MILL เพิ่มทุน 2 พันลบ.ที่ราคา 10 บ.และ 10.50 บ. โดยมียักษ์ใหญ่ KFW ร่วมด้วย

ข่าวทั่วไป Thursday January 21, 2010 16:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--IR PLUS บอร์ด MILL งัดกลยุทธ์เพิ่มทุนร่วม 2 พันล้านบาท ที่ราคา 10 บาทต่อหุ้นและ 10.50 บาทต่อหุ้น อีกทั้ง มี DEG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ KFW สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่โซนยุโรปเข้าร่วม พร้อมกับอนุมัติให้ BRP ลงทุนโครงการ Green Mill มูลค่าไม่เกิน 2.9 พันลบ.หวังลดต้นทุนการผลิต ป้องกันความเสี่ยงหากขาดแคลนวัตถุดิบ รองรับการแข่งขั/นในอนาคต ด้าน'สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล' ประธานกรรมการบริหาร ระบุ เป็นการเสริมสร้างฐานทุนบริษัทและบริษัทย่อยให้แข็งแกร่ง รวมถึงรองรับแผนขยายงานใหม่ๆ อันจะนำไปสู่การเติบโตและโอกาสในการทำกำไรในอนาคต นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 มีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน ที่ราคา 10 บ. และ 10.50 บ. เพื่อขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(PP) และผู้ถือหุ้นของบริษัทบี อาร์ พี สตีล จำกัด (BRP) นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ แบงค์ DEG บริษัทในเครือ KfW Bankengruppe ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนพัฒนาโครงการระยะยาวต่างๆ รวมถึงการลงทุนในบริษัทเอกชนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามายาวนานกว่า 45 ปี พร้อมกันนี้ยังได้พิจารณาอนุมัติให้ บริษัท บี อาร์ พี สตีล จำกัด ( BRP ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซื้อสินทรัพย์ลงทุนในโครงการ Green Mill ได้แก่ เตาหลอมอาร์คไฟฟ้า ( Electronic Arc Furnance: EAF ) เป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 2,900,000,000 บาท โดยคาดว่าจะติดตั้งได้ในไตรมาส 1/2553 และเริ่มดำเนินการได้ในปี 2555 วัตถุประสงค์ของการลงทุนในโครงการ Green Mill เพื่อผลิต billet ทั้งระดับ commercial grade ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย และ billet ระดับ special grade เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง(High Value Added) ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยยังคงต้องนำเข้า billet อยู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงความขาดแคลนวัตถุดิบ จึงวางแผนลงทุนในโครงการนี้ขึ้น ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ ทำให้บริษัทลดต้นทุนในกระบวนการผลิต สามารถนำเศษเหล็ก (Scrap) มาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ ช่วยในการประหยัดพลังงาน ลดการนำเข้าวัตถุดิบ และช่วยป้องกันความเสี่ยงในการขาดแคลนวัตถุดิบ พร้อมทั้งขยายผลิตภัณฑ์สินค้าได้หลากหลายมากขึ้น ตรงตามความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคต 'การตัดสินใจเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญที่เหลือของ BRP อีก 10.10% จากผู้ถือหุ้นของ BRP ที่ตกลงแลกหุ้นนั้น จะทำให้บริษัทมีโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการที่ชัดเจนเนื่องจากมีบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการมีความคล่องตัวมากขึ้น ปราศจากความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ส่วนมูลค่ารวมของการเพิ่มทุนในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท เราเพิ่มทุนเพื่อต้องการรองรับการขยายงานและโครงการใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงเป็นการเสริมสร้างฐานทุนของบริษัทและบริษัทย่อย ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่ การเติบโตและโอกาสในการทำกำไรในก้าวต่อไป ส่วนในอนาคตมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโอกาส ผลตอบแทน และความเสี่ยง หากอยู่บนประโยชน์ที่บริษัทและสังคมโดยรวมได้รับบริษัทก็ไม่ปิดกั้นโอกาสนั้นๆ 'นายสิทธิชัยกล่าว นอกจากนี้มติคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นโดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.40 บาท ทำให้จำนวนของบริษัทเพิ่มจากเดิม 692,599,996 หุ้น เป็น 1,731,499,990 หุ้น ซึ่งจะนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ขณะเดียวกันยังได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจขนส่ง โดยมีทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตามที่ประชุมคุณกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553(Record Date) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนและพักการโอนหุ้น ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร.02-554-9394 , (มือถือ) 085-133-0184
แท็ก ยุโรป  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ