนูอยากจะบอกพ่อ พ่อหนูเป็นคนใจดี เวลาว่าง พ่อจะพาไปเที่ยว ไปกินข้าว และชอบสอนการบ้าน หนูชอบเวลาที่พ่อกอด หอม เพราะรู้สึกพ่อรักหนูคะ”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร 02-434-8300, 02-434-8547
สุจินดา, แสงนภา,ปนัดดา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

แท็ก ครอบครัว  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ