โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เริ่มการผลิตก๊าซฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 24, 2010 07:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--ปตท.สผ. โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 (MTJDA-B17) เริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็น ครั้งแรกแล้ว สนองตอบความต้องการก๊าซฯ ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 และรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศไทยได้อย่างน้อยอีก 16 ปี นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ (Mr. Anon Sirisaengtaksin) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า CPOC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 ได้เริ่มการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งมูด้า และแหล่งเจงก้าแล้ว โดยขณะนี้สามารถเพิ่มอัตราการผลิตจนถึงระดับตามที่ตกลงไว้ในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ 135 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีการผลิต คอนเดนเสทที่ประมาณ 4,900 บาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มระดับการผลิตก๊าซฯ เป็น 335 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2553 นี้ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของความต้องการก๊าซฯ ภายในประเทศ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี-17 ประกอบด้วย แปลงบี-17 แปลงซี-19 และแปลง บี-17-01 มีพื้นที่รวมประมาณ 8,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนล่างของอ่าวไทยในบริเวณพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ห่างจากจังหวัดสงขลาประมาณ 260 กิโลเมตร และจากเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียประมาณ 150 กิโลเมตร โดย บริษัท ปตท.สผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ปตท.สผ.อ.) และบริษัท ปิโตรนาส ชาลิการี (เจดีเอ) เซนเดอเรียน เบอร์ฮาด (พีซี เจดีเอ) ของมาเลเซีย ได้เข้ารับสิทธิในสัญญาแบ่งปันผลผลิตในแปลงดังกล่าวจากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ในปี 2537 และปี 2547 ตามลำดับ ในปี 2537 ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Carligari-PTTEPI Operating Company Sdn. Bhd. หรือ CPOC ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นผู้ดำเนินการโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 ซึ่งต่อมาได้มีการสำรวจพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบหลายแหล่ง ได้แก่ แหล่งมูด้า แหล่งเจงก้า แหล่งตาปี แหล่งอันดาลัส และแหล่งตันจุง เป็นต้น จากนั้นได้ทำการพัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งสามารถเริ่มการผลิตก๊าซฯ ครั้งแรกได้ดังที่กล่าวมาแล้ว โดยโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 จะสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานให้กับประเทศได้อีกอย่างน้อย 16 ปี หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายกิจการสัมพันธ์ สิทธิไชย ไชยันต์ โทร. 02 537 4592 E-mail: sidhichaij@pttep.com / ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail: tongchitp@pttep.com / นวลเพ็ญ สุขอร่าม โทร. 02 537 4476 E-mail: nuanphens@pttep.com โทรสาร 02 537 4982

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ