บทสัมภาษณ์ “ตาล-กัญญา รัตนเพชร์” พลิกคาแร็คเตอร์น่าจับตา ในภาพยนตร์หลอนระทึก “ฮู อาร์ ยู” (Who R U?)

ข่าวบันเทิง Thursday February 18, 2010 14:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม กลับมาขึ้นจออีกครั้งในบทเด็กสาวขี้โรคที่ต้องเข้าไปเผชิญกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงในภาพยนตร์หลอนระทึกเรื่อง “ฮู อาร์ ยู” (Who R U?) ของผู้กำกับ “ภาคภูมิ วงษ์จินดา” งานนี้สาว “ตาล-กัญญา รัตนเพชร์” ก็ยอมพลิกคาแร็คเตอร์มาโทรมสุดชีวิตครั้งแรกด้วย เตรียมจับตาการแสดงครั้งใหม่ของเธอนี้กันได้เลย บทบาท-คาแร็คเตอร์ เรื่องนี้ตาลรับบทเป็น “ป่าน” ค่ะ ก็จะเป็นคนขี้โรคนะคะ แล้วก็จะเป็นภูมิแพ้อย่างหนัก ซึ่งจะต้องอยู่แต่ในห้อง ห้องแบบห้องเปล่าๆ สะอาดๆ เพราะฉะนั้นเนี่ย ห้องของป่านก็จะเป็นห้องขาวๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะว่าห้ามมีขี้ฝุ่นเลย แล้วป่านก็จะไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ คือออกไปได้แต่ว่าน้อยมากๆ เลยค่ะ เพราะออกไปแต่ละทีก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคค่ะ แม่เลยไม่ให้ออกไปไหน ให้อยู่แต่บ้านอย่างเดียว เรียนก็ไม่ให้ไปเรียน เราไม่เคยรับรู้โลกภายนอกเลย เวลาที่เราได้ออกจากบ้านครั้งหนึ่งเนี่ย ก็คือได้ออกไปหาคุณหมอ หรือออกไปหาแม่ข้างนอก แต่คือข้างนอกนี้แบบบริเวณบ้านนะคะ พอเราออกไปก็เหมือนแบบเหมือนนกออกจากกรงน่ะค่ะ เราก็จะรู้สึกแบบตื่นตาตื่นใจกับโลกภายนอกมากๆ เรื่องนี้ตาลเปลี่ยนลุคไปอีกแล้ว เห็นเปลี่ยนลุคทุกเรื่องเลย ใช่ค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะว่าให้คนดูได้เห็นในอีกภาพหนึ่งที่ไม่ซ้ำเดิมค่ะ บทบาทเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องก่อนๆ ยังไงบ้าง แตกต่างมากๆ เลยค่ะ แล้วก็เป็นบทที่ตาลอยากได้มาตั้งนานแล้ว เพราะว่าเรื่องนี้เนี่ย จริงๆ ถ้าใครไปดูแล้วเนี่ย จะบอกว่ามันเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ไปเลย คือในเรื่องนี้เนี่ย ตัวป่านจะชอบอะไรที่เกี่ยวกับพวกชุดคอสเพลย์ค่ะ เพราะว่าชอบอ่านการ์ตูนอยู่แต่ในห้อง เป็นเด็กผู้หญิงที่ชอบอ่านการ์ตูนแล้วก็ชอบจินตนาการไปต่างๆ นานา ชอบแต่งตัวเหมือนการ์ตูนอะไรอย่างนี้ค่ะ เหมือนเขาอยู่ในห้องเปล่าๆ เนี่ย เขาก็จะมีจินตนาการของเขาตลอดเวลา ในเรื่องนี้ตัวป่านต้องไปเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง ต้องเล่าพื้นเพนิดหนึ่งค่ะ คือป่านเนี่ยเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของต้นซึ่งเป็นลูกของพี่นกนะคะ ต้นเนี่ยจะช่วยป่านทุกอย่าง แต่มีอยู่วันหนึ่งเนี่ย ต้นที่อยู่บ้านตรงข้ามหายไป ป่านก็ไม่ค่อยได้รับรู้อะไร เพราะต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเหมือนกัน แล้วจู่ๆ วันหนึ่งมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ป่านต้องเผลอเข้าไปในบ้านต้นจนไปเจอเรื่องคาดไม่ถึงด้วยค่ะ ตัวละครของป่านก็เหมือนกับว่าเป็นตัวแทนของคนดูเหมือนกัน ใช่ค่ะใช่ เพราะว่ากล้องเนี่ยจะตามหลังป่านเลย เพราะฉะนั้นคนดูกับป่านเนี่ยก็จะเห็นพร้อมกัน ป่านเห็นอะไรเขาเห็นอย่างนั้น ก็เหมือนพาคนดูเข้าไปเผชิญเหตุการณ์หลอนๆ ด้วยค่ะ กลับมาร่วมงานกับพี่นกอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกเป็นยังไงบ้างในเรื่องนี้ ดีค่ะดี พี่นกเขาน่ารัก แล้วก็สอนหลายๆ เรื่อง แล้วก็เคยร่วมงานมาแล้วเรื่องหนึ่งตอน “รักแห่งสยาม” พอมาเรื่องนี้เนี่ยก็เลยรู้สึกว่าง่ายขึ้นค่ะ ไม่ค่อยเกร็งเหมือนเรื่องแรกแล้ว กับพี่เพื่อนก็กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ใช่ค่ะ พี่เพื่อนก็น่ารักเหมือนเดิมค่ะ แล้วพี่เพื่อนเขาจะคอยบอกว่าคุณเป็นอย่างนี้นะ คือแบบว่าเขาจะไม่บังคับเรา คือเขาจะให้ตาลเล่นเป็นตัวป่านในสไตล์ของตาล เขาจะไม่บังคับว่า ต้องเป็นอย่างนี้เด๊ะๆ นะ หรือว่าต้องเป็นอย่างนี้อะไรอย่างงี้ เขาจะให้เราลองเล่นให้ดูก่อนว่าในความคิดของเราเนี่ยป่านควรจะเป็นยังไง ตาลก็ชอบเหมือนกันค่ะ กับพี่เพื่อนนี่จะเห็นตาลตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลย ตั้งแต่แบบเล่นหนังช่วงแรกๆ เลย ก็ดีค่ะพี่เพื่อนเขาก็น่ารักเหมือนเดิมเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเรื่องก่อนที่ตาลเล่นกับพี่เพื่อนเรื่องนั้นเนี่ย เราจะใช้บทเล่นแบบอิมโพไวส์หน้ากล้องมากกว่า แต่เรื่องนี้เรามีบทเลย เพราะฉะนั้นมันก็จะเปลี่ยนแปลงตรงจุดนี้แหละค่ะ ส่วนเรื่องการทำงานอื่นๆ ก็เหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ อะไรยากที่สุดสำหรับการเล่นเรื่องนี้ ตาลคิดว่าเป็นความคิดของตัวเองมากกว่าค่ะ เพราะว่าจริงๆ เวลาที่ตาลเล่นทั้งหนังหรือละครอย่างนี้ ตาลจะใช้แบบคิดในใจแล้วก็เล่นออกมา แต่เรื่องนี้มันยาก เพราะว่ามันป่วยโทรมสุดๆ มันต้องคิดตลอดเวลา มันก็เลยค่อนข้างยากค่ะ แบบเราต้องจินตนาการเอง เราต้องแบบคิดเองอะไรอย่างงี้ อย่างฉากที่อยู่ในบ้านเนี่ย ตาลต้องเล่นคนเดียวหมด เพราะฉะนั้นตาลต้องจินตนาการเองทุกอย่าง ตาลต้องจินตนาการว่าเห็นจริงๆ นะ ต้องแบบทำให้ทุกคนเชื่อว่าตาลเห็น แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย อะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นมันก็ค่อนข้างยากเหมือนกันค่ะ ฉากประทับใจมีอะไรบ้าง ฉากประทับใจเหรอคะ ก็คงเป็นฉากที่อยู่หน้ากระจกค่ะ อยู่หน้ากระจกแต่งตัวเป็นคอสเพลย์แล้วก็คุยโทรศัพท์กับแม่ ที่ชอบเพราะว่า คือคนดูอาจจะเฉยๆ แต่ความรู้สึกของตาลในการเล่นเนี่ยมันมีหลายความรู้สึกมากเลย ทั้งความคิดแปลกๆ ทั้งความรู้สึกที่ป่านมีต่อแม่ ทั้งความคิดที่แบบคนปกติธรรมดาไม่น่าจะคิดได้อะไรอย่างนี้แต่ผู้หญิงคนนี้คิดได้ คือมันมีหลายอารมณ์อยู่ในคนๆ เดียว ณ เวลาช่วงนั้นเวลาเดียว มันก็จะเกิดอารมณ์สับสนของตัวละครด้วยอะไรด้วย ความน่าสนใจโดยรวมของหนังเรื่องนี้ ตาลคิดว่าหนังเรื่องนี้นะคะ ประเด็นของมันก็จะเป็นเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง เด็กผู้ชายที่ชื่อต้นเนี่ย เขาเป็นโรคฮิคิโคโมริค่ะ เป็นโรคของญี่ปุ่นที่แบบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอย่างเดียวแล้วในหนังมันก็จะสะท้อนความเห็นว่า คนเราเนี่ยเวลาที่อยู่ในห้องเปล่าๆ ห้องสี่เหลี่ยมตลอดเวลาเนี่ยจะเป็นยังไง ทั้งป่านทั้งต้นเนี่ยเป็นคล้ายๆ กัน แต่ป่านเนี่ยดีหน่อยที่ได้ออกมา แต่ต้นเนี่ยอยู่แต่ในห้องตลอดเลย เพราะฉะนั้นเนี่ยหนังเรื่องนี้ตาลว่าจะสะท้อนมุมมองความคิดของเราต่อสิ่งรอบข้าง มันก็จะสะท้อนว่าแบบมันจะคิดยังไง แล้วมันก็จะมีผลต่อครอบครัวหรือผลต่อทุกอย่างยังไงบ้างค่ะ ตาลก็อยากให้ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้นะคะ ตาลคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ค่อนข้างจะแหวกแนวไปจากหนังเรื่องอื่นของเมืองไทยในระยะหลังๆ เลย แล้วก็ไม่ค่อยมีใครได้ทำหนังแนวนี้เท่าไหร่นะคะ แล้วเรื่องนี้ก็ยังได้พี่นก สินจัยมารับบทนำด้วยค่ะ ตาลคิดว่าน่าดูมากๆ เลยนะคะทั้งเนื้อเรื่องทั้งตัวละคร อย่างตาลเป็นตัวแสดงเองเนี่ย บางทีตาลก็ยังคิดสับสนแบบเดียวกับตัวละครของตาลเลย เพราะว่าตัวละครนี้เนี่ยมันเล่นยากค่ะ ยังไงก็ฝากด้วย 25 ก.พ.นี้นะคะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ