HTECH ผนึกพันธมิตรสิงคโปร์ตั้งบ.ร่วมทุน เปิดเกมรุกขายเครื่องมือตัด-ผลิตชิ้นส่วนโลหะ เจาะลูกค้าทุกอุตสาหกรรม

ข่าวเทคโนโลยี Thursday February 25, 2010 16:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--IR PULS แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จับมือพันธมิตรสิงคโปร์ ตั้งบริษัทร่วมทุน " แฮลเทค " จําหน่ายเครื่องมือตัด-ผลิตชิ้นส่วนโลหะ เจาะตลาดในทุกอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนโลหะ หวังกระตุ้นยอดขาย เพิ่มกำลังการผลิต คาดดำเนินการแล้วเสร็จเดือนมี.ค.นี้ พร้อมกับโชว์ผลงานปี 52 ฟันกำไรรวม 65 ล้านบาท ' พีท ริมชลา ' กรรมการผู้จัดการ ระบุบอร์ดบริษัทใจดีสั่งจ่ายปันผลทันทีในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 29 เม.ย.นี้ พร้อมย้ำเป้ารายได้ปี 53 เติบโตอยู่ที่ 350 ล้านบาท นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จํ ากัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท แฮลเทค จำกัด ( Haltek ) เพื่อประกอบธุรกิจจัดจําหน่ายเครื่องมือตัด เพื่อใช้ในการผลิตชิ้นส่วนโลหะต่างๆ ของทุกอุตสาหกรรม โดยคาดว่าน่าจะจัดตั้งได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ บริษัท แฮลเทค จำกัด มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท จำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 1,000,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท HTECH คือ Halcyon Technology (Thailand)Plc.(ไทย) โดยถือหุ้นในสัดส่วน 700,000 หุ้น หรือ 70% และ Atek Precision Tooling Pte Ltd. (สิงคโปร์) ถือหุ้นในสัดส่วน 300,000 หุ้น หรือ 30% สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ จะช่วยเกื้อหนุนกันในแง่ของการลงทุนด้านต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการขยายตลาดเครื่องมือตัด ในกลุ่ม Carbide Cutting Cools ให้ครบวงจร ไปยังลูกค้า ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดย Atek จะให้การสนับสนุนในด้านเทคนิค และการสำรองสินค้า ซึ่งจะทำให้ HTECH สามารถขยายฐานลูกค้าเครื่องมือตัดไปยังอุตสาหกรรม ต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น และสามารถขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น เนื่องจาก Atek เป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องมือตัดจากประเทศจีน ซึ่งมีขอบเขตการจําหน่ายในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย เขากล่าวต่อถึง ผลประกอบการงวดปี 2552 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 65.03 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิ 70.99 ล้านบาท 'แม้ผลประกอบการปีที่ผ่านมาจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2551 เป็นผลมาจากในช่วงครึ่งปีแรกประสบปัญหาเศรษฐกิจโลกทรุดตัวอย่างรุนแรง ทำให้รายได้ในช่วงนั้นลดลง แต่ในครึ่งปีหลัง บริษัทได้เร่งการผลิตอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้ผลประกอบการโดยรวมของทั้งปีลดลงเล็กน้อยจากปี 2551 แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย คือเกินระดับ 80% ของทั้งปี 2551"นายพีทกล่าว ส่วนแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปี 2553 คาดว่า น่าจะเป็นปีที่ดี ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากลูกค้าทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์มีการขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ดังนั้นจึงเชื่อว่าน่าจะผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท โดยประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมฯ ปีนี้คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ประมาณ10-15% จากปี 2552 อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำ ปี 2552 ให้กับ ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท ซึ่งเป็นเงินปันผลจากกิจการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 19,200,000 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 เมษายน 2553 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุด ทะเบียนพั กการโอนหุ้ นในวันที่ 19 เมษายน 2553 และกำหนดวั นจ่ายเงินปันผลใน วันที่ 29 เมษายน 2553 ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ IR PULS : คุณฉัฐวีณ์ จิราวัฒนพงศ์ (ก้อ) โทร.02-554-9396 E-mail : chatthavee@irplus.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ