MovieHow To Be

ข่าวบันเทิง Monday January 11, 2010 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม ประเภท Coming Of Age สัญชาติ อังกฤษ อำนวยการสร้าง จัสติน เคลลี่ (How to Be) กำกับ/เขียนบท โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง (How to Be) นำแสดง โรเบิร์ต แพททินสัน (Twilight, The Twilight Saga: New Moon) รีเบ็คก้า พีเจี้ยน (Redbelt, Shopgirl, Heist) เจเรมี่ ฮาร์ดี้ (Hotel, Tommy Tough) กำหนดฉาย 10 ธันวาคม 2009 จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์ เว็บไซต์ภาพยนตร์ http://www.howtobemovie.com/ ครั้งแรกของ โรเบิร์ต แพททินสัน เอ็ดเวิร์ด แวมไพร์หนุ่มจาก Twilight และ The Twilight Saga: New Moon ในการรับบทเป็นนักดนตรีหนุ่มสุดเซอร์ ผู้ไล่ตามหาความฝันของตัวเอง How To Be คือภาพยนตร์แนว coming-of-age ที่เล่าถึงชีวิตของ อาร์ต (โรเบิร์ต แพททินสัน จาก Twilight และ The Twilight Saga: New Moon) นักดนตรีหนุ่มสุดเซอร์ ที่กำลังก้าวเข้าไปในช่วงชีวิตที่เขาเรียกว่า "วิกฤตวัยรุ่น" ซึ่งเกิดจากการที่เขาถูกแฟนสาวทิ้ง แถมยังต้องย้ายกลับเข้ามาอยู่บ้านกับพ่อแม่ ที่ดูไม่ยินดีกลับการมาของเขาเท่าไรนัก รอนนี่ ชายหนุ่มผู้เป็นโรคกลัวพื้นที่กว้าง และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของ อาร์ต ก็มีปัญหาของตัวเองเช่นกัน เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์กลางกรุงลอนดอน ที่เต็มไปด้วยข้าวของและเพลงอิเล็คทรอนิค รอนนี่ ต้องการตั้งวงดนตรีร่วมกับ อาร์ต และเพื่อนจอมเวิ่นเว้ออีกคนอย่าง นิคกี้ แต่ความฝันของพวกเขาก็ไม่ได้ก้าวไปไหนเกินกว่าการซ้อมดนตรีบนหลังคาแฟล็ต อาร์ต ได้รู้จักกับ ดร เลวิ เอลลิงตั้น กูรูผู้แต่งหนังสือพัฒนาตัวเองที่ชื่อ It's Not Your Fault โดยเขาขอร้องให้ ดร เอลลิงตัน ย้ายมาอยู่กับเขาพ่อแม่ และใช้เงินที่ได้จากกองมรดกจ้าง ดร เอลลิงตั้น ให้เป็นผู้ช่วยนำทางชีวิตเขาแบบเต็มเวลา และคอยติดตาม อาร์ต ไปทุกหนทุกแห่ง How To Be เป็นการเดินทางของ อาร์ต ที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกและน่าค้นหา เพื่อที่จะได้ค้นหาความเป็นตัวตนของเขา ทั้งความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างเขากับพ่อแม่ และมิตรภาพระหว่างเขาและเพื่อนๆที่มีนิสัยแปลกประหลาด ทุกอย่างถูกสร้างด้วยความละเอียดอ่อน แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน How to Be คือการมองการเจริญเติบโตของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ที่พร้อมระเบิดพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาตัวเอง เบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ ผู้กำกับ โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง ได้เริ่มคิดถึงโปรเจ็ค How To Be ตั้งแต่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำภาพยนตร์ในปี 2003 ด้วยการร่วมงานกับผู้ที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานกันอย่างยาวนาน และเป็นเพื่อนสนิทอย่าง โจ เฮสติ้งส์ โดยพวกเขาช่วยกันพัฒนาบท ในขณะเดียวกันก็ร่วมกันเขียนเพลงประกอบที่จะถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ องค์ประกอบในเรื่องของดนตรีถูกซักซ้อมตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อที่จะนำมาใช้ดัดแปลงไปตามอารมณ์ของบทภาพยนตร์ ซึ่งก็ได้ความร่วมมือจากเพื่อนเก่าของ โอลิเวอร์ อย่าง ไมเคิล เพียร์ซ และ จอห์นนี่ ไวท์ ผู้ที่เข้ามารับบทเป็นเพื่อนของพระเอกอย่าง นิคกี้ และ รอนนี่ ในภาพยนตร์เรื่อง How To Be อีกด้วย โอลิเวอร์ ชี้ให้เห็นว่า ฝึกซ้อมกันอย่างยาวนาน เป็นหนทางสู่การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด ผู้อำนวยการสร้าง จัสติน เคลลี่ เข้ามาร่วมในโปรเจ็คตั้งแต่ปี 2004 พวกเขาใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาบทภาพยนตร์ และคัดสรรบุคลากรที่จะเข้ามาร่วมงาน How To Be ถ่ายทำภายในระยะเวลา 25 วัน ตั้งแต่ต้นปี 2007 ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยทีมงานและนักแสดงที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทำตามเวลาและไม่เกินงบประมาณ ทีมนักแสดง โรเบิร์ต แพททินสัน (รับบทเป็น อาร์ต) หลังจากที่เขารับบทเป็น ราวดี้ ใน Vanity Fair (2004) และ จิเซลเฮอร์ ใน Ring of the Nibelungs (2004) บทบาท เซดริก ดิกกอรี่ ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) ก็เป็นเหมือนแรงส่งที่ช่วยดีดตัวให้เขาก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง พูดถึงการคัดเลือกนักแสดงเพื่อเข้ามารับบทนำว่า "How To Be เป็นโอกาสที่ทำให้นักแสดงได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกระดับ เพราะปกติแล้วพวกเขามักจะแสดงเป็นตัวเอง หรือไม่ก็แสดงเป็นตัวเองที่รูปแบบที่เว่อร์ขึ้นไป พวกเราต้องการใครบางคนที่เข้าใจในตัวละครอย่างเช่น อาร์ต ใครบางคนที่สามารถปล่อยใจตามไปกับสถานการณ์ และไม่มีความคิดตามแบบอย่างนักแสดง" หลังจากที่เขาโด่งดังจาก Harry Potter แพททินสัน ก็ได้ออกตามหาบทภาพยนตร์ ที่แสดงให้เห็นถึงอีกด้านนึงในบุคลิกเขาได้อย่างสัตย์จริง และเขาก็พบมันในตัวละครนี้ “อาร์ต เป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่น เขาดูแปลกแยกออกไปจากสังคม และไม่ได้หดหู่อย่างที่ตัวเองคิด อารมณ์ของเขาผกผันไปตามสถานการณ์รอบตัว ซึ่งผมคิดว่าเราทุกคนในชีวิตจริงก็เหมือนกัน เพราะถ้ามีคนรู้จักกำลังเศร้า เราก็คงจะรู้สึกเศร้าไปด้วย แต่เขาก็ไม่ได้ดูเศร้าหมองตลอดเวลา ผมว่าเขาเหมือนสุนัขที่กำลังไล่งับหางตัวเอง เป็นผู้ชายที่เหมือนคนที่ติดอยู่ในบ่อโคลน และกำลังหาวิธีในการปีนออกมา” หลังจากที่ แพททินสัน ปิดกล้องเรื่อง How To Be เขาก็ได้รับบทเป็น ซัลวาดอร์ ดาลี ช่วงวัยรุ่น ใน Little Ashes ที่กำกับโดย พอล มอร์ริสัน จากนั้นก็ดังเป็นพลุแตกกับ Twilight และ The Twilight Saga: New Moon ซึ่งเขารับบทเป็น เอ็ดเวิร์ด แวมไพร์หนุ่มขวัญใจสาวทั่วโลก โดย Variety นิตยสารชื่อดังได้เขียนถึงเขาว่า "โรเบิร์ต แพททินสัน เปรียบได้กับ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ ในช่วงหลังจากที่เขาแสดงนำใน Titanic ใหม่ๆ” จอห์นนี่ ไวท์ (รับบทเป็น รอนนี่) จอห์นนี่ รู้จักกับผู้กำกับ โอวิเลอร์ เออร์วิ่ง มาตั้งแต่เรียนอยู่ในไฮสกูล และก็ได้แสดงอยู่ในหนังของ เออร์วิ่ง มาโดยตลอด เขาแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง Love me Tender ของ The Research โดย จอห์นนี่ ยังเป็นนักดนตรี และเคยออกอัลบั้มเพลงที่ชื่อ Hatefield และภายใต้ชื่อวง The Rollercoaster นอกจากนั้นยังเคยริมิกซ์ให้กับวงอย่าง The Cribs และ Forward Russia ไมเคิล เพียร์ซ (รับบทเป็น นิคกี้) เขาเติบโตขึ้นมาในเมืองเจอร์ซี่ย์ และพบกับ โอลิเวอร์ ที่สถาบันภาพยนตร์ที่เมืองบอร์นมัธ ซึ่งทั้งคู่ได้ศึกษาเรื่องการกำกับหนัง ซึ่งหลังจากนั้น ไมเคิล ก็ได้ร่วมมือกับ โอลิเวอร์ หนังหลายเรื่อง โดยเขาเข้าศึกษาต่อใน The National Film and Television School ก่อนที่ขณะนี้เขาเป็นคนประสานงานให้กับ Jersey International Film Festival พาวเวลล์ โจนส์ (รับบทเป็น ดร เอลลิงตั้น) พาวเวลล์ มีอาชีพนักแสดงที่รุ่งเรืองและยาวนานทั้งในจอเงินและจอแก้ว โดยเขาปรากฏตัวในซีรี่ย์ชื่อดังทางโทรทัศน์มามากมาย เช่น Anna Karenina (1977), และ The Good Shoe Maker and the Poor Fish Peddler (1965) เขายังเคยร่วมงานกับ โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง มาแล้วจาก New World (2003) โดยภาพยนตร์เรื่อง How To Be ก็ยังเป็นการอุทิศให้แก่ พาวเวลล์ ผู้ซึ่งเสียชีวิตในเดือนกันยายน ปี 2007 หลังจากการถ่ายทำเรื่องนี้เสร็จได้ไม่นาน เจเรมี่ ฮาร์ดี้ (รับบทเป็น เจเรมี่) เจเรมี่ ฮาร์ดี้ เป็นหนึ่งในนักแสดงตลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุกคนหนึ่ง[oเกาะอังกฤษ ในปี 2004 รายการโชว์ทางวิทยุของเขา Jeremy Hardy Speaks To the Nation ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Sony Radio Award รวมถึงการแสดงของเขาในบท นายพลเพอร์กิ้นส์ ใน Blackadder Goes Forth ผลงานภาพยนตร์ของเขาก็ยังมี Hotel (2001) กำกับโดย ไมค์ ฟิคกิส ที่แสดงร่วมกับ เบิร์ต เรย์โนลด์, เดวิด ชวิมเมอร์ Tommy Tough (2001), Mona Lisa (1986) และ สารคดีเรื่อง Jeremy Hardy Vs The Israeli Army รีเบคก้า พีเจี้ยน (รับบทเป็น แม่) ผลงานภาพยนตร์ของ รีเบคก้า รวมถึงการแสดงร่วมกับ สตีฟ มาร์ติน ใน The Spanish Prisoner (1997) แสดงร่วมกับ ไนเจล ฮอร์ธอร์น ใน The Winslow Boy (1999) แสดงร่วมกับ ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน ใน State and Main (2000) และแสดงร่วมกับ ยีน แฮ็คแมน ใน Heist (2001) ผลงานเรื่องอื่นของเธอก็มี Shopgirl (2005) แสดงร่วมกับ สตีฟ มาร์ติน, Edmond (2005) แสดงร่วมกับ วิลเลี่ยม เอช เมซี่ย์ และ Redbelt (2008) แสดงร่วมกับ ทิม อัลเลน ไมเคิล เออร์วิ่ง (รับบทเป็น พ่อ) ไมเคิล เริ่มต้นอาชีพตั้งแต่ยุค 70 โดยมีผลงานที่น่าจดจำอย่าง The Duelists (1977) ของผู้กำกับ ริดลี่ย์ สก็อตต์ Personal Services (1987) และ Vroom (1988) ร่วมกับ ไคล์ฟ โอเว่น ทีมผู้สร้าง โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง (ผู้กำกับ/เขียนบท) โอลิเวอร์ คิดสร้างหนังแต่เขาสามารถแบกกล้องได้ เขาเข้าเรียนในสถาบันภาพยนตร์ที่เมืองบอร์นมัธ และยังป็นนักดนตรีที่มีฝีมือ หนังสั้นเรื่องล่าสุดของเขาคือ New World นำแสดงโดย มัลคอม เทียร์นี่ย์ ซึ่งถ่ายทำกันใน วิลตัน เฮ้าส์ ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์สุดคลาสสิคอย่าง Barry Lyndon และ The Madness of King George โจ เฮสติ้งส์ (ผู้แต่งเพลงประกอบ/เขียนบท) โจ เป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง และทำงานร่วมกับ โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง มาตั้งแต่ทั้งคู่ร่วมกันตั้งวงดนตรีเมื่ออายุได้ 12 เขาแต่งเพลงที่ถูกนำเอาไปใช้ใน BBC TV และได้เล่นเพลงที่แต่งขึ้นมาใน เอิร์ล คอร์ท ที่กรุงลอนดอน, เชฟฟิลด์ อารีน่า และสถานที่อื่นๆทั่วสหราชอาณาจักร โดยเขายังเคยได้รับรางวัล Yamaha National Song และ the Bright Young Things จัสติน เคลลี่ (ผู้อำนวยการสร้าง) จัสติน สอบเป็นทนายสำเร็จในเดือนกันยายน ปี 2000 ซึ่งเชี่ยวชาญในกฏหมายเรื่องลิขสิทธิ์ และทำงานอยูในทีมงานในบริษัท Osborne Clarke ซึ่งดูแลในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ก็ที่จะย้ายไปเป็นรองประธานบริษัทของ Seven Arts International และในเดือนมินายน ปี 2004 เขาก็ได้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสร้างให้กับ How To Be เป็นครั้งแรก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ