เซ็นทรัลรีเทลมั่นใจทิศทางธุรกิจปีเสือ เตรียมเทงบลงทุนกว่า 9,800 ล้านบาท ขยายธุรกิจต่อเนื่อง แตกธุรกิจบริการใหม่ Financial Services

ข่าวทั่วไป Wednesday March 3, 2010 15:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ด้วยความสำเร็จจากอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง เซ็นทรัลรีเทลมั่นใจทิศทางธุรกิจ 2553 เตรียมงบลงทุนเพิ่มอีก 9,800 ล้านบาท ผุดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ปรับโฉมยิ่งใหญ่ห้างเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าว เพิ่มไลน์สินค้าแบรนด์ใหม่ พร้อมเผยเคล็ดลับการบริหารงานให้ประสบผลสำเร็จท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจการเมือง ทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวใน CEO Update 2010 ว่า “ในปี 2552 เซ็นทรัลรีเทลมีอัตราการเติบโต 8% รายได้ 92,310 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยความสำเร็จมาจากสาขาที่เปิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสาขาที่เปิดในพัทยา ชลบุรี ขอนแก่น และ ไทวัสดุ เป็นต้น สำหรับปี 2553 เราตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายถึง 97,110 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 5.2% พร้อมแตกธุรกิจบริการใหม่ Financial Services ” ผลงานความสำเร็จที่ชัดเจนของการบริหารจัดการในปีที่แล้วจะเห็นได้จาก การขยายธุรกิจและการขยายสาขา อย่าง เซ็นทรัล สาขาพัทยา โรบินสัน 2 สาขาที่ชลบุรีและขอนแก่น โฮมเวิร์ค สาขา ราชพฤกษ์ ร้านไทวัสดุ รวมถึงการจัดตั้ง บริษัท เซ็นทรัล เพจวัน ประเทศไทย จำกัด และการปรับโฉมห้างเซ็นทรัลสาขาบางนา นอกจากนี้ยังได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด เพื่ออำนวยความสะดวกให้การขนสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสิ้นปี 2552 เซ็นทรัลรีเทลมีร้านค้าจำนวน 417 สาขาทั่วประเทศ การลงทุนในปี 2553 วางแผนไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ 1. การเปิดสาขาใหม่ และ Land Bank บริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาใหม่ อาทิ โครงการพัฒนาที่ดินสถานทูตอังกฤษ โรบินสันสาขาตรัง และร้านไทวัสดุ สาขาบางบัวทอง สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนมีแผนการเปิดที่แน่นอนแล้ว โดยจะเป็นห้างเซ็นทรัล สาขาหังโจว เป็นสาขาแรกในเดือนเมษายน ส่วนเมืองอื่นๆ ที่มีศักยภาพได้แก่ เซียงไฮ้ ปักกิ่ง เสิ่นหยาง เทียนจิน กวางซู และซูโจว ทั้งนี้ การเปิดสาขาใหม่และ Land Bank มีงบลงทุน 4,800 ล้านบาท 2. การปรับปรุงสาขาเดิม มีงบประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นหนักที่ห้างเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าว นอกจากนี้ยังมีที่ ห้างเซ็นทรัลสาขาปิ่นเกล้า ชิดลม ภูเก็ต และโรบินสัน สาขาหาดใหญ่ 3. Merger & Acquisition 3,000 ล้านบาท 4. เทคโนโลยีเพื่อช่วยการบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำนวน 500 ล้านบาท อีกปัจจัยความสำเร็จหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จมากลยุทธ์ CRM ซึ่งมีฐานสมาชิก The 1 Card อยู่ที่ 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% และสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น 75% ส่วน Spot Reward 4.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% และสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น 84% ในปีที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังมีงานสำคัญระดับรัฐ อาทิ งาน CEO Forum ที่จัดขึ้นทุกปี โดยปีนี้เราได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ท่าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นองค์ปาฐก และรับฟังข้อเสนอจากกลุ่มนักธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของเซ็นทรัลรีเทล เป็นประจำทุกปีที่บริษัทคู่ค้าจะได้รับทราบข้อมูลล่าสุดของบริษัทฯ ภาพรวมธุรกิจ ทิศทางการค้า และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งต่อมาส่งผลให้เกิดการประชุมระหว่างนักธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของประเทศกับนายกรัฐมนตรี โดยมีเซ็นทรัลรีเทลเป็นแกนนำ เพื่อหาแนวทางสนับสนุน แบรนด์ไทยเพื่อการส่งออก และในไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทฯจะได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพต้อนรับห้าง Parkson ห้างสรรพสินค้าอันดับ 1 ของมาเลเซีย ซึ่งมีทั้งผู้บริหารและทีมจัดซื้อมาเยี่ยมชมกิจการของบริษัทในเครือเซ็นทรัลรีเทล เพื่อเลือกชมสินค้าและเจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตจำหน่ายสินค้าสัญชาติไทย ตลอดจนการส่งออกสินค้าแบรนด์ไทย ความสำเร็จที่กล่าวมาถือได้ว่า ความสำเร็จมาจากกลยุทธ์บริหารธุรกิจและการบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซ็นทรัลรีเทลได้พัฒนาโครงการ Management Trainee เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานไปสู่อนาคตการบริหารงานอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมี โครงการ Smile D ศูนย์รับฟังปัญหาของพนักงานโดยนักจิตวิทยาอาชีพและนักให้คำปรึกษาที่มีประสบการณ์ ทศ จิราธิวัฒน์ กล่าวย้ำว่า เคล็ดลับการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ และความไม่นิ่งของการเมือง มาจากหลายองค์ประกอบ แต่มีหลักอยู่ 3 ประการคือ พยายามเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิมและเพิ่มสาขาใหม่ การบริหารค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม และการเพิ่มประสิทธิผลด้านพื้นที่และบุคคลากร ” ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือเป็นผู้นำในด้านธุรกิจค้าปลีกการบริหารงาน ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต และการค้าปลีกแบบจำหน่ายสินค้าเฉพาะด้าน (Specialty) ในประเทศไทย โดยบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจภายใต้เซ็นทรัลรีเทล ได้แก่ เซ็นทรัล โรบินสัน เพาเวอร์บาย บีทูเอส ซูเปอร์สปอร์ต ท็อปส์ โฮมเวิร์ค ไทวัสดุ ออฟฟิศดีโป เพจวันและเซน ซึ่งเป็นที่รู้จักดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทย ตลอดจนนักท่องเที่ยวรวมไปถึงนักธุรกิจในแวดวงค้าปลีกในภูมิภาค ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 417 สาขาทั่วประเทศ รวมพื้นที่แล้วกว่า 1 ล้านตารางเมตร รางวัลและการยอมรับต่าง ๆที่ได้รับในปี พ.ศ. 2552 บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด รับมอบโล่เชิดชูเกียรติในงาน "68 ปี อาชีวะไทย ก้าวไกลสู่อนาคต" จาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มอบให้เนื่องจากบริษัทฯสร้างคุณประโยชน์ต่อการอาชีวศึกษา ในการร่วมมือพัฒนาการเรียนการสอน ตลอดจนการฝึกอาชีพ ในระบบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โดยคุณยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัดรับเครื่องอิสริยาภรณ์อิตาลี "Cavaliere dell'Ordine della stella della Solidarieta' Italiana"จาก ฯพณฯ มร. อิญญาซิโอ ดิ ปาเช เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ในฐานะบุคคลที่มีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศอิตาลี ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์ ต่อเนื่องสามปีซ้อน โดยนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบประกาศเกียรติคุณรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานและสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2552 ให้กับ บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ในฐานะสถานประกอบการที่มุ่งมั่นเอาใจใส่พนักงาน ทั้งสิ้น 17 สาขา หากต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด โทร. 02 100 9785-7 แฟกซ์ 02 100 9777 โยธิน ธรรมจำรัส (โย) 02 100 9781 ประภาพร นามวงศ์ (น้องเล็ก) ภัทรวรรณ ราตรีสวัสดิ์ (โอ๊ต) กฤตยาวีร์ สุมาลี (วี) เมธินี ชาญวลิชล (เมย์) นัทธมน สุวรรณจินดา (แอน)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ