กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า ธารารมณ์ทำยอดขายได้ 700 ล้านบาท ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว คิดเป็นยอดขายประมาณ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ของเป้าขาย ซึ่งถือเป็นสัดส่วนปกติ โดยยอดขายครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ โครงการใหม่ที่เปิดตัวเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมาคือ โครงการพาร์คเวย์ อเวนิว เป็นโครงการแนวคิดใหม่ที่บ้านเดี่ยว 3 ชั้น สามารถปรับให้เป็น Business Home ได้ ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า ธารารมณ์พัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องได้อย่างมั่นคงเหมือนเดิม เพราะสภาพคล่องยังคงดีอยู่ วงเงินสำหรับการพัฒนาโครงการยังมีเพียงพอ D/E อยู่ที่ 0.5 นอกจากนี้ Post Finance ที่มีคุณภาพ ทั้งส่วนของผู้รับเหมา และคู่ค้า ธารารมณ์จ่ายตรงเวลา สม่ำเสมอ จากการดำเนินนโยบายของธารารมณ์ในสถานการณ์เช่นนี้ คาดว่า จากนี้ไปจนถึงสิ้นปี อัตราการเจริญเติบโตของยอดขายจะมีไม่มากนัก และจะสามารถทำยอดขายได้เท่ากับปีที่แล้วคือ 1,900 ล้านบาท ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้บริโภคคือ อัตราดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน และจากสภาพปัจจุบัน สามารถคาดการณ์ได้ว่า สถานการณ์จะนิ่งขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยคงจะไม่สูงไปกว่านี้มากนัก เงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องคอยติดตามดูโดยเปรียบเทียบเดือนต่อเดือน ราคาน้ำมันจะนิ่งขึ้น ส่วนการเมืองที่ไม่แน่นอนนั้น มีผลกระทบทางอ้อมคือ การเมืองไม่มั่นคง ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี มีผลต่อรายได้ แต่จากการที่ผู้ประกอบการทั้งหลาย ต่างก็มีข้อเสนอที่เตรียมไว้ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อที่ตัดสินใจก่อนจะได้รับประโยชน์มากกว่าผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อทีหลัง จากปัจจัยต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลให้กำลังซื้อกลับเข้ามา การตัดสินใจซื้อจะมากขึ้น แต่จะไม่รวดเร็วนัก จะค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเรื่อง Over Supply ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต่างดำเนินการธุรกิจอย่างระมัดระวังกันอยู่แล้ว สำหรับธารารมณ์ ยังคงใช้ Business Model เดิมคือ ปิรามิด ประกอบกับการบริหารกระแสเงินสด ระบบการควบคุมสินค้า (Inventory Control) ในแง่ของการลงทุนในโครงการที่มีอยู่นั้น สามารถสร้างรายได้ได้พอเพียง จึงไม่มีแรงกดดันที่เราจะต้องรีบเปิดโครงการใหม่ ด้านการตลาด นายณัฐพล มัททวกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ธารารมณ์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค คือ 1. ตามใจ เนื่องจากลูกค้าคือบุคคลสำคัญ ธารารมณ์จึงมีทางเลือกของสินค้าให้แก่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุบางส่วนได้ 2. รู้ใจ ธารารมณ์มีการทำวิจัยผู้บริโภคก่อนเสมอ เช่น พื้นที่ที่ไปพัฒนา จะไม่ใช่ลักษณะของ Product-Oriented ที่นำแบบบ้านเดียวไปลงในทุกพื้นที่ แต่มีการทำวิจัยในบริเวณที่เราจะไป หรือวัสดุที่เลือกใช้ ธารารมณ์จะมีทางเลือกที่ดีเพื่อลูกค้าจะได้ไม่ต้องทุบ รื้อถอนให้สิ้นเปลือง รวมทั้งการสำรวจพฤติกรรมลูกค้าว่ามีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น ความต้องการเป็นผู้ประกอบการ SME เราได้ออกแบบบ้านให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้านได้ 3. ไว้ใจ เรามีความต่อเนื่องในการพัฒนาโครงการ เช่น โครงการที่เปิดขายอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น ธารารมณ์ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ -โครงการเนเบอร์โฮม วัชรพล ดำเนินการสร้างสวน Main Park ส่วนสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์ -โครงการพาร์คเวย์ ชาเล่ต์ รามคำแหง สวน Valley Park, Stream Park, Flower Park และสาธารณูปโภคครบสมบูรณ์ สนามเทนนิส และโรงเรียนดนตรี KPN ซึ่งอยู่ในส่วนของ Sports & Spa เสร็จเรียบร้อย และเปิดให้บริการแล้ว - โครงการพรอเมนาดโฮม ธนบุรี ถนนพระราม 2 สวน Parade Park และ Orchard Park เสร็จสมบูรณ์ ขณะนี้กำลังปรับปรุง Landscape -โครงการการ์เด้น สวีท ดิ อินดี้ โฮม รามคำแหง Main Park เสร็จสมบูรณ์ สวนระหว่างอาคารเสร็จเรียบร้อยแล้ว 2 จุด 4. พอใจ โดยการจัดกิจกรรมสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 5. ถูกใจ มีทีมบริการลูกค้าที่เพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า 6. จริงใจ ทีมขายทำหน้าที่ไม่เฉพาะการขาย แต่จะเป็นที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า เสมือนลูกค้าเป็นญาติ 7. มั่นใจ โดยการหาพันธมิตรที่ดี หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้สื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง และผสมผสาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ 8. ใส่ใจ คือนโยบายของธารารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเดิมหรือลูกค้าคาดหมายที่เรากำลังเสนอสินค้าให้นายวสันต์ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยระยะเวลา ต้องมองไปข้างหน้าระยะยาว และขณะนี้ จากการเปลี่ยนแปลงเรื่อง Infrastructure, Mega Project, ทางด่วน หรือ Mass Transit ต่างๆมากมาย จะส่งผลให้ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง เช่น บางทำเลอาจเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น บางทำเลความน่าสนใจอาจหายไป จะทำให้เกิดการพัฒนาบ้านเดี่ยว โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเกาะติดกับ Mass Transit อย่างเดียว แต่จะต้องมีส่วนอื่นเพิ่มด้วย ส่วนของกฎหมายใหม่ เช่น ผังเมือง สบล. อาจจะทำให้สินค้าหดตัวหายไป เช่น คอนโดราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท หรือ ทาวน์เฮาส์ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ในทางกลับกัน บ้านแฝดจะเพิ่มขึ้น เพราะการจัดให้ บ้านแฝดคือบ้านเดี่ยว นายวสันต์ กล่าวปิดท้ายด้วยเรื่องสัดส่วนการดาวน์บ้านว่า บ้านดาวน์จะมีมากขึ้น บ้านสร้างเสร็จจะน้อยลง อันเนื่องมาจากนโยบายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งธารารมณ์เองเป็นผู้ประกอบการที่สนับสนุนการออมเงินดาวน์เพื่อ “ดาวน์มาก กู้น้อย” ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของทั้งผู้ซื้อ ผู้ประกอบการ และ ผู้ให้กู้ ในเวลาเดียวกัน รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ จิดาภา ประมวลทรัพย์, นันทพร บุญ-หลง, บมจ.ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด โทร. 0-2319-7557, 0-2318-0083, 0-2319-0833 โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 33, 0-1817-7153, 0-1851-2088 โทรสาร 0-2319-0858 โทรสาร0-2693-6920 E-mail: [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net