กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--Energy
Energy หน่วยงานด้านการบริหารและวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ รู้ดีว่าแบรนด์จะพัฒนา และธุรกิจจะเติบโตได้ต้องมีพลังไอเดียไว้ขับเคลื่อนให้ก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เราจึงไม่หยุดที่จะสรรหาพลังไอเดียใหม่ๆ กลยุทธ์ เคล็ดลับไอเดียในการบริหารแบรนด์และการสื่อสารการตลาด โดยนำเสนอในรูปแบบของงานสัมมนาแก่ สถาบันการศึกษา กลุ่มคู่ค้า และผู้สนใจ ในวันที่ 21 มกราคม 2552 ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็ก ภายใต้ชื่อ Idea Fuel Day “คิดให้แบรนด์ฟิต สตาร์ทติด ธุรกิจโต” ซึ่งได้รวบรวมไอเดีย กลยุทธ์ในการพัฒนาแบรนด์ ผ่าน 4 สูตรเชื้อเพลิงทางความคิด ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และภาวะการแข่งขันของธุรกิจที่ดุเดือดในปัจจุบัน ได้แก่
1. สูตรเร่งพลัง “แบรนด์ก้าวหน้าไม่ยั้ง เพิ่มพลังด้วยไอเดีย ”
2. สูตรฟื้นฟู “ เรียนรู้จากสิ่งพลาดพลั้ง พลิกฟื้น แบรนด์อีกครั้ง ด้วยพลัง ไอเดีย ”
3. สูตรมัดใจ “มัดใจผู้บริโภค เพื่อความรุ่งโรจน์ของแบรนด์ ”
4. สูตรประหยัด “ ไอเดียสะพัด ผลที่ได้รับคุ้มการลงทุน ”
โดยรายละเอียดของสูตรเพิ่มพลังทางความคิดแต่ละสูตรมีดังต่อไปนี้
Accelerate Formula สูตรเร่งพลัง “แบรนด์ก้าวหน้าไม่ยั้ง เพิ่มพลังด้วยไอเดีย”
หลังจากที่แต่ละแบรนด์ได้ผ่านวิกฤติต่างๆมาในปี 2552 หลายแบรนด์สามารถเริ่มต้นปี 2553 ใหม่นี้ได้อย่างสวยงาม ในขณะที่อีกหลายแบรนด์ยังคงมีบาดแผลหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตามไม่ว่าความท้าทายทางธุรกิจจะหนักหนาขนาดไหน สิ่งที่แบรนด์คุณต้องการมากที่สุด คือการเติมเชื้อเพลิงไอเดีย เพื่อเร่งพลังให้แรงที่สุด ในการเริ่มต้นศักราชใหม่นี้
9 พลังความคิดเพื่อเร่งความก้าวหน้าของแบรนด์ บนเส้นทางธุรกิจ
Think Big “เล็ก ๆไม่ ใหญ่ๆดัง” สร้างความโดดเด่นให้แก่แบรนด์ด้วยการนำเสนอแบรนด์ให้ดูยิ่งใหญ่ตระการตา เพื่อเสริมพลังการรับรู้แก่แบรนด์
Think Different “คิดแตกต่างและสร้างตัวตนที่ชัดเจน” เพื่อเร่งพลังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่เหนือกว่า
Think Provocative “คิดยั่วยวน ยั่วยุอารมณ์” เมื่อผู้บริโภคถูกกระตุ้นความสนใจด้วยสื่อที่แปลกใหม่เร้าอารมณ์ จะทำให้ผู้บริโภคสนใจแบรนด์ของเรามากขึ้น และเกิดการบอกต่อที่แพร่กระจายไปยังกลุ่มคนที่กว้างขึ้น
Think Engagement “คิดเชื้อเชิญเสริมประสบการณ์” เชิญชวนให้ผู้บริโภคมาร่วมสัมผัสและมีประสบการณ์โดยตรงร่วมกับแบรนด์ เพื่อจูงใจให้เกิดการทดลองใช้และตัดสินใจซื้อในที่สุด
Think Impulse “ คิดกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อ ” กระตุกความสนใจของผู้บริโภคอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยการกระตุ้น ณ จุดขาย ซึ่งผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้ามาก่อน
Think Sentimental Value “คิดสร้างมูลค่าทางใจ” สร้างบทบาท และช่วงเวลาใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคสามารถคิดถึงแบรนด์หนึ่งๆ ได้อย่างชัดเจน
Think Torment “คิดทรมานจิตใจผู้บริโภค” ไม่ใช่การทรมานผู้บริโภคด้วยการเสนอสิ่งที่ไม่ดีแก่พวกเขา แต่รู้จักเล่นตัวด้วยกระบวนการที่แยบยล เพิ่มคุณค่าของสินค้าหรือแบรนด์ด้วยคติว่า “ยิ่งได้ยากยิ่งอยากได้”
Think Excitement “คิดสรรสร้างความตื่นเต้น” ความสนุกและความตื่นเต้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้แบรนด์มีสีสันไม่ดูน่าเบื่อและเกิด Brand dynamism ที่ช่วยให้แบรนด์ดูมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
Think Generosity “คิดดี ทำดี” เป็นแบรนด์ใจดี จริงใจ พร้อมที่จะให้และช่วยเหลือผู้บริโภค เพื่อความผูกพันอันดีกับกลุ่มเป้าหมาย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ในสายตาของสาธารณชนในระยะยาว
Revitalizing Formula สูตรฟื้นฟู “เรียนรู้จากสิ่งพลาดพลั้ง พลิกฟื้น แบรนด์อีกครั้ง ด้วยพลัง ไอเดีย”
ปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา ไม่ว่าแบรนด์ขนาดใด เป็นผู้นำหรือผู้ตามต่างก็ต้องมีช่วงเวลาที่ประสบกับปัญหาได้เหมือนกัน มุมมองต่อปัญหาและพลังไอเดียจะช่วยให้แบรนด์เอาตัวรอด พลิกวิกฤติ ตลอดจนสร้างโอกาสให้แบรนด์เติบโตต่อไปอย่างแข็งแรง
7 เคล็ดลับกับการพลิกสถานการณ์วิกฤติให้กับแบรนด์
1. รู้จักสร้างเสน่ห์จากตัวตนที่มีอยู่
แบรนด์ไม่ควรปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของตนเอง การเปลี่ยนแปลงตัวตนไปตามกระแสอาจทำให้แบรนด์ไม่เป็นที่ยอมรับเพราะผู้บริโภคมักมีภาพของแบรนด์หนึ่งๆ อยู่ในใจโดยเฉพาะแบรนด์ที่เกิดมานานแล้ว ดังนั้น จึงควรรักษาตัวตนของแบรนด์ไว้ แต่สามารถเลือกที่จะสื่อสารในประเด็นที่มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมได้
2. เก่งแบบรอบคอบด้วย Core Competency ของตน
แบรนด์ไม่ควรหลงใหลไปกับความสำเร็จจนละเลย Core Competency ที่ช่วยสร้างความเข้มแข็ง และความแตกต่างให้กับแบรนด์ การพัฒนาแบรนด์จาก Core Competency จะช่วยทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง
3. ยอมรับในขอบเขตที่แบรนด์หนึ่งๆ จะสามารถขยายตัวไปได้
การทำ Brand Extension เพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ แต่ความหมายของแบรนด์มีขอบเขตที่จำกัด ดังนั้น การต่อยอดแบรนด์สู่สินค้าใหม่ควรต้องมั่นใจว่าผู้บริโภคเห็นความเชื่อมโยงและเห็นข้อดีของการมีแบรนด์ใน Category นั้นๆ
4. คิดอย่างรับผิดชอบ และแสดงออกอย่างให้เกียรติ
ผู้บริโภคมักชื่นชมแบรนด์ที่จริงใจ ปฏิบัติกับผู้บริโภคด้วยความรับผิดชอบและให้เกียรติกับผู้บริโภค โดยเฉพาะในกรณีที่แบรนด์เกิดวิกฤติที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจผู้บริโภค ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียชื่อเสียงของแบรนด์
5. เป็นเพื่อนที่มีสีสัน เชื่อมสัมพันธ์กับผู้บริโภคทั้งอารมณ์และเหตุผล
ความมีชีวิตชีวาของแบรนด์สร้างได้ด้วย Character ที่สนุกสนาน และบทบาทของแบรนด์สามารถเชื่อมสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้ทั้งมิติของอารมณ์และเหตุผล
6. ตอบโต้กับคู่แข่งอย่างมีไหวพริบ
แบรนด์ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎที่คู่แข่งได้สร้างขึ้น การโต้ตอบกับคู่แข่งเพื่อชิงความได้เปรียบสามารถสะท้อนถึงบุคลิกของแบรนด์ที่อาจสร้างความชื่นชมหรือความภาคภูมิใจให้กับผู้บริโภคที่ใช้แบรนด์นั้นๆ อยู่ด้วย
7. รู้จักสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคอยากกลับมาผูกสัมพันธ์กับแบรนด์
แบรนด์จำเป็นต้องปรับตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยทั้งเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป การสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นประโยชน์ในการเชื่อมโยง หรือผูกสัมพันธ์กับแบรนด์หนึ่งอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมยังคงจำเป็นเสมอ
Heart Working Formula สูตรมัดใจ “มัดใจผู้บริโภค เพื่อความรุ่งโรจน์ของแบรนด์”
ในการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จนั้นอาจประกอบขึ้นจากหลากหลายปัจจัย สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดให้ชัดเจน และเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปพัฒนาสินค้า บริการ รวมถึงการสื่อสารของแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม การเข้าใจถึงตัวตนและความต้องการของผู้บริโภคคือข้อมูลสำคัญ ที่เปรียบดั่งขุมพลังจะช่วยในการขับเคลื่อนแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จและก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
บริษัท Y&Rจึงได้มีการทำวิจัยเพื่อเข้าใจถึงตัวตนและความต้องการของผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 427 คน อายุระหว่าง 18-50 ปี ในช่วงปลายปี 2009 ที่ผ่านมา โดยให้ผู้ตอบแบบสอบถามบอกเล่าถึงความเป็นตัวตนของเขาในปัจจุบันและตัวตนที่เขาอยากจะเป็นในอนาคต ด้วยการเลือกคุณลักษณะและภาพลักษณ์จำนวน 60 หัวข้อที่ตรงกับความคิดความต้องการของพวกเขาและนำมาถอดรหัสความเป็นตัวตนที่เขาเป็น (Self Concept) และตัวตนที่เขาอยากจะเป็นในอนาคต (Ideal Concept) ผ่านทางกรอบความคิดของเครื่องมือที่ใช้สร้างแบรนด์ของ Y&R ซึ่งเราเรียกว่า Y&Rchetypes.
Y&Rchetypes ถูกพัฒนาขึ้นมาจากทฤษฏีเรื่อง ภาพต้นแบบ (Archetype) ของ Carl Gustav Jung ที่เชื่อว่า ภาพต้นแบบซึ่งมาจากจริตไร้สำนึกร่วมของมนุษย์ จะส่งผลต่อพฤติกรรมและเป้าหมายของผู้บริโภค
Y&Rchetypes ได้แบ่ง ภาพต้นแบบของมนุษย์ออกเป็น 13 ลักษณะได้แก่ 1. วีรบุรุษ (Hero) 2. นักรบ (Warrior) 3. นักปราชญ์ (sage) 4. นักปกครอง (Patriarch) 5. ผู้พิทักษ์ ( Guardian) 6. ผู้สร้างความประหลาดใจ (Jester) 7.นักมายากล (Magician) 8.นักค้นหา ( Explorer) 9.นักรัก(Lover) 10.นางฟ้า (Enchantress) 11.มารดา (Earth Mother) 12.สาวบริสุทธิ์ (Maiden) 13. เพื่อนสนิท (Companion)
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า 72 % ของกลุ่มเป้าหมายที่ทำการศึกษา มีความเป็นเพื่อน (Companion) และ 67 % มีความเป็นนักผจญภัย (Explorer) เพราะคนกรุงเทพประมาณ 45% มองว่าพวกเขาเป็นมิตร 42% เป็นคนง่ายๆสบายๆ 41% รักอิสระเสรี 30% ชอบเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเพื่อนที่ดี (Companion) และนักผจญภัย (Explorer) ที่มีอยู่ในตัวพวกเขา
นอกจากนี้ยังพบว่า คนแต่ละเพศ แต่ละวัยมีมุมมองต่อตัวตนที่พวกเขาเป็น รวมทั้งตัวตนที่พวกเขาอยากจะเป็นแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสรุปเป็นเทคนิคไม่ลับ 5 ข้อ ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ หรือประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและบริการ ตลอดจนการสื่อสารของแบรนด์ได้อย่างตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
1. ครองใจคนส่วนใหญ่ ด้วยแรงกระตุ้นใจ 5 ประการ
แรงกระตุ้นสำคัญที่สามารถมัดใจชาวกรุงเทพส่วนใหญ่ ได้แก่
- ชีวิตที่อิสระเสรี อย่างนักผจญภัย (Explorer)
- การต้องการความรักจากเพื่อนพ้องและคนรอบข้าง (Companion)
- ความมั่นใจที่ผลักดันสู่ความสำเร็จ อย่างนักรบ (Warrior)
- วิสัยทัศน์ที่โดดเด่นเช่น วีรบุรุษ (Hero)
- ความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างนักปกครอง (Patriarch)
2. ดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นลูกผู้ชายมาใช้ในการสื่อสาร
การใช้ชีวิตอย่างมีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย ความฉลาดมีไหวพริบและภาพลักษณ์ที่ดูดี คือสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องการ สิ่งเหล่านี้ นำมาต่อยอดเป็นไอเดียในการสื่อสารกับกลุ่มผู้ชายได้เป็นอย่างดี
3. ความกล้าความมั่นใจที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถก้าวสู่ความสำเร็จ
การเสริมสร้างความกล้าความมั่นใจ ให้ผู้หญิงสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งไว้ คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาสินค้า บริการและการสื่อสารในกลุ่มผู้หญิงทุกช่วงวัย อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ต้องไม่ทำให้พวกเธอแปลกแยกและขัดกับความเป็นเพื่อนที่แสนดี (Companion) และเป็นที่รักของคนรอบข้าง
4. มัดใจคนรุ่นใหม่ด้วยการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยพลัง ความหวังและความสำเร็จ
เยาวชนรุ่นใหม่เชื่อมั่นในศักยภาพความคิดของตนและการเรียนรู้ต่อยอดที่ช่วยให้พวกเขาก้าวสู่ความสำเร็จได้ การให้กำลังใจและศรัทธาในพลังของพวกเขาจะเป็นแรงกระตุ้นใจที่สำคัญในการเข้าถึงเยาวชนกลุ่มนี้
5. ให้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของผู้ใหญ่ใกล้เกษียณ
ผู้ใหญ่ใกล้เกษียณส่วนใหญ่ไม่ต้องการใช้ชีวิตที่ยุ่งยาก และต้องการเป็นที่เคารพรักของคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ยังคงรักที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ และยังคงดูแลตัวเองเป็นอย่างดี การจะมัดใจคนกลุ่มนี้ จึงควรต้องคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้อยู่เสมอ
Cost-Saving Formula สูตรประหยัด “แม้เงินจะจำกัด แต่ผลที่ได้รับคุ้มการลงทุน”
ความสำเร็จของการสร้างแบรนด์อาจไม่ขึ้นอยู่กับงบประมาณเพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้วความคิดสร้างสรรค์ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญหลักที่จะนำพาแบรนด์ของคุณให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ Energy ขอนำเสนอ Instant-Action Tips เคล็ดลับในการสร้างแบรนด์ที่มีงบประมาณไม่มากแต่ได้ผลลัพธ์คุ้มค่าเกินความคาดหมาย ดังต่อไปนี้
1. Be Relevance: ยิ่งรู้ใจผู้บริโภคมากเท่าไหร่ ยิ่งสื่อสารได้ตรงใจมากเท่านั้น ทุกเม็ดเงินที่ลงทุนไปก็ยิ่งคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
2. Be Where Your Audience Is: ประหยัดกว่าถ้ารู้ว่าควรจะพูดกับผู้บริโภคที่ไหนแล้วโดนใจ
3. Good Timing: การสื่อสารจะไม่มีความหมายถ้าคุณพูดกับผู้บริโภคอย่างผิดเวลา
4. Call to Action: Powerful Message สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ทุกบาทที่ลงทุนไป
5. Packaging Makes Creativity: เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ซักนิด Packaging ก็กลายเป็น Free Media ที่มีประสิทธิภาพได้
6. Hit’em at All Level: ถ้าเงินน้อยไม่ต้องทำใหญ่ แต่เน้นความคิดสร้างสรรค์และเลือกสื่อสารให้โดนทุกที่ที่มีความหมายกับผู้บริโภค
7. Let Your Consumer Experience It: อีกหนึ่งทางลัดในการสร้างแบรนด์คือการให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์และสินค้าของเรา
8. Twist the Norm: คิดนอกกรอบ ทำให้ Talk ในสังคม
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ
Vice President, Director of Idea Strategy & Brand Consultant ENERGY -
A Division of Young & Rubicam Brands Strategic Brand Communications Consultants
Tel : +662.658.0999 ext 550
Fax : +662.658.0995