บทสัมภาษณ์ ใหม่-ภวัติ พนังคศิริ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่จะเจาะลึกเข้าไปถึงแก่นแท้ของจิตใจมนุษย์ “นาคปรก”

ข่าวบันเทิง Thursday February 18, 2010 14:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม Q จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ “นาคปรก” กระบวนการเริ่มต้นในโปรเจ็คต์นี้ เริ่มจากตัวผมเอง ที่เราได้รู้สึกประทับใจกับการที่ได้ไปบวชแล้วรู้สึกว่า ศาสนาเป็นที่ๆมีความสุข วัดเป็นที่ทำให้ตัวเราเองครอบครัวมีความสุข เลยหยิบเรื่องนี้ลองมาตั้งประเด็นแล้วก็ชวนน้องๆเข้ามาคุย คืออยากได้มุมมองด้านศาสนาในหลายๆมุม เหมือนอย่างที่บอกไปว่าศาสนาพูด 2 อย่าง คือความดีกับความชั่ว ก็เลยอยากให้มี 2 มุม ให้คนที่ศรัทธาศาสนาเป็นคนเขียนคนเดียว เราก็จะเห็นด้านเดียว ก็เลยไปเอาน้องอีกคนนึง ซึ่งค่อนข้างจะอคติกับศาสนาเข้ามา บอกกับผมเลยว่า ผมจะไม่ไหว้พระ ถ้าเกิดว่าผมไม่รู้สึกศรัทธา พอเริ่มเป็นสองเป็นสามแล้วก็เป็นสี่ มีทั้งคนที่ไปบวชมาซึ่งศรัทธาศาสนาเป็นลูกศิษย์ของพระ ในหนังในตัวบทมันก็เลยเริ่มสนุกขึ้น เพราะมี 2 ด้านทั้งความดีกับความชั่วอยู่ในตัวบท บทมันก็เลยสนุก คนนั้นเขียนมา อีกคนนึงแย้งมา มันก็เลย balance อยู่ตรงจุดพอดี ไม่ได้มากไปจนที่เรียกว่าชั่ว แล้วก็ไม่ได้ดีไปจนเรียกว่า ดีไปเลย มีอยู่ตรงกลางพอดี ก็เลยเอาบทไปเสนอพี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้ว) พี่ปรัชก็โอเค เป็นอันว่าได้เริ่มต้นทำ Q ทำไมถึงเลือกหยิบเอาศาสนามานำเสนอในมุมมองที่ฉีกไปจากเดิมขนาดนี้ หลังจากที่ผมได้ไปบวช ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ศาสนาในมุมที่ลึกและกว้างขึ้น เลยคิดว่าลองทำเรื่องที่เกี่ยวกับพระมาสักเรื่องมั้ย ทำยังไงให้รู้สึกว่าเรื่องราวมันเข้มข้น สนุก เรารู้ว่าการที่เล่นกับศาสนาเล่นกับพระ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะ sensitive แล้วก็ล่อแหลมมาก การที่จะเอาพระมาเล่นหรือว่ามาล้อเล่นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ยังไงก็ต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์หรือโดนไม่ผ่าน sensor แน่นอน ก็เลยคุยกันว่าเราก็คุยกันจริงจังเลย คุยกับทีมเขียนบท พอคุยกันอย่างจริงจัง พูดในสิ่งที่ถูกที่ต้อง เขาก็น่าจะรู้ว่าเรากำลังนำเสนอในเรื่องที่เป็นจริงเป็นจัง แล้วในเรื่องที่ถูกต้องที่เกี่ยวกับพระและก็ศาสนา แล้วก็มาหาประเด็นว่าเราจะคุยกันเรื่องอะไร คือศาสนา มีบาปมีบุญ ทุกคนจะพูดแต่เรื่องบุญ ไม่พูดเรื่องบาป แต่หนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องบาป พูดถึงเรื่องชั่ว พูดถึงเรื่องกิเลส พูดถึงเรื่องตัณหา พูดถึงเรื่องทุกอย่างที่เป็นด้านมืดที่ตรงกันข้ามกับสิ่งดีๆที่รู้ว่าศาสนาสอนเรา ศาสนาสอนให้รู้จักความดี แล้วก็สอนเราให้รู้จักความชั่ว หนังเรื่องนี้จะบอกว่าคุณควรเชื่อและเลือกทำในสิ่งไหน Q กังวลมั้ยกับการทำหนังที่เกี่ยวศาสนาเป็นเรื่องที่ค่อนข้าง SENSITIVE มากสำหรับคนไทย ยอมรับว่าตอนที่ไปคุย ก็คิดอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้แรง ยังไม่รู้ว่าภาพจะออกมายังไงด้วยซ้ำไป แต่เราก็ดีใจที่ทางผู้ใหญ่ ทางพี่ปรัชให้โอกาสแล้วก็ไม่ทราบว่าพี่ปรัชมองเห็นตรงไหน เพราะว่าเรายังไม่เห็นภาพอะไรเลย มีแต่เปเปอร์ มีแต่เรื่องเข้าไปนำเสนอ ภาพที่ออกมามันแรงแน่นอน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังมันจะออกมายังไง เพราะพี่ปรัชยังเคยพูดเลยว่า ไม่รู้ว่ามันจะออกมาแรงแค่ไหน แต่ก็ยังงงอยู่ตอนนี้เหมือนกันว่าพี่ปรัชเค้าก็ไฟเขียว หลังจากที่พี่ปรัชได้อ่านแล้ว พี่ปรัชอาจจะรู้ถึงจุดประสงค์ ประเด็นของเรื่อง ที่ต้องการนำเสนอจริง โดยที่ไม่เห็นภาพด้วยซ้ำ โดยที่ยังคุยกันอยู่ว่า หนังมันแรง แรงนะใหม่ จะไหวมั้ย ลองคุมดีๆ ลองเล่าเรื่องดีๆ เขียนบทไปให้พี่ปรัชหลายครั้งมาก พี่ปรัชแก้ไขหลายครั้งเหมือนกันกว่าจะลงตัว นี่ก็ตรงกลางที่สุดแล้ว Q นาคปรกถือว่ามีการนำเสนอที่ทั้งฉีกและแรงกว่าภาพยนตร์ไทยทุกเรื่องที่เคยมีมาหรือเปล่า ถามว่าแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆมั้ย ผมว่าแตกต่างจากตลาดที่มีอยู่ตอนนี้ทั้งหมด มันฉีกออกมาเลย ค่อนข้างมั่นใจว่า นาคปรกมันต่าง ที่ต่างชัดๆคือ คือเราพูดถึงหนังนัวร์ เราพูดถึงด้านมืด เราพูดถึงความชั่ว เราพูดถึงสิ่งไม่ดีเป็นหลัก ตัวละครทุกตัวมีด้านมืดของตัวเอง สิ่งที่แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นก็คือเรื่องรายละเอียดของตัวละครที่เราพูดถึงในด้านมืด แต่เราไม่ได้ทำให้คนมองศาสนาลบ เนื้อในถ้าได้ไปดูจะรู้ว่าเราทำให้เห็นเลยว่าศาสนาส่งผลต่อจิตใจมนุษย์ขนาดไหน Q ชื่อ “นาคปรก” มีที่มาและมีความหมายอย่างไร เริ่มมาจากความชอบส่วนตัว เริ่มมาจากการที่ชอบพระปางวันเสาร์ ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้เกิดวันเสาร์ แต่ชอบพระปางวันเสาร์เพราะว่าดูมีรายละเอียดที่สวยงาม มีพญานาคขึ้นมาปรก เวลาดูพระทั้งหมด ก็จะไปสะดุดอยู่ที่พระปางนาคปรกทุกครั้ง เพราะฉะนั้นพระนาคปรกตอบโจทย์เรามากที่สุด คือมีองค์พระและก็มีงู งูหมายถึงอสรพิษ ถ้าจะมองอีกด้านคือความชั่วร้าย ก็จะมี 2 อย่างให้เราเห็น ตอบโจทย์เรามากที่สุด อาการของการปกป้อง ปรก เราตีความเป็นปกป้องคุ้มครอง มีอะไรซ้อนอยู่ บางอย่างที่คำว่า ปรกกับปก พ้องเสียง ซึ่งในเรื่องเนี่ย เราเอาคำนี้มาเล่นด้วยปกป้องคุ้มครองกับพระนาคปรก ปกปิด ปิดบังซึ่งมันเกี่ยวกับนาคปรก ศาสนาเปรียบเงินเป็นงู แล้วเรื่องนี้เราพูดถึงเงิน ซึ่งเป็นตัวสร้างกิเลสตัณหาให้กับมนุษย์เพราะฉะนั้นพระปางนากปรกก็ตอบโจทย์เราอีก ก็เลยเอาชื่อนาคปรกมาตั้งเป็นชื่อเรื่องเลย Q พูดเรื่องราวของ “นาคปรก” เรื่องราวของ นาคปรก เป็นเรื่องราวของโจรสามคนที่ปล้นเงินแล้วก็เอาไปเก็บไว้ในวัดแห่งหนึ่ง แล้วก็อยู่มาวันหนึ่งเค้าก็กลับไปเอาเงินก้อนนั้น ปรากฎว่าจุดตำแหน่งหรือที่เอาเงินไปฝังไว้ กลายเป็นโบถส์สร้างทับอยู่ ก็จะต้องหาวิธี จะทำยังไงก็ได้ที่จะได้เงินที่โบถส์สร้างทับ ซึ่งจริงๆมีมากมายหลากหลายวิธี แต่วิธีการนึงที่โจทย์สิ้นคิดพวกนี้คิดคือ การบวชอยู่ในวัดซะเลย เพื่อที่จะหาทางขุดเอาเงินที่อยู่ใต้โบถส์ เราไม่เรียกว่าบวช แต่เรียกว่า ปล้นผ้าเหลือง เพื่อที่จะให้ได้อยู่ในวัดนี้ หลังจากนั้นโจรสามคนก็อยู่ในวัดเพื่อที่จะหาทางที่จะขุดเงินที่อยู่ใต้โบถส์ แล้วก็สุดท้าย จะเจอหรือไม่เจอยังไง มันมีเหตุการณ์หลายๆอย่างๆ Q การดำเนินเรื่องและภาพรวมของนาคปรกจะออกมาในทิศทางไหน ความสนุกของเรื่องนาคปรกอยู่ที่ว่าเราจะต้องคอยลุ้น เป็นหนังเรื่องที่เราจะต้องลุ้นไปกับคนเลว เราจะต้องลุ้นว่าไอ้โจรสามตัวมันจะอยู่ในวัดนี้ได้มั้ย เราจะต้องลุ้นว่าตำรวจจะจับมันได้หรือเปล่า หรือพระรูปอื่นๆจะรู้มั้ยว่ามันเป็นโจร เป็นหนังที่เราจะต้องลุ้นช่วยตัวร้าย ซึ่งผมว่ามันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงของหนังเรื่องนี้ เราจะมีตัวละครหนึ่งตัวที่ร้ายมากแต่เราจะต้องคอยลุ้นว่ามันจะรอดมั้ย มันจะหนีกับตำรวจได้มั้ย เรื่องราวมันค่อนข้างจะเข้มข้นสนุกน่าติดตาม ด้วยการแสดงของนักแสดงทั้งหมดในเรื่องนี้ ผมว่ามันไหลลื่นไปทางเดียวกันหมดเลย มันก็เลยรู้สึกว่า เรื่องทั้งหมดมันทำให้ชวนน่าติดตามไปด้วย ลุ้นไปกับเค้าด้วย Q พูดถึงการรวบรวมเอานักแสดงระดับคุณภาพมาถ่ายทอดเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ มาถึงเรื่องของตัวละคร ค่อนข้างที่จะสาหัสเหมือนกันการหานักแสดง ด้วยคาแรคเตอร์ของในเรื่องค่อนข้างที่จะแรงและหนักพอสมควร เราก็เลยต้องเสียเวลาพอสมควร คนแรกที่ได้คือ เร อย่างเร คือทำงานกับเขามาตั้งแต่ทำรายการทีวี ก็คือค่อนข้างที่จะสนิทกับเขาอยู่แล้ว แล้วก็รู้ว่า เร จะเล่นอะไรให้เราได้ หรือว่าถ้ามาเล่นให้เราแล้วหนังที่เราต้องการมันจะเป็นยังไง เรื่องนาคปรก ที่เอาเรมาเพราะ หนึ่งคือ ความที่เขาเป็นเด็กลูกครึ่ง ความที่เขานับถือคริสต์ ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา การที่ทำให้ตัวละครตัวนี้รู้สึกไม่ศรัทธากับศาสนาพุทธค่อนข้างที่จะดึงมาง่ายหน่อย แต่นอกเหนือจากนั้น การแสดงของเขากับเรื่องนี้ ผมว่าเขาให้อะไรผมมากกว่าที่ผมตั้งเป้าไว้ในหลายๆซีน ซึ่งบางทีก็ เออ เร เรื่องนี้แกให้ขนาดนี้เลยเหรอ กับซีนนี้ ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะทำ เขาก็ทำให้ Q ตัว เร เองก็ถึงกับเคยให้สัมถาษณ์ว่าบทบาท “สิงห์” ในนาคปรกเป็นบทที่แรงที่สุดตั้งแต่เล่นมา เรื่องนาคปรก กับ เร แมคโดนัลด์ ผมว่าเป็นบทที่น่าจะโดดเด่น น่าจะสำคัญ น่าจะดีเทลมากที่สุด เท่าที่เขาเคยเล่นหนังมา แล้วเป็นบทที่น่าสนใจ เพราะว่าอย่างตอนชวนเขามาคุยบทกัน เขาก็ตอบตกลงในครั้งแรกเลย เรเล่นเป็นหนึ่งในสามโจรที่ขโมยเงินที่ไปปล้นกันมาแล้วเอามาฝังไว้ในวัด เป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิดน้อยที่สุดแล้ว ไม่ค่อยคำนึง ไม่นับถือศาสนา ชีวิตคือเงินอย่างเดียว เค้าไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด เค้าไม่รู้ว่าศาสนาคืออะไรด้วยซ้ำไป Q แล้วกับการได้ “เต๋า-สมชาย เข็มกลัด” มาสวมบทหัวโจกของแก๊งโจรในเรื่องนี้ สำหรับ สมชาย เข็มกลัด ที่รับบทเป็น ป่าน เราก็พยายามหาอยู่ว่า ใครที่น่าที่จะมาเล่นเป็นตัวละครตัวนี้ได้ คือตัวละครตัวนี้มีทั้งดีและไม่ดี จะเรียกว่าเป็นตัวละครที่ดีก็ไม่ใช่ จะร้ายก็ไม่เชิง จะเกือบดีก็ไม่ใช่ จะเกือบร้ายก็ไม่เชิง คือเป็นตัวละครที่สับสนอยู่ว่าทางเลือกของตัวเองว่า ตัวเองจะเลือกไปทางไหน เป็นตัวละครที่อยู่ระหว่างความดีกับความชั่วของเรื่อง Q เต๋า ได้บอกกับเราหรือเปล่าทำไมถึงตัดสินใจเล่นเรื่องนี้ คือมีพี่ๆ เขาแนะนำมาว่าลองให้เต๋าอ่านบทดูมั้ย เต๋าก็ตอบตกลงเลย ด้วยเหตุผลอย่างแรกคือชื่อ นาคปรก เพราะว่าเต๋าเกิดวันเสาร์ แล้วปรากฏว่ามารู้ทีหลังว่าทั้งหมด เกิดวันเสาร์หมดเลย ทั้ง เร ทั้ง เต้ ทั้ง เต๋า มันวันเสาร์หมดเลย ก็เลย เอ้อ แปลกดีเหมือนกัน แล้วก็มาคุยกัน พอมาคุย เค้าก็ชอบ ก็เลยตอบตกลงเล่น ประทับใจหลายๆอย่าง Q เห็นว่ามีซีนหนึ่งที่เต๋า สมชาย ต้องเทศน์ได้ถึงรสพระธรรม แล้วนักแสดงที่เข้าฉากนั้นต่างร้องไห้จริงๆ กันเลยทีเดียว จริงๆ เต๋าก็มีหลายซีนที่ต้องใช้พลังทางการแสดงสูงมาก แต่ที่สุดก็คงเป็นซีนเทศน์ เรารู้สึกว่า ตัวละครตัวนี้ พูดออกมาจากใจจริงๆ เต๋าเองเค้าก็เล่นให้เราได้รู้สึกว่าเป็นความรู้สึกข้างในของเขาจริงๆ เลยรู้สึกชอบซีนนี้ Extra ที่มาเล่นด้วย ร้องไห้กันเป็นแถบ ซึ่งบทค่อนข้างยาวเป็นหน้า แต่สมชายท่องบทในซีนนี้มาได้ดีมาก เราก็ยิงยาวเหมือนกัน ก็ยอมเปลืองฟีล์มเหมือนกัน ก็ยอมให้สมชายถ่ายซีนนี้ได้ยาว ตามที่เขาท่องมาทั้งหน้านึง เพื่อจะเทศน์ให้ชาวบ้านฟัง แล้วปรากฏว่า Extra ที่เป็นชาวบ้าน ที่เราเอามาเข้าฉากร้องไห้กันเป็นแถบ จิกโก๋ ร้องไห้แน่ฉากนี้ Q แล้วกับ “เต้-ปิติศักดิ์” ที่มารับบทเป็น “ปอ” ในเรื่องนี้ เต้เนี่ยเราชอบการแสดงของเค้าอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เราก็เลยลองเสี่ยงลองชวนเค้ามาคุยดู ปรากฏว่าเค้าก็ตอบตกลง เราก็บอกว่าเล่นหนังเรื่องนี้ ต้องโกนหัวด้วยนะ โกนจริง ผมไม่ทำ effect เขาก็ยินดีที่จะโกนหัวให้ในหนัง แล้วก็ประทับใจมากที่สุดก็คงเป็นซีนที่ คาแรกเตอร์ของตัวเต้ ซึ่งเล่นเป็นปอในเรื่อง ปอเป็นตัวละครที่เรียกว่า จับพลัดจับพลูเข้ามาอยู่ในกลุ่มของสามโจรที่เข้าไปปล้น ส่วนที่ดีของเขาก็มีเป็นธรรมดา แล้วก็เป็นตัวละครที่เลือกทำในสิ่งที่ถูก ที่ควรจะเป็น คือปอจะรู้สิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ และควรเลือกที่จะทำสิ่งไหน และควรเลือกที่จะเดินทางไปทางไหน Q พูดถึง “ทราย เจริญปุระ” มารับบท “น้ำผึ้ง” ตัวละครที่ถือว่ามีสีสันและเป็นส่วนสำคัญของเรื่องอีกคน มาถึงตัวละคร น้ำผึ้ง ก็ได้ทรายมาเล่น ถือเป็นร่วมงานครั้งที่ 2 คือหลังจากที่ได้คุยกันกับทีมงาน ผมก็เลยบอกว่า ตัวละครตัวนี้นอกจากที่จะต้องมาเล่นเป็นโสเภณีแล้ว เราอยากได้การแสดงที่แน่นด้วย ซึ่งเราก็เลยมองไปที่ทราย ลองส่งบทไปให้ทรายอ่านดู คืออ่านแล้ว เขาก็ชอบ ก็ตอบโอเค ซึ่งตัวละครที่ทรายเล่นจะเข้ามาเติมเต็มเรื่องราวในหนัง ที่ทำให้เกิดจุดพลิกผันขึ้น เชื่อว่าหลายคนต้องอึ้ง และทึ่งกับความกล้าของทรายในการแสดงในเรื่องนี้ Q เห็นว่ามีการเปรียบเปรยตัวละครของ เต๋า-เต้-เร กับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับบัว 4 เหล่าด้วย คือนอกจากจะรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวแล้ว คนดูก็จะลุ้นกับตัวละครด้วย เราจะลุ้นเชียร์ตัวละครอยู่ตัวนึงที่ว่า มันจะชั่วไปเลยมั้ย หรือมันจะกลายเป็นคนดี เหมือนอย่างที่ศาสนาสอนให้เรารู้จักบัว4เหล่า มีบัวใต้น้ำ มีบัวใต้ตม มีบัวโผล่ขึ้นมาครึ่งน้ำ และมีบัวที่โผล่พ้นน้ำเรากำลังลุ้นตัวละครตัวหนึ่งว่ามันจะเป็นบัวที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมารึปล่าว แต่มันมีเหตุจูงใจหลายๆอย่าง ที่ทำให้ตัวละครตัวนี้มันไขว้เขวอยู่ตลอดเวลา มันจะเลือกไปทางไหนดี ผมว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังมันสนุกขึ้น กับตัวละครที่กำลังจะเลือกว่าจะเดินไปทางไหน จะชั่วหรือจะดี จะเป็นบัวใต้น้ำ หรือเป็นบัวพ้นน้ำ Q นอกจากความเป็นหนังแอ๊คชั่นดราม่าที่เข้มข้นแล้ว หนังเรื่องนี้ยังมีแง่คิดดีๆ เคลือบอยู่ด้วย นอกจากเรื่องราวที่น่าติดตามของตัวละครทุกๆตัวแล้ว ผมแทบจะบอกว่าเกือบจะทุกฉาก เกือบจะทุกตอนของหนัง นอกจากความสนุกหรือเรื่องราวแอ๊คชั่นที่ชวนติดตามของหนังแล้ว เราพยายามที่จะแทรกแล้วก็สอดในสิ่งที่ศาสนาสอนเราไว้ว่าสิ่งไหนเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นข้อคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่คอยชวนให้เราได้รู้สึกว่า มันเป็นจริง มันเป็นข้อคิดบางอย่างที่เราเอามาปรับใช้ได้ หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกที่ศาสนาเคยพูดกับเราไว้แล้ว เหตุการณ์แบบนี้ หรือว่าข้อมูลอะไรต่างๆ หรือว่ารายละเอียดปลีกย่อยอะไรเล็กๆน้อยที่เกี่ยวข้องกับคำสอนที่เกี่ยวกับข้อคิดได้ มันจะคอยสอดแทรกอยู่ตลอด แทบจะทุกฉาก Q เห็นว่าในหนังจะมีพาร์ทอาจทำให้ผู้ชายอกสามศอกเสียน้ำตาได้ คือเรื่องของการบวชเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชายไทยอยู่แล้ว ถ้าใครที่ยังไม่ได้บวช หรือรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดี ผมว่ามีน้ำตาซึม ผมคุยกับคนเขียนบทแต่แรกอยู่แล้วว่า หนังเรื่องนี้อ่ะ ดูจบแล้วจิ๊กโก๋ร้องไห้นะ ผมมีความรู้สึกอย่างนั้น แล้วผมก็อยากให้จิ๊กโก๋ดูแล้วร้องไห้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าคนดูจะรู้สึกได้ขนาดนั้นรึปล่าว แต่ผมกำลังตั้งใจอยากให้จิ๊กโก๋คนนึง นักเลงคนนึงร้องไห้ ถ้าผมทำตรงนี้ได้ผมถือว่าผมทำบางอย่างสำเร็จ บางคนอาจจะคิดถึงขั้นว่ากลับไปบวชให้แม่เลยถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ Q กว่า 3 ปีตลอดระยะเวลาในการเดินทางของ “นาคปรก” ทั้งเรื่องเรตติ้ง เรื่องกองเซ็นเซอร์ รวมไปถึงการทำประชาพิจารณ์ จนมาถึงวันที่หนังกำลังจะได้ฉาย รู้สึกอย่างไรบ้าง ดีใจ ดีใจมากด้วย คือในฐานะผู้กำกับที่อยู่กับหนังมาตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มเปิดกล้อง จนปิดกล้อง คือมันเหมือนลูก พอปิดกล้องเสร็จ ตัดต่อเสร็จ เราก็อยากให้คนได้เห็นมัน อยากรู้สึกว่าคนรู้สึกอย่างไร ระหว่างที่รอมันเหมือนยังไม่หายเหนื่อย จนกว่าคนจะได้เห็นหนัง แล้วเรื่องนี้ผ่านอะไรมาเยอะมากกว่าจะได้ฉาย ที่ผ่านมาเหมือนมันยังหายเหนื่อยไม่สุด มาถึงตอนนี้ก็ดีใจมาก แล้วก็เชื่อว่าคนดูจะเปิดใจไปพิสูจน์สิ่งที่อยู่ในหนังกัน Q สุดท้ายคิดว่าคนไทยจะเปิดใจชมภาพยนตร์เรื่องนี้มากน้อยแค่ไหนกัน กังวลเหมือนกันแต่ว่าคนเราน่าจะยอมรับในสิ่งที่มันไม่ดีไม่ควรดูบ้าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เพื่อเป็นคติ เพื่อเป็นข้อคิด หนังเรื่องนี้ อยากจะนำเสนออะไรที่แรง คือนอกจากในความเป็นหนังแอ๊คชั่นเข้มข้น ผมเชื่อว่าแมสเซจที่หนังต้องการจะบอก จะทำให้คนดูได้แง่คิดดีๆติดตัวกลับไป คุณจะรู้ว่าควรจะเลือกทำสิ่งไหน เลือกที่จะเดินลงนรกหรือจะเลือกทางขึ้นสวรรค์ ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วคุณจะรู้ว่าศาสนาจะให้อะไรดีๆ ในหัวใจของคุณได้บ้าง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ