กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--สอศ.
อาชีวศึกษาเร่งเปิดโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่บริการทั่วประเทศ โดยเปิดดำเนินการ ระยะที่ 2 เพิ่มอีก 8,000 ศูนย์ ให้ครบ 10,000 ศูนย์ทั่วประเทศ ภายในกันยายนนี้ เน้นการซ่อมเครื่องจักรกลเกษตรเป็นอันดับ 1 หลังจากประสบผลสำเร็จจากการเปิดโครงการระยะแรกไปแล้ว 2,000 ศูนย์ เพื่อลดรายจ่ายและยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร อุปกรณ์การประกอบอาชีพของประชาชน และสนับสนุนให้นักศึกษามีรายได้และเพิ่มประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงานจริงในระหว่างเรียน
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยถึงโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix It Center) ว่า หลังจากที่ได้เปิดโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ระยะแรกไปแล้ว 2,000 ศูนย์นั้น ทางสอศ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเปิดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนระยะที่ 2 อีก 8,000 ศูนย์ทั่วประเทศ ให้ครบ 10,000 ศูนย์ ภายในเดือนกันยายน 2549 นี้ ซึ่งการดำเนินงานในระยะที่ 2 นี้ จะเน้นการซ่อมเครื่องจักรกลเกษตรเป็นอันดับแรก โดยจะทำการสำรวจอุปกรณ์ที่ใช้ในหมู่บ้าน และจัดชุดช่างซ่อมออกพื้นที่ให้ครอบคลุมความต้องการของชุมชนให้มากที่สุด
โดยตั้งเป้าหมายเพื่อลดรายจ่ายของประชาชนในการซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร อุปกรณ์ประกอบอาชีพ ไม่น้อยกว่า 200,000 รายการ และยังทำให้ประชาชนได้รับความรู้ในการดูแลรักษาเครื่องมืออุปกรณ์อย่างถูกต้อง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างเต็มสมรรถนะของเครื่องมือเครื่องจักร ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาชีพและแนวทางการเพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะสินค้า OTOP จำนวนไม่ต่ำกว่า 400 รายการ ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งยังสนับสนุนการมีรายได้ช่วงระหว่างเรียนและเพิ่มประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริงแก่นักศึกษาช่างของสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งสร้างงานแก่ช่างท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งรับเข้าร่วมเป็นทีมช่างในโครงการด้วย โดยช่างทั้งสองกลุ่มนี้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 50,000 คน
เลขาธิการสอศ.กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานของโครงการฯในระยะที่ 1 ได้ดำเนินการในพื้นที่หมู่บ้านยากจนอันดับ 1 และ อันดับ 2 จำนวน 2,000 ศูนย์ใน 75 จังหวัด โดยสอศ.ได้จัดส่งครู อาจารย์และนักศึกษาที่เรียนสายอาชีพช่างอุตสาหกรรม ร่วมกับช่างในชุมชน และนักศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษาเอกชนอื่น ซึ่งสามารถลดรายจ่ายในการซ่อมเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้ในครัวเรือนให้กับประชาชนในชุมชน และมีผลในด้านการส่งเสริมประสบการณ์ให้กับนักศึกษาอาชีวศึกษาได้สัมผัสชีวิตของชุมชน ซึ่งประชาชนในหมู่บ้านมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก และเกิดผลที่ดีในด้านการให้บริการของครู อาจารย์และนักศึกษา ช่วยสร้างภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดีระหว่างสถานศึกษากับประชาชนในชุมชนต่อไป
นอกจากนี้ยังจัดทำการสำรวจเพื่อจัดฐานข้อมูลด้านอาชีพและข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยการผลิตจากหน่วยครัวเรือนใน 10,00 หมู่บ้านให้เป็นระบบที่สมบูรณ์เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาอาชีพในชุมชนและพัฒนาหลักสูตรการอบรมอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นในอนาคตด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักประชาสัมพันธ์
โทร.02-281-5555 ต่อ 1009, 1010
โสรยา โทร.01-697-9100
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net